ดำน้ำเกาะเต่าครั้งแรก! ไปคนเดียวยังเฟี้ยวได้ วิธีเดินทาง วิธีเลือกหน้ากากฟรีไดฟ์ และฟินฟรีไดฟ์ เคทมีมาแชร์ให้อ่านกันคร่าา:
เรื่องมันมีอยู่ว่า เมื่อเดือน ธ.ค.เคทเพิ่งไปฟรีไดฟ์ เริงร่าท้าพายุที่เกาะเต่ามาค่ะ 555+ เหลือเชื่อว่าเพิ่งเคยมาดำน้ำที่นี่ หลังจากมีเหตุให้พลาดมาที่นี่อยู่หลายครั้ง ปรากฏว่ามันฟินมากกก อะไรๆ ก็สะดวกไปหมด นี่ขนาดไปคนเดียว ก็ยังไปหาจอยทริปดำน้ำฟรีไดฟ์เอาที่นั่นได้สบายๆ เลย ^^
การดำน้ำฟรีไดฟ์ครั้งนี้ ด้วยความบ้าเห่อเพราะห่างหายจากการลงทะเลไปนานหลายเดือนเพราะโควิด เคทเลยประเดิมด้วยฟินเซ็ตใหม่ หน้ากากและชุดว่ายน้ำใหม่ (สอยจากร้าน Sea Concept Store) เรียกว่าใหม่ทั้งตัว เลยได้เรียนรู้มาว่า จะฟรีไดฟ์ให้สนุก ความพร้อมของพร๊อบก็สำคัญน้า
จริงๆ เคทเคยเขียนถึงร้านขายฟินและอุปกรณ์ฟรีไดฟ์ Sea Concept Store ไว้แล้วก่อนหน้านี้ ใครสนใจ อ่านได้จากลิงค์นี้ค่า:
สะบัดครีบ เลือกฟินกันให้มันส์ กับ ฟรีไดฟ์ บูทีค ในฝันของนักดำน้ำ│Wander More
Sea Concept Store: https://web.facebook.com/SeaConceptStore
ส่วนใครที่ยังไม่ได้เรียนฟรีไดฟ์ หรือการดำน้ำตัวเปล่า สามารถอ่านข้อมูลได้จากลิงค์นี้ เพื่อประกอบการตัดสินใจค่า:
ทำไมการดำน้ำตัวเปล่า (ฟรีไดฟ์) ทำให้ฉันมีช่วงเวลาที่อิสระที่สุดในชีวิต
ฟรีไดฟ์-การผจญภัย-กับลมหายใจเฮือกเดียว│PADI Free Diving
พิกัดสถานที่ดำน้ำในรีวิวนี้: เกาะเต่า จ.สุราษฎร์ธานี
การเดินทาง: เคทเดินทางแบกฟินไปคนเดียวนั่งรถทัวร์ โดยซื้อแพ็คเกจเรือเร็วลมพระยา+รถบัส ขึ้นรถที่ถนนข้าวสาร กทม. (ให้ความรู้สึกฮิปมาก เหมือนเป็นนักเดินทางต่างชาติ 555+)
ช่วงเวลาที่เคทไป: เดือน พ.ย.-ธ.ค. เป็นช่วงมรสุมของที่นี่ค่ะ มีฝนบ้างบางวัน ใครจะมาให้เช็คสภาพอากาศกันก่อนน้า (ถ้าอยากสนุกให้เลี่ยงช่วงมรสุมไปก่อนค่า)

