Featured

เดินป่าน้ำตกสายรุ้งละอองดาว: ไปเป็นทาร์ซาน ไต่เชือก เดินป่า ลุยฝ่ากระแสน้ำ

ทริปเดินป่าจนตัวเปื่อย ไม่ง่ายเลย แต่สนุกมากๆ กับการไปเป็นทาร์ซาน ได้ทั้ง เดินป่า ลุยฝ่ากระแสน้ำ และไต่เชือก ที่ น้ำตกสายรุ้งละอองดาว ต.บ้านนา อ.กะเปอร์ จ.ระนอง ค่ะ ^^

ทริปนี้เคทไปคนเดียว แต่กลับมาด้วยรอยยิ้มของเพื่อนใหม่มากมาย เพราะได้ไปจอยทริปของ The Puffin House แถมยังมีพี่ๆ เจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าคอยดูแลอย่างใกล้ชิดตลอดการเดินทาง เพราะทางค่อนข้างลำบาก เดินยากและลื่น ตามสภาพของการเดินบนหินน้ำตก การลื่นล้มกลายเป็นเรื่องที่เห็นได้บ่อยในเส้นทางนี้ ใช้เวลาเดิน 2 วัน (ไป-กลับ) ค้างคืนในป่าแบบนอนเปล 1 คืนค่ะ ได้อาบป่า อาบธรรมชาติกันอย่างจุใจ น้ำใสแจ๋ว เย็นมากๆ เลย

พิกัด: หน่วยพิทักษ์ป่า ต.บ้านนา อ.กะเปอร์ จ.ระนอง เป็นจุดที่เรานั่งทานข้าวเช้า และเจอพี่ๆ เจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่า ขนข้าวของขึ้นรถ จากนั้นเราจะได้นั่งรถกระบะไปยังจุดสตาร์ท ซึ่งอยู่ห่างออกไปประมาณ 4 กม.ค่ะ

https://goo.gl/maps/wWmnYDXkHKLzjgth9

Fitness Level: Medium

Path Level: Medium – Difficult

{รายละเอียดการเดินทาง รวมทั้ง check list อุปกรณ์ที่ควรเอาไป คลิกอ่านได้จากภาพจ้า}

สนใจทริป ลองสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ The Puffin House นะคะ ข้อดีของการไปกับ The Puffin House คือเราไม่ต้องซื้ออุปกรณ์แคมป์ปิ้งสำหรับทำอาหารไป ไม่ต้องซื้อเปล หรือถุงนอน เพราะทาง The Puffin House มีบริการให้เสร็จสรรพค่า อาหารในป่าคืออร่อยมั๊กๆ ^^

….

ก่อนอื่น ขอขอบคุณภาพจากน้องมิ้นต์ น้องโบ้ท เพื่อนร่วมทีม และน้องฟลุ๊ค Team Lead ของเราค่า ^^

น้ำตกสายรุ้งละอองดาว

น้ำตกสายรุ้งละอองดาว เป็นน้ำตกที่อยู่ลึกเข้าไปในป่า (ลึกสุดใจจริมๆ) กว่าจะมาถึงจุดที่เห็นน้ำตกนี่เท้าก็ชา แขนก็เป็นตะคริวไปแล้วครึ่งนึง ต้องงัดเรี่ยวแรงเฮือกสุดท้ายขึ้นมาหยิบกล้องถ่ายภาพกันเลยทีเดียว

ตารางการเดินทางที่เคทไปมา เป็นแบบนี้ค่า:

Day 1 เราเดินทางจาก กทม.ตั้งแต่ตอน 21.00 น. ตอนกลางคืน หลับบนรถตู้ค่ะ (ถ้าใครอยากหลับ หรือเมารถ ก็พกยาแก้เมารถไป จะได้นอนยาวๆ จ้า)

Day 2 เวลา 05.00 น. ถึงระนอง เดินหาของกินและอาหารเช้าในตลาดท้องถิ่น บรรยากาศดีมากค่ะ จะได้ทันเห็นพระมาบิณฑบาตร ได้เห็นพ่อค้าแม่ค้าขายของกันเช้าๆ ความจุกจิกจอแจเล็กๆ ในตลาดต่างจังหวัดตอนอากาศเย็นๆ มันรู้สึกดียังไงบอกไม่ถูก

จากนั้นก็มุ่งหน้าสู่หน่วยพิทักษ์ป่า ต.บ้านนา อ.กะเปอร์ จ.ระนอง เพื่อล้างหน้าล้างตา ทานข้าวเช้า และเริ่มขนของขึ้นรถกระบะ (อะไรที่ไม่ได้เอาเข้าป่า ก็ฝากไว้ที่สำนักงานของหน่วยพิทักษ์ป่าได้ค่ะ)

เราก็จะขึ้นรถกระบะไปยังจุดสตาร์ท พร้อมพี่ๆ เจ้าหน้าที่ค่ะ จากนั้นก็เดินกันทั้งวัน เริ่มเดินประมาณ 9 โมงเช้า ไปถึงแคมป์ก็ 14.00-15.00 น. ถ้าจำไม่ผิดนะ (ขึ้นอยู่กับความเร็วของแต่ละคนด้วยน้า เพราะเคทจะเดินช้ามากมาย เป็นสายกินลมชมวิว)

พอไปถึงแคมป์ปุ้บ ก็จะทิ้งกระเป๋าเป้ใบใหญ่ไว้ แล้วเอาไปแค่ของที่จำเป็น ได้แก่ กล้อง น้ำดื่ม ไฟฉายคาดหัว กับไม้เทรคกิ้ง เพื่อเดินต่อไปยังน้ำตกค่ะ

