ฉันชี้ภาพปราสาทรกร้างบนกระดาษยับๆ ให้คุณลุงชาวกัมพูชาคนหนึ่งดู คุณลุงเป็นคนขับรถตุ๊กตุ๊ก ในเมืองเสียมเรียบที่ฉันเจอเข้าโดยบังเอิญในย่านตลาดเก่า หรือ Pub Street
“ที่นี่ไม่ไป…ไกลเกิน” คุณลุงปฏิเสธด้วยสีหน้าฉงน ราวกับว่าการที่ฉันจะจ้างตุ๊กตุ๊ก ออกนอกเมืองไปยังปราสาทเบ็ง มีเลียเป็นเรื่องที่คนปกติเขาไม่ทำกัน พร้อมแนะนำให้ฉันหาเช่ารถแท้กซี่
ฉันมาคนเดียว การหาแชร์แท้กซี่เป็นเรื่องยากเพราะนักเดินทางแต่ละคนตารางการเดินทางไม่เหมือนกัน จะเหมาไปเองก็ไม่ได้เพราะราคาสูงลิ่ว จ่ายคนเดียวไม่ไหว ไม่เหมือนกับรถตุ๊กตุ๊กเขมรที่ทั้งราคาถูกและนั่งสบาย การได้นั่งให้ลมตีหน้าฉันว่าได้บรรยากาศของการออกเดินทางดี สุดท้ายจึงได้น้องคนขับตุ๊กตุ๊กที่ทางโฮสเทลจัดแจงไว้ให้ ชายหนุ่มคนนี้พอจะรู้เส้นทางขับไปเบ็ง มีเลีย แต่ยังไม่เคยไปจริงๆ สักที
ปราสาทเบ็ง มีเลีย อยู่ห่างจากตัวเมืองเสียมเรียบถึง 70 กว่ากม.
ไม่มีใครรู้ว่าใครเป็นคนสร้างปราสาทอันใหญ่โตแห่งนี้ขึ้นมา ไม่พบหลักศิลาจารึกใดบันทึกไว้
นักประวัติศาสตร์จึงได้แค่สันนิษฐานจากรูปแบบของสถาปัตยกรรมและงานแกะสลัก ซึ่งมีความคล้ายคลึงนครวัดว่า น่าจะสร้างขึ้นสมัยศตวรรษที่ 12 ตอนต้น ในรัชสมัยของพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 ยุคนครวัด (Angkor Wat)
ตัวปราสาท มีตะไคร่น้ำสีเขียวเกาะหนาตามหินอยู่ทั่วไป สภาพปราสาทเหมือนถูกรื้อโค่นจากการชอนไชของรากไม้ที่มีพลังมหาศาล จนพังรกร้างอยู่กลางพงไพรในเขมร กองหินเป็นพะเนินสูง แต่ยังทิ้งร่องรอยของความยิ่งใหญ่และเรืองอำนาจในยุคเก่าก่อนไว้อย่างน่าอัศจรรย์ จนฉันรู้สึกเหมือนได้เดินเข้ามาในฉากหนึ่งของหนังแนวอินเดียน่าโจนส์
ร่มไม้ ทำให้เกิดเงา ซ่อนปกคลุมบางพื้นที่ของปราสาท จนทำให้ดูขลังและลึกลับ ราวกับไม่อยากให้ใครได้พบเห็น อีกส่วนก็ทำให้เกิดแสงอาทิตย์ส่องลอดลงมา ฉายให้เห็นเป็นไฮไลท์แค่บางมุม ราวกับท้าทายให้นักเดินทางเข้าไปค้นหา
เบ็ง มีเลีย แปลว่า สระบัว คนที่สร้างปราสาทนี้ไว้คงต้องเป็นกษัตริย์ที่มีอำนาจล้นเหลือ เพราะปราสาทตั้งอยู่ในจุดยุทธศาสตร์ที่สำคัญ คลองเบื้องหน้าตรงออกสู่ทะเลสาบใหญ่ที่ใช้ลอยหินศิลาแลง ทดน้ำมาสร้างนครวัดในสมัยโบราณ ทิศตะวันออกมุ่งสู่ปราสาท Preah Khan (ปราสาทสำคัญทีพระเจ้าชัยวรมันสร้างถวายพระบิดา) และเส้นทางหลวงมุ่งสู่ Koh Kerin
งานแกะสลักของตัวปราสาทเองก็สร้างความประหลาดใจให้นักประวัติศาสตร์หลายคนไม่ใช่น้อย เพราะมีทั้งร่องรอยของศาสนาฮินดู พระศิวะ พระนารายณ์ ปนกับภาพแกะสลักของพระศากยมุนีพุทธเจ้า



ฉันเดินอยู่ในปราสาทนานเท่าไหร่จำไม่ได้ จำได้แต่ว่าความงามที่ลึกลับแห่งนี้ยังทำให้ฉันเดินหลง วนไปวนมาจนเหนื่อย กลายเป็นความตื่นเต้นในช่วงท้าย ที่ถึงแม้ทางออกของปราสาทจะค่อนข้างชัดเจน แต่ฉันก็เกิดความรู้สึกเถียงอยู่กับตัวเองในใจว่า นั่นไม่ใช่ทางเดินเดิมที่ฉันเดินเข้ามา
การหลงเดินหาทางออกซ้ำๆ เป็นชั่วโมงทั้งๆ ที่เจอทางออกแล้ว เป็นความรู้สึกประหลาดที่เบ็งมีเลียทิ้งไว้ให้
เป็นความรู้สึกที่ติดค้างอยู่ในใจ
และจะยังคงนึกถึงปราสาทลึกลับแห่งนี้ไปอีกนาน.
…………………………………
- วิธีการเดินทางไปเบ็ง มีเลีย: เช่ารถยนต์หรือตุ๊กๆ จากเมืองเสียมเรียบ รถยนต์ราคาประมาณ 100 USD/ ตุ๊กตุ๊กราคา 30 USD
- ค่าเข้าชม: 5 USD
- เวลาเปิด-ปิด: 07.30 – 17.30 น.
- ทางออกมี 2 ทาง แต่หน้าตาเหมือนๆ กัน คือมีหินแกะสลักรูปพญานาคทอดยาวไปถึงตัวปราสาทด้านใน หากหลงให้สอบถามเจ้าหน้าที่ที่สวมเสื้อซาฟารีสีครีม จะเป็นมัคคุเทศก์ที่เดินมากับนักท่องเที่ยวฝรั่ง พูดภาษาอังกฤษคล่อง
- ควรนัดแนะคนขับให้ดีว่าจะมาเจอที่ทางออกใด พร้อมขอเบอร์คนขับไว้ล่วงหน้า (เผื่อหากันไม่เจอ) เพราะหากเดินหลงต้องเดินย้อนกลับไปนานเป็นครึ่งชั่วโมง
- Landmine Alert: ควรเดินอยู่ในเส้นทาง อย่าออกนอกเส้นทาง เพราะป่าในเขมรมีประวัติของการวางกับระเบิด หรือ landmine
สวย มากค่ะ เพิ่งได้ไปกัมพูชาและไปเที่ยวเบ็งมีเลีย รู้สึกชอบแบบบอกไม่ถูก 😊😊
ถูกใจถูกใจ
อยากไปซ้ำอีกรอบจังค่ะ 😁😁
ถูกใจถูกใจ