ทริปนี้เคทเพิ่งไปมาเมื่อเดือนมิ.ย.ค่ะ ตรงกับหน้าร้อนที่ฮอกไกโดพอดี เลยรวบรวมความดีงามของที่นี่ไว้ 8 สถานที่ กับ 8 สาเหตุที่ทำให้ใครที่มาตามรอย..อาจต้องน้ำตาไหล!
บอกใบ้ว่าทริปนี้เป็นทริปพิเศษ เพราะเป็นการเที่ยวแบบได้เรทถูกสุดๆ กับ TMB ALL FREE
1.ฟินน้ำตาไหล กับ Omagaze /ตลาดปลา Nijo
ใครมาถึงซัปโปโร อยากให้ตั้งเป้าหมายไว้เลยว่าต้องมาตลาดปลานิโจ (Nijo fish market) มีร้านอาหารทะเลหลายร้าน ขาปูใหญ่ๆ อวบๆ รออยู่เพียบ เป็นตลาดปลาที่มีอายุร่วมร้อยปีแล้วค่ะ
อยู่ไทยโอมากาเสะ (กินซูชิสดแบบมีพ่อครัวทำให้) แพงมาก พอไปฮอกไกโดเลยหาร้านโอมากาเสะกับเพื่อนโดยไม่ได้จองไว้ล่วงหน้า มีตัวเลือกหลายร้าน แต่คนเข้าคิวยาวเหยียด ด้วยความหิวเลยเดินมาเรื่อยๆ จนเจอร้านเล็กๆ ร้านนึง นั่งได้แค่ 3 คน (ยืนได้อีก 3 คน)
เป็นการเปิดประสบการณ์การกินโอมากาเสะครั้งแรก ถึงได้เข้าใจว่ามันช่างแตกต่างกับซูชิที่กินอยู่มากมายนัก ภาพคุณลุงที่บรรจงปั้นข้าว แล่ปลา ทีละชิ้น ทีละสำรับ อาจจะช้าหน่อย แต่ผลลัพธ์ที่ได้กินก็คุ้มค่าเลยล่ะ!
Nijo Market: 1 Chome Minami 3 Johigashi, Chuo Ward, Sapporo, Hokkaido 060-0053, Japan
เปิด: ร้านค้าเปิดทุกวัน 7 am – 6 pm / ร้านอาหารเปิด 6 am – 9 pm

2.ปลื้มปลิ่มน้ำตาไหล กับไอศครีมในลูกเมล่อน / Yoshida Farm
เอาจริงๆ แต่ก่อนตอนที่ได้ยินเพื่อนบอกว่า ‘เมล่อนฮอกไกโดคือนิพพาน’ เคทนึกไม่ออกเลยว่ารสชาติมันจะเป็นยังไง จะเหมือนแคนตาลูปบ้านเรามั้ย จะหวานแบบไหน
แต่พอได้มาลองชิม แถมชิมทั้งลูกด้วยแล้ว ได้แต่หลับตาพริ้ม ความหวานฉ่ำเย็นของเมล่อนที่นี่ไม่เหมือนอะไรที่เคยกินมาก่อนเลย แถมพอได้ไอติมครีมนมราดลงไปตรงกลางด้วยแล้ว เอาอะไรมาแลกก็ไม่ยอม!
