เพื่อนร่วมทาง
ฉันกวาดตามองผักผลไม้บนพื้นรถสองแถวด้วยความขบขัน นึกขำ ๆ ว่าทริปนี้เป็นทริปที่แปลกดีแท้ เพราะมีเพื่อนร่วมทางเป็นพืชผักสวนครัวต่าง ๆ แตงโมลูกเดียวในรถกลิ้งไปกลิ้งมาจากหัวรถ ไปท้ายรถ ถั่วฝักยาวน้อยใจที่ตัวไม่กลมเท่า เลยได้แต่นอนแน่นิ่งอยู่ในถุงสีขาว

รถสองแถวที่ฉันนั่งมานี้กำลังจะนำพาฉันไปยังเมืองปากซอง จุดหมายปลายทางของฉันคือที่ราบสูงโบโลเวน หมู่บ้านหนองหลวงของเมืองปากซอง แขวงจำปาศักดิ์ ณ ลาวใต้
“เป็นผู้สาว มาผู้เดียวบ่ (มาคนเดียวเหรอ) หาญแท้ (กล้าดีจัง)” เป็นคำทักทายของสาวลาวใต้ผิวคล้ำผู้หนึ่ง อายุน่าจะรุ่นราวคราวเดียวกันกับฉัน เธอมองฉันด้วยแววตาเปล่งประกาย ด้านข้างของเธอคือลูกน้อยวัยราว ๆ ห้าหกขวบผูกโบว์สองข้าง มองปราดเดียว สีหน้าและแววตาของสาวลาวผู้นี้ราวกับจะบอกฉันว่า “ฉันอยากไปแบบเธอ”
เราสนทนากันนานพอสมควร ฉันไม่รู้ว่าจะไปลงที่ไหน รู้แต่เพียงว่าอยากไป ‘หมู่บ้านหนองหลวง’ ผู้หญิงคนนี้มีน้ำใจ ช่วยบอกคนขับรถให้จอดตรงปากทางเข้าหมู่บ้าน ที่ ๆ ฉันต้องหารถต่อเข้าไปอีกต่อหนึ่งเอง ราวเกือบชั่วโมง
อ่านวิธีต่อรถสำหรับคนที่อยากไปเที่ยวลาวใต้คนเดียว ได้ที่:
ลาวใต้ ฉบับไปเดินป่าเอง ไปคนเดียวและไม่เช่ารถ: ต่อรถยังไง
รวมที่เที่ยวแนะนำ ประเทศเพื่อนบ้าน
สำรวจพุกาม: เมืองสีอุ่น ฝุ่นสีแดง อาณาจักรโบราณริมฝั่งแม่น้ำอิรวดี
Beng Mealea: เสน่ห์ปราสาทลึกลับในป่าเขมร│Wander More
กรงกรรม ในธรรมยางจี: เบื้องหลังวิหารที่สร้างไม่เสร็จในพุกาม กับความงามชั้นครู
Ta Prohm หลงอัปสรา ในตาพรหม │ Wander More
13 ข้อดีของการเที่ยวคนเดียว สักครั้งในชีวิต

……..
นีโน่ ปากซอง
นีโน่เป็นหนุ่มลาวตัวขาวรูปร่างใหญ่ นั่งเฝ้าร้านขายของชำร้านใหญ่ในปากซอง นีโน่อาสาไปส่งฉันที่หมู่บ้านหนองหลวงตอนเห็นฉันเดินลงมาจากรถสองแถว แล้วถามหารถเข้าหมู่บ้าน
เขาบอกว่าเขารับส่งนักเดินทางชาวไทยเข้าไปในปากซอง ปีละหลายคน แต่ส่วนใหญ่เขาจะมากันเป็นหมู่คณะ มานอนกางเต๊นท์เดินป่าที่ “ลานใหญ่” หรือลานเปราะภูตอนหน้าเข้าพรรษาลาว นีโนแปลกใจที่เห็นฉันมาคนเดียว แถมยังไม่ได้ติดต่อที่พักอะไรไว้ล่วงหน้า
“หาที่พักยากไหม จะพอมีที่พักเหลือไหม” ฉันถาม อย่างไม่ร้อนรน ยิ่งทำให้นีโน่ดูแปลกใจไปใหญ่
ทางที่เราขับเข้าไปในหมู่บ้านกินเวลายาวนานเกินครึ่งชั่วโมงเพราะเป็นทางทุรกันดาร ดินแดง ไม่มีถนนราดยาง รถที่ผ่านไปมามีแต่รถอีแต๊กของชาวบ้านและฝูงปศุสัตว์

