ข้อควรรู้ทั่วไปในการเช่ารถขับในโอมาน
1) เราต้องมีใบขับขี่สากลเพื่อทำเรื่องเช่าขับรถกับทางบริษัทเช่ารถของท้องถิ่น อ่านวิธีทำใบขับขี่สากลได้ที่ รีวิวขอใบขับขี่สากล ง่าย-เร็ว-เอกสารน้อยกว่าที่คิด 20 นาทีรอรับได้เลย
2) เคทติดต่อเช่ารถขับที่ Nomad Tour ค่ะ โดยคุยรายละเอียดกันทางอีเมลล่วงหน้า และนัดหมายให้เขาเอารถมาให้
สามารถให้เขาเอารถมาให้ที่โรงแรมที่เราพักได้ แต่จะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม (แนะนำวิธีนี้ค่ะ เพราะหากเราไปรับรถเอง ก็ต้องจ่ายค่าแท็กซี่ไปอยู่ดี ซึ่งจะแพงกว่ามาก)
http://www.nomadtours.com/package/car-hire-oman
Email: nomads@nomadtours.com
3) ในวันรับรถ เขาจะรูดบัตรเครดิต เป็นค่าประกัน 50 OMR แล้วจะคืนให้ 2 สัปดาห์หลังจากที่เราคืนรถ (เผื่อว่าเราไปทำผิดกฎหมายจราจรหรืออะไรไว้ เขาก็จะเอาเงินจำนวนนี้ไปจ่ายค่ะ)
4) ในวันคืนรถ เราต้องเติมน้ำมันให้เต็มถัง และล้างรถให้สะอาด (ค่าล้างรถ 8 OMR) สภาพต้องเหมือนตอนวันรับรถ ดังนั้นแนะนำให้เผื่อเวลาไว้ให้เพียงพอก่อนที่จะคืนรถน้า นัดให้เขามารับรถที่โรงแรมได้ค่ะ เขาจะเช็กสภาพรถและเช็คว่าเราขับไปกี่กิโลเมตร (หากเกินก็จ่ายเพิ่มไปค่ะ)
ข้อควรรู้ทั่วไปในการขับรถในโอมาน
1) พวงมาลัยอยู่ทางด้านซ้าย เวลาขับ ให้ขับชิดขวา เพราะเลนซ้ายเขามีไว้แซงนะจ้ะ ถ้าขับผิดจะโดนคันอื่นบีบแตรเตือนค่ะ
2) ถ้าเราเป็นคนขับช้า ให้ขับชิดเลนขวา หากเจอถนนใหญ่แบบ 4 เลน ก็ให้ขับชิดเลนขวาเลนที่ 2 ถัดจากริมสุดค่ะ (เว้นเลนขวาสุดไว้ให้รถบรรทุก)
3) เส้นทางส่วนใหญ่เป็นการขับออกนอกเมือง นอกเมืองจะไม่มีสี่แยกไฟแดง แต่จะใช้ระบบวงเวียนค่ะ ซึ่งเคทมองว่ามันสะดวกตรงที่นอกเมืองจะมีรถน้อยกว่าในเมือง เราจะได้ไม่ต้องหยุดรอไฟแดงให้เสียเวลา แต่ก็อันตรายสำหรับมือใหม่ที่ไม่ชำนาญเส้นทางอย่างเราคนต่างชาติ เพราะในวงเวียนดันมีสองเลน และเสี่ยงกับการที่มีรถจากเส้นอื่นของวงเวียนสวนมาตลอดเวลา ต้องขับชะลอรถและระมัดระวังให้มากๆ ค่ะ
อีกอย่างคือ หากเลี้ยวในวงเวียนผิด ชีวิตเปลี่ยน ต้องไปหาเส้นทางใหม่กันเลยก็มี เพราะที่กลับรถหายากมากค่ะ เคยเจอแบบต้องออกถนนลูกรัง ไปลอดใต้อุโมงค์เล็กๆ แคบๆ แล้วหาทางกลับเข้าถนนใหญ่ก็มี
ความเร็วในการขับรถ: ส่วนใหญ่ห้ามขับเกิน 120 ค่ะ (แล้วแต่บางพื้นที่ด้วย) รถเช่าของเราจะตั้งระบบไว้ไม่ให้ขับเกินนี้ หากเราขับเกินนี้มันจะร้องเตือนค่ะ
ทำไมไม่ใช้ Google Map? + แอพพลิเคชั่นนำทางแนะนำ