มาฮอกไกโด หากินเมล่อนได้ทั่วไปเลยค่ะ แต่พออยู่ในเมือง เช่น Sapporo ราคาเมล่อนจะสูงปรี๊ด แบ่งขายกันเป็นซีกๆ ซีกละ 500 เยนขึ้นไป
แต่หากใครขยันหน่อย ลองเช่ารถขับออกนอกเมืองจาก Sapporo มา Furano ดูค่ะ มีฟาร์มเมล่อนชื่อ Yoshida Farm เป็นแหล่งขายเมล่อนราคาน่าคบหา ลูกละ 1,500 เยนขึ้นไป แถมยังมีร้านไอติมเมล่อน กระท่อมหลบหนาว และน้องหมาชิบะหน้าตาน่ารักคอยเฝ้าร้านอยู่ด้วย
ระหว่างมาฟาร์มวิวสวยดีค่ะ เคทไปช่วงมิถุนาอากาศเย็นกำลังสบายเลย 16-18 องศา ส่วนในชนบทก็หนาวกว่าในเมืองหน่อย ประมาณ 11 องศา แนะนำว่าควรมากินไอติมเมล่อนสักครั้งในชีวิต แล้วจะติดใจนาจา
Yoshida Farm: 12-banchi Yamabe, Furano, Hokkaido 079-1581, Japan
โทร. +81 167-42-3187
เปิด: ทุกวัน ตั้งแต่ 7 am – 6 pm
3.ช้อปน้ำตาไหล (เมื่อเห็นเงินที่เหลือในกระเป๋า) กับห้างดัง และร้านค้าใน Sapporo
มาถึงซัปโปโร นอกจากเรื่องกินแล้วคงหนีไม่พ้นเรื่องช้อป ซึ่งที่นี่ก็มีให้ครบ โดยเฉพาะที่ JR Tower ที่รวมห้างหลายห้างไว้ด้วยกัน เช่น ห้าง Daimaru, Stellar Place, Esta, Apia เป็นต้น
ส่วนใครอยากชิมราเมงแบบญี่ปุ่นแท้ๆ ลองไปเดินห้าง Esta ชั้น 10 เพราะเขามี Sapporo Ramen Republic รวมร้านราเมนอร่อยๆ ระดับท็อป มาไว้ในละแวกเดียวกัน ราคาไม่แพงด้วยค่ะ
ต่อด้วยตระเวนราตรีในย่าน Susukino (จุดสังเกตคือป้าย KIRIN ขนาดใหญ่) หรือจะไปละลายทรัพย์ที่ห้างดองกี้ เปิด 24 ชม.(ดองกี้ที่นี่ มันมีหลายชั้นมากกก เดินกันเพลิน)
อ้อ! ตระเวนหลายห้าง หลายร้านค้า แนะนำว่าไม่ต้องพกเงินสดไปเยอะนะ ให้พกเป็นบัตรเดบิตของ TMB ALL FREE ไปบัตรเดียว เอาไว้รูดปรื้ดๆ
เคทได้พบว่า ความดีงามของบัตรเดบิต TMB ALL FREE คือ
- ได้เรทถูกสุดๆ ไม่ต้องวิ่งหาร้านแลกเงินกันให้เสียเวลา
- ใช้ได้ทุกสกุลเงิน เรียกได้ว่า บัตรเดียวเที่ยวทั่วโลก
- ฟรีค่าธรรมเนียม (ปกติบัตรอื่นจะคิดค่าธรรมเนียมด้วย) = ไม่มีการชาร์จเพิ่มค่าความเสี่ยงจากการแลกเปลี่ยนเงินตรา 5%
- ใช้กดเงินก็ได้ ค่าธรรมเนียมเพียง 75 บาท/ครั้ง
- ปลอดภัย เพราะคุมวงเงินผ่านแอพ TMB TOUCH ได้ตลอดเวลา ทุกที่ทั่วโลก และย้อนดูประวัติการใช้จ่ายย้อนหลังได้
- ฟรี ประกันเดินทางต่างประเทศด้วย คุ้มครองสูงสุด ก็ใช้ได้ทั่วโลก
- ใครที่มีคู่ สามารถออกบัตรได้ 2 ใบ เหมาะกับสามีภรรยาที่ชอบไปเที่ยวด้วยกัน และอยากใช้เงินจากบัญชีเดียวกัน
พอเอาบัตรนี้ไปใช้ที่ญี่ปุ่น รู้สึกว่าสะดวกมากเลย และร้านค้าส่วนใหญ่ที่นั่นก็รับบัตรเดบิตแทบทุกร้านแล้ว บางทีออกไปช้อปตอนกลางคืนก็ยังรู้สึกปลอดภัยนะ เพราะไม่ได้พกเงินสดไปเลยน่ะสิ!