[booking_product_helper shortname=”search box – laos”]


สุดท้าย นีโน่ช่วยพามาที่บ้านชาวบ้านหลังหนึ่ง ค่อนข้างใหญ่กว่าบ้านหลังอื่นในละแวกใกล้เคียง เขาเรียกคุณลุงเจ้าของบ้านผู้สวมแว่นใบหน้าเปื้อนยิ้มว่า “พ่อใหญ่” (พอฉันอยู่ที่นี่ไปหลายวันเลยทราบว่าคนที่นี่มักจะเรียกคนรุ่นลุงว่า “พ่อใหญ่” ไม่ได้หมายความว่าเขาเป็นพ่อของใครหรือเป็นผู้ใหญ่บ้านแต่อย่างใด) และน้องสาวคนหนึ่งหน้าตาสะสวยในบ้านช่วยฉันหาไกด์ท้องถิ่นคนนำทางเดินป่าให้
ลักษณะที่พักเหมือนบ้านในชนบท หรือต่างจังหวัด เป็นเรือนไม้ที่ชั้นล่างเป็นใต้ถุน และร้านขายของชำ ชั้นบนก็เปิดให้มีแขกมานอนกางมุ้งพัก โดยมีผ้าม่านกั้นเอาไว้พอให้มีความเป็นส่วนตัว
“พักผ่อนเข้าห้องน้ำก่อน เดี๋ยวน้องจะต้องกางมุ้ง ทำที่นอนให้เอื้อยก่อน” น้องสาวคนสวยยิ้มหวานพร้อมจัดแจงพื้นที่ให้นักเดินทางที่โรยแรงอย่างฉันได้นอนค้างอ้างแรม เป็นเวลาสองคืน








……..
เจ็ดโมงเช้า ฉันรีบตื่นขึ้นมาทานข้าวเตรียมตัวไปลุยป่า จุดหมายปลายทางวันนี้เป็นการเดินตามหาน้ำตก ทั้งตาดเสือ และตาดขมึด แต่เนื่องจากเป็นการเดินป่าแบบไปกลับรวดเดียว ไม่ค้างคืน เพราะฉันไปปักเต๊นท์นอนในป่าคนเดียวก็คงไม่เหมาะ เลยทำให้วันนั้นได้เดินไปถึงเพียงตาดเสือเพราะเวลาไม่พอ บวกกับไกด์สูงวัยเริ่มงอแง เหมือนเขาไม่อยากเดินไปไกลถึงตาดขมึดเนื่องจากการสื่อสารผิดพลาดในวันแรก

ฉันไปทริปนี้ในต้นเดือนธันวาคม ซึ่งเป็นฤดูแล้ง ไม่ใช่ฤดูของเปราะภู ทำให้ไม่เห็นเปราะภูบานเต็มลาน เห็นแต่ลานโล่งเตียน มีแต่ต้นสนต้านลมไปมา แม้จะเป็นฤดูแล้ง แต่ดงทากของที่นี่ก็ขึ้นชื่อไม่แพ้ฤดูฝน ฉันใส่ถุงเท้ากันทาก และฉีดสเปรย์ทั่วตัว รวมทั้งเครื่องใช้เช่น เป้ และกางเกง เรียกได้ว่าเป็นคน “ไม่เอาทาก” อย่างแท้จริง เพราะไม่ชอบอะไรที่ไต่ดึ๊บๆ ไปมาบนร่างกาย มีคนเคยบอกว่าทากมันเข้าไปลึกมาก บางคนมีทากเกาะปาก เกาะคอ บางคนทากเข้าไปในเสื้อ ต้องถอดออกมาจ้าละหวั่น ฉันได้ยินเรื่องราวเหล่านั้นมามาก และเป็นสิ่งสุดท้ายที่อยากเจอที่นี่




