มีคนถามเข้ามาเรื่อยๆ ว่า ระหว่างไปเทรคกิ้งกับไป Road trip ที่ลาดักห์อันไหนดีกว่ากัน เพราะใจนึงไม่อยากเหนื่อย ส่วนอีกใจนึงก็กลัวว่าได้ไป.. แต่เหมือนไปไม่ถึง
เคทไปลาดักห์มาสองรอบแล้ว ทั้งฤดูร้อนและฤดูหนาว เหลือเชื่อว่ายังไม่เคยเขียนถึงแผนการเดินทางที่ไปเทรคและเที่ยวมาเลย
เคทเชียร์ให้ไปเทรคกิ้งด้วยนะ เพราะมันเป็นประสบการณ์ที่สุดยอดมาก การได้ตื่นเช้าขึ้นมาในกระท่อมของชาวลาดักห์บนที่ราบสูง มองผ่านหน้าต่างเห็นวิวภูเขาหิมะเป็นฉากที่เหมือนในเทพนิยายจริงๆ ให้ตายเถอะ และยังคงจำความรู้สึกนั้นได้มาจนทุกวันนี้
DAY 1:
จริงๆ เราสามารถอิ่มเอมกับทัศนียภาพของลาดักห์ได้หลายทาง ไม่ว่าจะเป็นการบินมาลงเพื่อตั้งหลักที่เมืองเลห์ หรือเลือกทางสายทรหด เช่นนั่งรถมาจากศรีนาการ์ แคว้นแจมมูและแคชเมียร์ ก็แล้วแต่ว่าเราจะชอบแบบไหน
ส่วนตัวเคท ก็เหมือนนักเดินทางหลายคนที่่เลือกบินจากนิวเดลีมาลงที่เลห์เลย ปรู๊ดเดียวชั่วโมงกว่า วิธีนี้อาจจะดูสะดวกก็จริง แต่เสี่ยงมีโอกาสโดนโรคแพ้ความสูงถามหาอยู่มาก เพราะร่างกายปรับตัวจากการไต่ระดับความสูงไม่ทัน เคทเคยเจอ AMS เล่นงานไปแล้วในการเดินทางมาที่นี่รอบแรก หลังจากนั้นก็เข็ดไปนาน และได้เรียนรู้วิธีเตรียมตัวเพื่อรับมือกับโรคนี้ จนตอนนี้..ไปไต่เขาที่ไหนก็ไม่เป็น AMS อีกเลย..
ดูวิธีรับมือกับ AMS (HIGH ATTITUDE SICKNESS) ได้ที่: รัก ‘เขา’ แต่ดันแพ้ ‘เขา’: เรื่องเล่าจากคนเคยเป็นโรคแพ้ความสูง (Altitude Sickness)
[booking_product_helper shortname=”inspire search box- india”]
เมื่อบินมาถึงเลห์แล้ว ภารกิจแรกที่จำเป็น คือการนอนพักผ่อนทันทีที่มาถึง เพื่อให้ร่างกายปรับตัว เป็นเวลา 1 วันเต็ม
ส่วนใครที่ดื้อ…เช่นอยากออกไปเดินหาไกด์หาทัวร์ในตลาด (เหมือนที่เคททำมาก่อน) ก็เตรียมตัวอ้วกได้เลยนาจา
(บางคนอาจทราบดีว่า อาการของ AMS ที่ทวีความรุนแรงขึ้น จะนำไปสู่ภาวะน้ำท่วมปอดและสมองบวมได้ เพราะฉะนั้น เก็บแรงไว้เทรคกิ้งและเที่ยวดีกว่าน้า เพราะหากเป็น AMS ตั้งแต่วันแรก วันต่อไปก็อดสนุกเลย )

DAY 2 – 4:
เริ่มวันเทรคกิ้งวันแรก แนะนำให้ออกตั้งแต่เช้า ส่วนใหญ่แล้วไกด์จะมารับเราประมาณ 7 โมงเช้า เส้นทางที่แนะนำสำหรับคนที่อยากเทรคระยะทางสั้นๆ ในลาดักห์ คือเส้นทางแชมเทรค ที่นับว่าง่ายที่สุดในบรรดาเส้นทางทั้งหมดของที่นี่ แต่ก็ไม่หมูเลย
ระยะทางที่เดินแต่ละวัน 11-12 กม. รวม 3 วันประมาณ 36-37 กม. เรียกได้ว่าพอหอมปากหอมคอ มีเดินผ่านเหวบ้างนิดหน่อย แต่สิ่งที่รออยู่ คือการได้ไปเคาะประตู นอนพักกับชาวบ้านริมทาง ที่เอื้อเฟื้อให้ที่นอนอุ่นๆ พร้อมอาหารในราคาอันแสนถูก (ราคามักรวมอยู่ในค่าเทรคอยู่แล้ว)
ส่วนจุดแวะพักมีให้เห็นไม่มากนัก อย่างภาพด้านบนนี้ เป็นเพิงเล็กๆ ที่มีน้ำชาและขนมไว้เลี้ยงนักเดินเขา และเป็นจุดพักทานมื้อเที่ยงที่เราต้องหอบหิ้วกันมาเอง