เผื่อเพื่อนๆ คนไหนสนใจ ตามไปดูรายละเอียดได้ที่ Tmbbank.com/fb/afwandermore
4.สวยน้ำตาไหล ชิมชีสเค้ก LeTAO ในเมืองท่าเรือเก่าแก่ โอตารุ / Otaru
นอกจาก Sapporo แล้ว สวรรค์ของสายช้อปและสายกิน ยังเป็นที่เมือง Otaru ด้วย ถ้ามาตรงกับฤดูหนาวช่วงที่มีหิมะตก บรรยากาศตอนกลางคืนจะโรแมนติกมากๆ
ที่นี่เป็นเมืองท่าเรือขนาดเล็ก มีร้านขายของที่ระลึกเพียบเลยค่ะ แต่หลักๆ คนที่มาที่นี่จะมาถ่ายภาพริมคลองโอตารุ ช้อปปิ้งที่ถนนมิยาโกะ ถนนซูชิยะ พิพิธภัณฑ์กล่องดนตรีโอตารุ หอนาฬิกาไอน้ำ
และที่ห้ามพลาดคือชีสเค้กอร่อยๆ ของร้าน LeTAO สาขาโอตารุ ค่ะ ร้านใหญ่กว้างขวางมาก และมีชั้นสองให้ขึ้นไปดูวิวด้วย ให้ลองสั่งชีสเค้ก พุดดิ้ง และไอศครีมมาทานดูค่ะ ไอศครีม LeTAO รสชาติเข้มข้นดี มาที่นี่แล้วกินไปเยอะเลย มีร้านพวกอาหารทะเลและเมล่อนด้วย
กิน ดื่ม เที่ยว ช้อป ที่นี่ ใช้บัตร TMB ALL FREE รูดได้เลยสบายๆ แถมเรทก็ดี ที่ญี่ปุ่นเขาไม่ค่อยใช้เงินสดกันละค่า
ร้าน LeTAO สาขาโอตารุ: เปิด 10 am – 6 pm
5.หอมน้ำตาไหล ละเลียดไอติมลาเวนเดอร์ ท่ามกลางทุ่งดอกไม้ และเปาครีมเมล่อน /Tomita Farm
ใครที่อยากชมทุ่งลาเวนเดอร์ ให้มาช่วงเดือนก.ค.ค่ะ ส่วนใครที่หาวันลาไม่ได้และต้องไปเดือนที่มีวันหยุด ที่นี่เขามีปลูกลาเวนเดอร์ไว้ในเรือนกระจก เผื่อไว้ให้คนที่ไปไม่ตรงฤดูด้วย น่ารักดี
ที่นี่มีของกินเพียบเลย แนะนำให้ชิมไอติมลาเวนเดอร์ เพราะมันหอมเหมือนได้กินดอกลาเวนเดอร์เลย และยังหอมอยู่ในปาก หากเดินเข้าไปด้านในจะเจอร้านขายของที่ระลึกที่ทำจากลาเวนเดอร์ด้วย เช่น ชาลาเวนเดอร์ สมุด สบู่และแชมพูลาเวนเดอร์ ฯลฯ
นอกจากนี้ ยังมีเปาไส้เมล่อนด้วยนะ! ครีมเมล่อนร้อนๆ กินตอนอากาศเย็นๆ นี่โอเคเลย แต่ยังไงเคทก็เทคะแนนให้ไอติมลาเวนเดอร์มากกว่า
Tomita Farm:15号 Kisenkita, Nakafurano, Sorachi District, Hokkaido 071-0704, Japan
โทร. +81 167-39-3939
เปิด: ทุกวัน เวลา 8.30 am – 6 PM (ไม่มีค่าเข้า)


6.อร่อยน้ำตาไหล กับเนื้อวากิวละลายในปาก / Sekai World Champion (เนื้อ A5)
ใครที่มาเมืองซัปโปโร แล้วไม่ได้กินบุฟเฟต์เนื้อวากิว A5 ของร้าน Sekai World Champion ให้รีบจองตั๋วกลับไปกินใหม่เดี๋ยวนี้! เพราะมันดีอะไรเบอร์นั้น และละลายในปากจริงๆ