วิธีเดินทางไปเกาะเต่า มี 2 วิธีหลักๆ ตามนี้นะ
1) สะดวกสุด คือซื้อแพคเกจรถทัวร์+เรือเร็ว ของบริษัทลมพระยาค่ะ อันนี้จะขึ้นรถประมาณ 3 ทุ่มที่ถนนข้าวสาร ก็นอนหลับบนรถทัวร์ยาวๆ ไป ถึงท่าเรือตอนเช้ามืด ประมาณตี 5 แล้วนั่งรอขึ้นเรือสปีดโบ๊ทต่อ ไปเกาะเต่าอีก 2 ชม. *สำหรับคนที่เมาเรือ แนะนำว่าให้หาเรือนอนแทนนะคะ เตือนละน้าา*
2) วิธีที่ 2 คือ นั่งเครื่องบิน มาลงสนามบินชุมพร ให้เช่ารถจากสนามบิน ขับมาท่าเรือค่ะ มันจะไม่สะดวกตรงที่ต้องเช่ารถมาจอดไว้ท่าเรือ แต่ถ้าใครไม่อยากนั่งรถทัวร์นานๆ เคทว่าลองวิธีนี้ได้นะคะ
ส่วนเคท รอบนี้มาวิธีแรกค่ะ คือซื้อแพคเกจลมพระยามาเลย สะดวกดี ติดตรงที่เป็นหน้ามรสุม คลื่นลมแรง ประกอบกับคนไม่ค่อยมี การนั่งสปีดโบ๊ทลำเล็กฝ่าคลื่นลมถึง 2 ชั่วโมง เป็นเรื่องที่ทรหดและแอดเวนเจอร์เหมือนกันค่ะ โดยเฉพาะขากลับ คลื่นแรงมากเบย T^T

เกาะเต่า บางช่วงที่น้ำใส จะใสมาก ใครโชคดีก็ได้เจอน้องเต่าทะเลมาว่ายน้ำเล่นด้วยกัน ใครทำบุญด้วยแพลงตอนมามากกว่านั้น ก็อาจได้เจอเจ้าฉลามวาฬค่ะ ปลาก็เยอะ
ส่วนเคทไปตอนหน้ามรสุม น้ำเลยจะขุ่นๆ หน่อย แต่บางจุดก็ใสบ้างเหมือนกัน ถ้าคลื่นลมแรง ทางทัวร์ดำน้ำเขาจะพาไปดำตรงที่ๆ หลบลม คลื่นสงบกว่า ดำได้ยาวๆ ไป สนุกมากเลย

ดำน้ำตัวเปล่า (ฟรีไดฟ์) มาหลายที่ เหลือเชื่อว่าทริปนี้เป็นทริปแรกที่ได้มาเกาะเต่าค่ะ เคยจะมาแล้วมีเหตุทริปล่มไปหลายครั้ง ในที่สุดก็ได้มาสักที มาคนเดียวก็ไม่ต้องกังวลไป เพราะเราสามารถหาทัวร์ดำน้ำจอยทริปได้เลย เรือออกทุกวันค่ะแม้จะเป็นโลว์ซีซั่น ทัวร์ดำน้ำที่เคทไป เป็นที่ Big Bubble Diving ค่ะ ใครจะไปช่วงโลว์ซีซั่นต้องลองสอบถามเขาดูก่อนนะว่าเขาจะออกเรือช่วงวันที่เราจะไปไหม
แปะลิงค์ทัวร์ดำน้ำไว้ให้ค่ะ Big Bubble Diving
ส่วนที่พัก เคทไปพักที่ Big Tree ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากทัวร์ดำน้ำ Big Bubble และท่าเรือค่ะ ที่พักนี้จะออกแนว Cozy ๆ สบายๆ มีคาเฟ่และน้องหมาอยู่ด้านหน้ารีสอร์ท ในห้องจะมีระเบียงส่วนตัวไว้ให้นอนตากลม ตื่นเช้ามาเดินซื้อของกินได้ แถมยังติดเซเว่นด้วย
แปะลิงค์รีสอร์ทไว้ตรงนี้น้า: Big Tree Boutique Hotel and Cafe’