ฉันและคุณลุงที่เป็นไกด์ หรือที่ฉันเรียกว่าพ่อใหญ่ เริ่มออกเดินจากหมู่บ้าน อากาศบนที่ราบสูงโบโลเวนขึ้นชื่อเรื่องความหนาวเย็น และฝนตกพรำ ๆ เดินป่าไปต้องก็ต้องลุ้นกันไปว่าฝนจะตกหรือเปล่า ทางที่ฉันย่ำไปเป็นทางเดินป่าที่ค่อนข้างวิบากราวสนามวิ่งเทรล X Terra เพราะไม่มีทางราบเรียบเลย มีแต่ต้องปีนป่าย ลอด ไต่ กระโดด โหนสะพานแขวนแบบไร้สลิง และเปียกแฉะเปื้อนโคลนจนกลายเป็นเรื่องปกติ เพราะทางเต็มไปด้วยโคลน บวกกับต้องเดินข้ามลำห้วยในบางจุด หากเป็นฤดูน้ำหลาก ต้องโหนสลิงข้ามไปเท่านั้น








ตาดสักการะเห็นจากจุัดชมวิวบนลานใหญ่ไกลลิบ ๆ ซูมด้วยเลนส์กล้อง Sony A6000 (เลนส์ฟิกซ์) หากอยากไปถึงตาดสักการะ พ่อใหญ่บอกว่าต้องมากันหลายคน และค้างคืนในป่า 2-3 คืน

หากใครที่มาคนเดียวเหมือนฉัน และเดินทางไปกลับรวดเดียวเหมือนกัน จะต้องเดินระยะทาง 12 กม. ไปกลับ หรืออาจไกลกว่านั้นหากเดินไปถึงตาดขมึด
เส้นทางจะเรียงลำดับก่อนหลังดังนี้
ลานใหญ่หรือลานเปราะภู >> ตาดเสือ >> ตาดขมึด (หากเดินทัน) >> ตาดสักการะ (ต้องกางเต๊นท์นอนในป่า 2-3 คืน)
หรือจะเดินไปตาดเสือโดยไม่ต้องแวะลานใหญ่เลยก็ยังได้เพื่อประหยัดเวลา โดยเฉพาะในฤดูที่ไม่มีเปราะภูให้ชม

















ขากลับจะเดินผ่านไร่กาแฟอาราบิก้าของชาวบ้าน ซึ่งเป็นกาแฟสายพันธุ์ที่มีชื่อเสียงระดับโลก อาจจะเป็นเพราะดินและพื้นที่เพาะปลูกที่เอื้อต่อการปลูกกาแฟสายพันธุ์นี้โดยเฉพาะ ถึงขั้นส่งออกไปต่างประเทศเลยทีเดียว
ส่วนใหญ่นักเดินทางที่มาที่นี่ หากไม่มาเดินป่า ก็จะนิยมมาโหนสลิง แต่เนื่องจากราคาค่อนข้างสูง เกือบคนละหมื่น ขายพร้อมแพคเกจที่พักบนบ้านต้นไม้ ฉันเลยไม่ได้โหนสลิงในรอบนี้ แต่ก็ยังดีใจ ที่ได้เจอเพื่อนชาวไทยบางคนที่มาโหนสลิงเล่าให้ฟังว่าสนุกแค่ไหน
พ่อใหญ่บอกฉันว่า มาเดินป่าก็ดีนะ รายได้เข้าชุมชน เหมือนกาแฟที่ชาวบ้านปลูกเอง รายได้ก็เข้าชุมชน หล่อเลี้ยงคนในชุมชนให้พออยู่พอกินได้



……..
อ่านวิธีต่อรถสำหรับคนที่อยากไปเที่ยวลาวใต้คนเดียว ได้ที่:
ลาวใต้ ฉบับไปเดินป่าเอง ไปคนเดียวและไม่เช่ารถ: ต่อรถยังไง
รวมที่เที่ยวแนะนำ ประเทศเพื่อนบ้าน
สำรวจพุกาม: เมืองสีอุ่น ฝุ่นสีแดง อาณาจักรโบราณริมฝั่งแม่น้ำอิรวดี
Beng Mealea: เสน่ห์ปราสาทลึกลับในป่าเขมร│Wander More
กรงกรรม ในธรรมยางจี: เบื้องหลังวิหารที่สร้างไม่เสร็จในพุกาม กับความงามชั้นครู
One thought on “เดินป่าฝ่าดงทาก ที่ราบสูงโบโลเวน ลาวใต้ ฉบับไปเอง”