ราคาหัวละ 5000-6000 เยนค่ะ (จำตัวเลขเป๊ะๆ ไม่ได้) ต้องจองล่วงหน้า กินได้ไม่อั้น จำกัดเวลา 90 นาที ร้านเปิดแค่ตอน 6 โมงเย็นเป็นต้นไปเท่านั้น ใครไม่กินบุฟเฟต์ จะสั่งแบบจานเดี่ยวก็มีนะจ้ะ
Sekai World Champion: ใกล้รถไฟฟ้าใต้ดิน สถานี Hosuisusukino
โทร. +81 11-522-1129
เปิด: 6 pm – 11 pm
7.โรแมนติกน้ำตาไหล กับพลุไฟและออนเซ็น ริมทะเลสาบโทยะ / Lake Tōya
Lake Tōya เป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติ Shikotsu-Toya เป็นทะเลสาปที่เกิดจากแอ่งยุบปากปล่องภูเขาไฟ (Caldera lake) ที่วิวสวยที่สุดอีกแห่งหนึ่งของญี่ปุ่นค่ะ
แถวนี้มีทั้งโรงแรม ร้านค้า และที่สำคัญมีออนเซนในโรงแรมที่เปิดให้อาบพร้อมชมวิวของทะเลสาป ตกเย็นก็ลงมาเดินเล่นริมทะเลสาปและสวนสาธารณะได้ บรรยากาศสงบมาก
ส่วนตอนหัวค่ำจะมีเรือจุดพลุไฟโชว์ค่ะ อาจไม่ได้ใหญ่โตอะไรมาก แต่ก็ถือเป็นสีสันที่เรียกความสนใจให้คนที่มาพักในโรงแรมริมทะเลสาปได้เป็นอย่างดี แถมยังโรแมนติกมากๆ ด้วย
ใครมาพักโรงแรมแถบนี้และไม่อยากพกเงินสดมาเยอะก็สามารถจ่ายด้วยบัตรเดบิต TMB ALL FREE ได้เหมือนกันค่ะ
8.น้ำตาไหล (จริง) จากกำมะถัน ในหุบเขานรกจิโกคุดานิ / Jigokudani, โนโบริเบตสึ
หากใครเป็นแฟนหนัง ‘แฟนเดย์..แฟนกันแค่วันเดียว’ อาจจะจำที่นี่ได้ เพราะมีซีนอยู่ในหนังด้วย
หุบเขานรกจิโกคุดานิ เป็นแหล่งต้นกำเนิดของธารน้ำร้อนออนเซ็นในเมืองโนโบริเบตสึค่ะ อยู่ไม่ไกลจากภูเขาไฟฮิโรริยามา (ห่างออกไปเพียง 2.8 กม.) ซึ่งธารน้ำร้อนได้เกิดขึ้นตอนที่ภูเขาไฟปะทุนั่นเอง
หากใครอยากเห็นวิวสวยๆ กว่านี้ แนะนะให้มาตอนฤดูใบไม้เปลี่ยนสี และฤดูหนาวค่ะ ขาผจญภัยที่พาผู้ใหญ่มาเที่ยวด้วยน่าจะชอบที่นี่ เพราะมีทางเดินทำไว้ให้ สะดวกสบายตลอดทาง
Jigokudani: Noboribetsuonsencho, Noboribetsu, Hokkaido 059-0551, Japan
โทร. +81 143-84-3311
เปิด: ทุกวัน ตั้งแต่ 8 am – 6 pm
[booking_product_helper shortname=”deal finder – hokkaido”]
ฝากเพื่อนๆ ติดตามเรื่องเล่าจากการเดินทาง+ทริปแบบมันส์ๆ ได้ที่ 🥰🐯
Facebook: https://web.facebook.com/katewandermore
IG : https://www.instagram.com/kate_wandermore/
Twitter: https://twitter.com/kate_wandermore