วิธีเลือกหน้ากากดำน้ำฟรีไดฟ์:
อยากฟรีไดฟ์ให้สนุก อย่างแรกให้เลือกหน้ากากที่ช่วยให้เราดำน้ำได้ยาวๆ ไม่มีฝ้ามาเกาะกวนใจ เขาว่าเลือกหน้ากากดำน้ำฟรีไดฟ์ ให้ดีต้องมาลองที่ร้าน เพราะ
1) รูปหน้าแต่ละคนไม่เหมือนกัน ควรเลือกหน้ากากที่เข้ากันพอดีกับรูปหน้า เวลามาเลือกที่ร้าน ให้เอาหน้ากากทาบหน้า แล้วลองหายใจเข้าดู ว่าพอหายใจเข้าแล้วแนบพอดีกับหน้ามั้ย ถ้ามาลองที่ร้าน Sea Concept Store ก็ตัดสินใจได้ไม่ยาก จะมีพี่ๆ คอยให้คำแนะนำค่ะ
.
2) เลือกหน้ากากที่เคลียร์จมูกได้ง่าย โดยเฉพาะถ้าเรายังเคลียร์จมูกด้วยวิธีบีบจมูก แนบหน้ากากกับหน้า แล้วลองบีบจมูกดู ว่าทรงจมูกของหน้ากากใหญ่ไปไหม

3) หน้ากากแบบ Anti-fog หรือเปล่า ขึ้นอยู่กับความชอบแต่ละคน เพราะยังไงก็มีสเปรย์ Anti-fog ขายอยู่แล้ว แต่เคทเชียร์ให้ซื้อหน้ากาก Anti-fog ไปเลย เพราะจากทริปนี้ เป็นครั้งแรกที่รู้สึกว่าดำน้ำโดยไม่ต้องเคลียร์หน้ากากเลย ดำได้ยาวๆ ไป ไม่มีอะไรมากวนใจ (มีสมาธิแชะภาพใต้น้ำได้นานขึ้นด้วย 555+) คือประทับใจมากจริงๆ
4) ฟรีไดฟ์ เลือกหน้ากากที่มีช่องอากาศน้อย หรือ Low Volume เพราะพอช่องอากาศน้อย หน้าเราจะติดกับหน้ากาก การมองเห็นดีขึ้น อีกเหตุผลหนึ่งคือ เมื่อเราดำดิ่งลงไป หน้ากากจะโดนความดันใต้ทะเลบีบอัดขึ้นมาติดหน้าเรามากขึ้น ยิ่งช่องอากาศน้อยเท่าไหร่จึงยิ่งดี จะได้ไม่เปลืองลมในการ exhale เพื่อปรับหน้ากากมากนัก
..
อันนี้จำมาจาก freediver ดังๆ ในยูทูปเลยน้าา ใครอยากได้หน้ากากใหม่ ก็แวะไปที่ร้าน Sea Concept Storeได้นะฮะ 😅🤗🤩 https://web.facebook.com/SeaConceptStore


สำหรับหน้ากากรุ่นนี้ที่เคทสอยมา สังเกตว่าดีไซน์ตรงข้างจมูก จะมีร่องให้สอดนิ้วเข้าไปได้ง่าย เคลียร์หูง่ายกว่าเดิม แถมรับกับรูปหน้าด้วย

ร้าน Sea Concept Store มี 2 สาขาด้วยกัน คือ
1) ตรง RCA พระราม 9 แผนที่:
https://goo.gl/maps/9eeAbqg5xuiqJTGR7
2) สาขาใหม่ที่แจ้งวัฒนะ แผนที่: https://g.page/SMCoDivingSpace?share
Sea Concept Store เค้าเป็นสปอร์ตบูทีค หรือ concept store และ shop in shop ที่มีสินค้าฟรีไดฟ์มากที่สุดใน South East Asia เลยล่ะค่ะ และได้รับรางวัล THAILAND Green Design Award 2020 มาหมาดๆ ด้วย ที่เคทชอบมาเดินที่นี่ เพราะนอกจากสินค้าจะเยอะแล้ว ยังรู้สึกเหมือนได้มาเจอคนในครอบครัวอีกด้วย บรรยากาศในร้านก็จะเป็นกันเอง เหมือนมาบ้านเพื่อนค่ะ