อ่านประโยชน์ของการพักโฮมสเตย์ กับชนพื้นเมือง ในลาดักห์ เพิ่มเติมได้ที่ “5 ประโยชน์ของการพักโฮมสเตย์ กับชนพื้นเมือง ในลาดักห์”
DAY 5:
เริ่ม Road Trip แต่เช้า หากใครอยากลองสัมผัสความแห้งแล้งราวทะเลทรายของดินแดนแห่งมนตรานี้ ก็ลองไปที่ นูบรา วอลเลย์ ดูค่ะ แนะนำให้ไปกางเต็นท์ 1-2 วันไปเลย
หรือหากเป็นคนชอบแนวทะเลสาบมากกว่า ในวันที่ 5 แนะนำให้ไปทะเลสาบชื่อ Tsomoriri และให้แวะ ทะเลสาบ Tso Kiagar ด้วย เป็นอีกทะเลสาบหนึ่งที่ควรค่าแก่การไปมาก อยู่ก่อนถึงทะเลสาบ Tsomoriri ค่ะ ทางค่อนข้างไกล แนะนำให้ค้างคืน 1 คืน

ข้อเสียของการมาคนเดียวคือ การจะไปถึงที่นั่นได้ มีค่าใช้จ่ายเยอะมาก วิธีหนึ่งที่อาจช่วยได้คือการไปหา join tour โดยระหว่างที่เราไปเทรคในวันที่ 1-3 นั้น ก็ไปฝากข้อมูลไว้ที่บริษัททัวร์ใหญ่ๆ ในตลาดก่อน เขาจะเขียนขึ้นกระดานเพื่อหาคนไปร่วมทัวร์กับเราให้
พอกลับจากเทรค อาจมีข่าวดีว่าเราได้เพื่อนร่วมทาง ผู้จะช่วยหารค่าใช้จ่ายด้วยกัน
แต่ถ้าเป็นข่าวร้าย หาเพื่อนจอยทัวร์ไม่ได้แบบเคท เราก็จะอดไปทะเลสาบนี้
DAY 6:
ไปดินแดนพระจันทร์ Lamayuru ถ้ามาในช่วงฤดูหนาวก็ต้องลุ้นหน่อย เพราะที่นี่ถนนปิดตายบ่อยจากพายุหิมะ แต่วิวที่ได้เห็นสวยตรึงใจมาก ซึ่งเคทไปมาตอนฤดูหนาวค่ะ
ส่วนฤดูร้อน จะได้เห็นวิวสมชื่อ moonland มากๆ เพราะมีทัศนียภาพพื้นผิวขรุขระเหมือนพระจันทร์ ทำให้วัดและบ้านคนที่นี่เหมือนสิ่งปลูกสร้างที่อยู่บนดวงจันทร์อย่างไงอย่างงั้น
อ่านเรื่องราวของลามายูรูเพิ่มเติมได้ที่ ลามายูรู: ย่ำหิมะถิ่น Moonland ดินแดนโลกพระจันทร์


DAY 7 – 8:
เดินทางกลับเลห์ อยากให้ใช้เวลากับเมืองเลห์ให้มากหน่อย เพราะในตลาดมันมีเสน่ห์ดีนะ มีร้านหนังสือที่รวบรวมหนังสือที่คนรักการผจญภัยน่าจะชอบ แถมเป็นร้านหนังสือที่มีร้านกาแฟอยู่ด้านในด้วย คนจะชอบมานั่งจิบกาแฟ และอ่านหนังสือหนีลมหนาวกันค่ะ (เคทชอบร้านหนังสือมาก)
นอกจากในตลาดเมืองแล้ว ยังเดินสำรวจบริเวณใกล้ๆ ได้ เช่นพระราชวังเลห์ รวมทั้งร้านขายของฝากต่างๆ
แต่ถ้าใครไม่ใช่ขาช้อป แนะนำให้ตระเวนกิน..กิน..และก็กินค่ะ 555+ ในตลาดมีร้านอร่อยๆ ด้วยนะ ลองชิมให้หมดทุกร้าน เดี๋ยวก็เจอเมนูที่ชอบเอง ^^
ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ เคทอยากเลือกเดินทางจาก Srinagar มากกว่า เพราะแอบเสียดายที่ได้แต่เฉียดๆ เมืองนี้หลายครั้ง แต่ไม่เคยเข้าไปสำรวจจริงๆ เลยสักครั้ง
ลองดูภาพก็จะรู้ว่า คิดผิดที่ไม่ได้ไปเที่ยวเมืองนี้ (ถอนหายใจยาววว)


ติดตามอ่านเรื่องราวของลาดักห์เพิ่มเติม ได้ที่ https://atomic-temporary-109961533.wpcomstaging.com/category/india/
จองที่พักในลาดักห์ได้ทาง:
[booking_product_helper shortname=”ladakh”]
ฝากเพื่อนๆ ติดตามเรื่องเล่าจากการเดินทาง+ทริปแบบมันส์ๆ ได้ที่ 🥰🐯
Facebook: https://web.facebook.com/katewandermore
IG : https://www.instagram.com/kate_wandermore/
Twitter: https://twitter.com/kate_wandermore
One thought on “แดนสวรรค์ Ladakh กางแผนเทรคกิ้ง 3 วัน เที่ยว 5 วันฉบับแบคแพคลุยเดี่ยว”