อันนี้แล้วแต่ความถนัดของแต่ละคนเลยค่ะ ส่วนเคทรู้สึกว่าใช้ Google Map แล้ว ดูทางยาก โดยเฉพาะเวลาเข้าวงเวียน User Interface ดูยากไปหน่อย
วันแรกที่ใช้ Google Map พาหลงเข้าป่าไปเลยก็มี ตามภาพด้านล่างนี้ค่ะ แหะๆ ประกอบกับเคทต้องทำเวลาด้วย จะหลงทางเยอะมากก็ไม่ดี เพราะทริปนี้มีเวลาไม่มาก และเส้นทางการขับรถที่วางแผนไว้เป็นวงกลม หากย้อนกลับไปกลับมาจะเสียเวลาไปเยอะมาก และหากวันไหนขับไปไม่ทันสถานที่ไหน ก็เท่ากับพลาด ไม่ได้ไปเที่ยวที่นั่นอีกเลย

พอตกค่ำของวันนั้นตอนอยู่ในที่พัก เคทก็กลับมาตั้งหลักว่า ไม่อยากใช้ Google Map แล้วจะมีแอพตัวเลือกอื่นที่มันง่ายกว่านี้ไหมนะ เลยลองเสิร์ชหารีวิวต่างๆ ดูจนค่ำ เลยมาจบที่ Waze
Waze แอพพลิเคชั่นนำทางนี้ ดียังไง?
- User Interface หน้าตาออกแบบมาง่ายต่อการใช้งาน ประมาณว่า อาม่าก็ขับได้!
- เวลาขับรถตอนกลางคืน ตัวแอพมันจะเปลี่ยนหน้าตาโดยอัตโนมัติ เพื่อให้มองเห็นง่ายตอนกลางคืน น่ารักมากๆ คิดเผื่อคนใช้งานด้วย
- มีแจ้งเตือนว่าจุดไหนมีตำรวจและกล้องตรวจจับความเร็วบ้าง เพราะแอพนี้มีลักษณะเป็น Community ค่ะ มีคน report แต่ละจุดเอาไว้ แอพจะจับความเร็วเวลาเราขับรถด้วย หากเกินความเร็วที่บริเวณนั้นตั้งไว้ มันจะร้องเตือน จนกว่าเราจะลดความเร็วลง
- มีเก็บประวัติการขับไปยังจุดหมายปลายทางต่างๆ เอาไว้ เผื่อเราจะใช้เส้นทางนั้นซ้ำ เช่น การขับไปโรงแรม
- แม้ไม่รู้ชื่อจุดหมายปลายทาง ก็ค้นหาตามประเภทได้ เช่น หาปั้มน้ำมัน หาที่พัก หาโรงพยาบาล ที่อยู่ใกล้ๆ เป็นต้น
- มีโชว์สัญลักษณ์ P เพื่อให้เราหาจุดจอดรถได้ง่ายขึ้น และโชว์สัญลักษณ์ปั้มน้ำมันระหว่างทาง
ข้อเสีย
เคทมองว่าแอพพลิเคชั่นนำทาง ทุกแอพ มีข้อเสียตรงที่เส้นทางอาจจะไม่อัพเดท เช่น โอมานเป็นประเทศที่ขยันสร้างถนนใหม่ตลอดเวลา (รวยอ้ะ) ทุกเมืองที่เคทขับผ่านมีการสร้างถนนอยู่ตลอด บางเส้นทางจึงถูกปิดชั่วคราวเพื่อสร้างถนน บางทีไปเจออุโมงค์หลักปิด ถึงกับไปไม่ถูกเลยทีเดียว เพราะแอพมันจะให้วนอยู่อย่างนั้น ถ้าเจอเคสแบบนี้ก็ต้องพึ่งการสอบถามคนท้องถิ่น แล้วพยายามฝืนพาแอพขับออกนอกเส้นทาง เพื่อให้มัน re-center หาเส้นทางใหม่ค่ะ

ฝากเพื่อนๆ ติดตามเรื่องเล่าจากการเดินทาง+ทริปแบบมันส์ๆ ได้ที่ 🥰🐯
Facebook: https://web.facebook.com/katewandermore
IG : https://www.instagram.com/kate_wandermore/
Twitter: https://twitter.com/kate_wandermore