หน้ากากฟรีไดฟ์ แบบ low volume มีให้เลือกเยอะมาก เท่ห์ๆ ทั้งนั้นเลย

ที่นี่เป็นสวรรค์ของนักดำน้ำฟรีไดฟ์เลย เพราะมีฟินฟรีไดฟ์ (ตีนกบสำหรับดำน้ำตัวเปล่า) ให้ได้เลือกกันอย่างจุใจ หลายตัวเลือกมาก ทั้งแบรนด์ Leaderfins จาก Estonia, SPIERRE จาก South Africa, Pathos จาก Greece, Carbonio GFT จาก Italy, Penetrators จาก Australia, C4 จาก Italy นอกจากนี้ ทางร้านยังมีการออกแบบร่วมกันแบรนด์ชั้นนำเหล่านี้ด้วยนะในการผลิตผลงานลายฟินแบบ limited edition ลวดลายต่างๆ ออกมาให้ได้เห็นกันเป็นระยะๆ
นอกจากนั้นยังมีผลิตภัณฑ์ชั้นนำและหลากหลายจากทั่วโลก เช่น ชุดดำน้ำ หน้ากาก เข็มขัด ถุงเท้า กระเป๋า ถุงผ้า น้ำยาทำความสะอาดผลิตภัณฑ์ ฯลฯ

ฟินที่เคทเพิ่งไปสอยมาพร้อมหน้ากาก และชุดดำน้ำใหม่ คือฟิน Leaderfins ใบเบลดสีทองค่ะ ขนาดความหนาของใบเบลดเป็น Medium
การเลือกขนาดความหนาของใบเบลด ก็ขึ้นอยู่กับน้ำหนักและขนาดตัวของผู้ดำน้ำเลยค่ะ และขึ้นอยู่กับความชอบด้วย อย่างเคทก็ไม่ได้ผอมมาก ขาก็แข็งแรง (ออกไปทางถึกๆ หน่อย – – ‘) ใบเบลดเลยชอบแบบ Medium ค่ะ
ใครที่เพิ่งเริ่มฟรีไดฟ์ และเป็นคนตัวเล็ก อาจเลือกใบเบลดความหนาแบบ Soft ก่อน ส่วนวัสดุก็มีทั้ง Fiber Glass, Carbon Fiber, Carbon ฯลฯ จะมีพี่ๆ ทางร้านคอยให้คำแนะนำวิธีการเลือกฟินให้แต่ละคนด้วยค่ะ บริการใกล้ชิดฝุดๆ ^^

มาดูความสวยขอฟิน ตอนอยู่ใต้น้ำกันเถอะ ^^







สำหรับคนที่อยากมีภาพใต้น้ำเก๋ๆ บ้าง แต่ยังไม่เคยเรียนดำน้ำ ไม่ว่าจะฟรีไดฟ์ หรือ สคูบ้า ตรงบริเวณร้าน Sea Concept Store ก็เป็นโรงเรียนสอนดำน้ำ Sea Mastermind Co-Diving Space (ถนนประชาชื่น-แจ้งวัฒนะ) สระน้ำเกลือที่ให้เราเรียนดำน้ำได้ในบรรยากาศส่วนตั๊ว ส่วนตัวค่ะ
แผนที่: https://g.page/SMCoDivingSpace?share
ลองเข้าไปดูรายละเอียดได้ที่ https://web.facebook.com/seamastermind







ฝากเพื่อนๆ ติดตามเรื่องเล่าจากการเดินทาง+ทริปผจญภัยแบบมันส์ๆ ได้อีกที่ 🥰🐯
Facebook: https://web.facebook.com/katewandermore (มีอะไรสงสัย ทักมาถาม มาพูดคุยกันได้ค่า)
IG : https://www.instagram.com/kate_wandermore/
Twitter: https://twitter.com/kate_wandermore
2 ความเห็นบน “วิธีเลือกหน้ากากดำน้ำฟรีไดฟ์ + ดำน้ำเกาะเต่าฉบับไปเอง”