ลามายูรู: ย่ำหิมะถิ่น Moonland ดินแดนโลกพระจันทร์│Wander More

ฉันมาลาดักห์ผิดฤดู! ใช่แล้ว ผิดฤดู.

สิ่งที่วางแผนไว้เลยถูกธรรมชาติล้มครืนจนหมด เส้นทางหลายเส้นถูกหิมะถล่มลงมาปิดกั้นถนน ทำให้เดินทางไปไหนไกลๆ ไม่ได้เลย ส่วนเรื่องเทรคกิ้งไม่ต้องพูดถึง เพราะทุกเส้นทางถูกปิดไม่ให้เทรค เนื่องจากอันตรายเกินไป กระเป๋าที่ฉันอุตส่าห์จัดแจงมาเพื่อเทรคกิ้ง 7-8 วัน เลยได้แต่นอนกองเอ้งเม้งอยู่ในเกสเฮ้าส์

“คุณไปแถวทะเลสาปปันกอง หรืออะไรทางนั้นไม่ได้หรอก มันอันตรายเกินไป ตอนนี้ทุกเส้นทางถูกหิมะปิดหมด” เจ้าของเกสเฮ้าส์วัยสามสิบปลายๆ ดูท่าทางช่ำชองเรื่องเส้นทางและการจัดหาบริษัททัวร์ให้นักท่องเที่ยว เอ่ยกับฉันอย่างเป็นห่วง “ต้องฟังข่าวรายวัน บางทีหากเขาเคลียร์เส้นทางแล้ว ถ้าคุณไป คุณอาจจะกลับมาไม่ได้อยู่ดี เพราะถนนจะถูกหิมะกลบเหมือนเดิม บางครั้งต้องใช้เวลาเคลียร์ทางนาน 5-10 วัน…”

ฉันยืนฟังหน้าจ๋อย การที่ได้รู้ว่าไปเทรคกิ้งไม่ได้ก็ผิดหวังมากพอแล้ว แต่นี่ยังไปเที่ยวแบบ Sightseeing ไม่ได้อีก ธรรมชาติกำลังต้องการเก็บซ่อนอะไรไว้จากสายตามนุษย์อยู่หรือเปล่า

“มากับผม” อังจุค เพื่อนเก่าชาวลาดักห์ที่ฉันรู้จักตั้งแต่ทริปก่อนเอ่ยด้วยไมตรี “เส้นทางที่พอไปได้ และสวยเหลือเชื่อยังมีอยู่นะ เช่น ลามายูรู เฮมิส ชิลลิ่ง ไม่ไกลด้วยเคท ไม่ต้องค้างคืน”

ฉันเคยได้ยินกิตติศัพท์ความสวยงามของดินแดนลามายูรูมาบ้างเมื่อปลายปีก่อน เมื่อเพื่อนชาวลาดักห์ส่งรูปที่เขาไปเทรคในเส้นทางนี้มาอวด ลามายูรูได้ชื่อว่าเป็น Moonland, Moonscape เพราะมีลักษณะทางกายภาพราวกับพื้นผิวพระจันทร์ ดึงดูดนักท่องเที่ยวมากมายให้หลั่งไหลมาที่นี่ จนหมู่บ้านเล็กๆ ต้องสร้างโรงแรมไว้คอยต้อนรับนักท่องเที่ยว พร้อมโฮมสเตย์อีกจำนวนมาก

จุดดึงดูดสายตานักท่องเที่ยว เห็นจะเป็นการชมวิวจากยอดเขาสูง ซึ่งยังเป็นที่ตั้งของวัดเก่าแก่อีกแห่งหนึ่งของลาดักห์ ชื่อวัด Yungdrung Gompa หรือ Lamayuru Gompa วัดแห่งนี้ได้ชื่อว่าเป็นสถานที่ปฏิบัติกรรมฐานของพระอริยสงฆ์ในอดีตอีกด้วย

ฉันเดินย่ำไปบนผืนดินที่ตอนนี้ถูกปกคลุมไปด้วยหิมะอันขาวโพลน ชาวบ้านส่วนหนึ่งกำลังช่วยกันขนหิมะจากวัดไปทิ้ง เพื่อไม่ให้คนที่เดินไปเดินมาลื่นล้ม อังจุคอาสาไปช่วยชาวบ้าน  ส่วนอากาศบนนี้หนาวได้ใจ ลมเย็นยะเยือกพัดมาต้องธงมนตรา แสงแดดที่สาดลงมาจากฟ้าเบื้องบนดูจะช่วยอะไรเราจากภัยหนาวนี้ไม่ได้

ฉันเดินขึ้นวัดไป ทักทายลามะที่ยืนต้อนรับอยู่ด้วยความยินดี มนต์เสน่ห์ของที่นี่ทำให้ฉันอารมณ์ดีไปทั้งวัน พลางได้แต่บอกกับตัวเองว่า “คุ้มแล้วล่ะ”

แม้ทริปนี้อะไรๆ จะไม่เป็นตามที่แพลนไว้ก็ตาม.

[booking_product_helper shortname=”ladakh”]

………………………………………………………………..

ช่วงที่ไปท่องเที่ยว: ฤดูหนาว ต้นเดือนเมษายน 2017

ช่วงท่องเที่ยวที่แนะนำ: ฤดูร้อน มิ.ย.- ต.ค. ของทุกปี

ที่ตั้ง: ห่างจากตัวเมืองเลห์ ประมาณ 120 กม. ระยะเวลาเดินทาง ไป-กลับ  3-4 ชม.

วิธีเดินทาง: รถแท็กซี่ แนะนำให้คุยและต่อรองราคาโดยตรงกับรถแท็กซี่ ไม่จำเป็นต้องผ่านเอเจนซี่ทัวร์ (ราคามาตรฐานอยู่ที่ 5,900 รูปี) แต่หากอยากไปเทรคกิ้ง ให้คุยผ่านเอเจนซี่ทัวร์

ที่พัก: หากต้องการค้างคืน สามารถหาที่พักในลามายูรูได้ มีทั้งแบบโรงแรมและโฮมสเตย์