จากแคมป์ไปยังน้ำตก ไป-กลับประมาณ 3-4 ชม. เห็นจะได้ค่ะ หรืออาจจะนานกว่านั้น ตอนที่เคทไป คือเริ่มเดินจากแคมป์ราวๆ บ่ายสองกว่าๆ กว่าจะกลับมาถึงแคมป์ก็ทุ่มเศษๆ (จำเวลาที่แน่นอนไม่ได้ รู้แค่ว่าตอนออกจากน้ำตกคือฟ้ามืดแล้ว ฮรืออ T^T)

Day 3 เดินกลับจากแคมป์ ออกจากป่า แวะทานข้าวเย็นในเมือง แล้วกลับกทม.ค่ะ

เดินป่าน้ำตกสายรุ้งละอองดาว ที่ตั้งของแคมป์ที่พัก
บริเวณแคมป์ที่พัก
เดินป่า เดินป่าไทย เดินป่าระนอง เที่ยวระนอง น้ำตกสายรุ้งละอองดาว ทริปเดินป่าน้ำตกสายรุ้งละอองดาว กะเปอร์ ตำบลบ้านนา ลุยน้ำตก ผจญภัย adventure เที่ยวคนเดียว จอยทริป
ลุยน้ำครึ่งตัว
ลอยละล่อง

ทริปน้ำตกสายรุ้งละอองดาว เป็นทริปที่ลุยน้ำเยอะมากๆ ใครที่ชอบน้ำตกก็จะถูกใจหน่อย วันแรกจะเป็นเลเวลเดินข้ามกระแสน้ำที่ค่อนข้างเชี่ยว และแรง

ส่วนวันที่สองเราจะล่องน้ำกันทั้งตัวเลยตามภาพที่เห็นค่ะ ซึ่งเคทชอบมาก น้ำเย็นสบายดี ลึกเป็นบางจุด แต่ไม่ถึงกับลึกจนท่วมหัวนะคะ คนที่ว่ายน้ำไม่ได้ไม่ต้องเป็นกังวัลค่า เพราะเป้ของเราที่อัดกระเป๋ากันน้ำอยู่ข้างใน มันจะเหมือนตัวทุ่นพาเราลอยด้วย สบายเลย

ระหว่างทาง ทริปเดินป่า น้ำตกสายรุ้งละอองดาว
กำลังยืนคิดอยู่ว่า ‘ไปต่อหรือพอแค่นี้’ 555+
สภาพเส้นทางของทริปน้ำตกสายรุ้งละอองดาว จะมีเจ้าหน้าที่คอยดูแลเวลาที่เราต้องเดินผ่านทางที่น้ำเชี่ยวค่ะ
เดินบนหินน้ำตกลื่นๆ ว่ายากแล้ว เดินบนกองไม้ผุๆ คือยากกว่า ไม่น่าขึ้นไปเลย (ยิ่งน้ำหนักเยอะๆ อยู่ แหะๆ)  T^T

ธรรมชาติที่นี่จะอุดมสมบูรณ์มาก ตอนเคทไปเจองูด้วย ดูจากลักษณะแล้วน่าจะเป็นงูทางมะพร้าว เจ้าหน้าที่บอกว่าน้องไม่มีพิษค่ะ แต่ฉกเก่ง 555+ เจอตรงที่ต้องเดินผ่านซอกหินแคบๆ ด้วย เลยต้องพยายามเดินเบาๆ ไม่ให้เขาตกใจ เกร็งเท้ามากมาย

เดินป่า นอนเปล สายรุ้งละอองดาว ระนอง กะเปอร์ ตำบลบ้านนา อาบป่า อาบธรรมชาติ

“อยากอาบป่า..ให้นอนเปล” 😊 ทริปนี้เป็นทริปแรกที่เคทได้นอนเปล ปกติจะนอนเต้นท์ ไม่ก็โฮมสเตย์ตลอดเลย เราชอบมากๆ รู้สึกเหมือนตัวเองเป็นดักแด้ตัวอ้วนๆ ที่ลอยอยู่เหนือพื้นดินและอันตรายทั้งปวง 5555+ ขอบคุณ the Puffin House เปลอุ่นนอนสบาย มีถุงนอนมีมุ้งและไฟแคมป์ให้พร้อม หัวถึงเปลปุ้บ ก็หลับลึกทันที

เดินป่า น้ำตก สายรุ้งละอองดาว หินลื่นมาก

จุดไต่เชือกลงไปดูน้ำตกสายรุ้งละอองดาว ทางชัน 70-90 องศามีอยู่จริง ตอนปีนกลับคือเหมือนทาร์ซานเลยจ้า เหมือนปีนผาเลย รากไม้แข็งแรงๆ และเชือกสีขาวที่ขึงไว้ คือที่พึ่งสุดท้ายที่ห้ามปล่อยมือ

ขากลับจะมีแหล่งน้ำแบบนี้ให้เราลงเล่นได้ตลอดทาง ชุ่มฉ่ำดีจริงๆ
กองทัพต้องเดินด้วยท้อง The Puffin House ทำอาหารกลางป่าให้ทาน อร่อยมากมาย ^^
อาหารใต้ที่พี่ๆ เจ้าหน้าที่ทำเลี้ยงตอนออกจากป่า ตอนนั้นจำได้ว่าเหนื่อยและล้ามาก พอมาเจออาหารใต้ของพี่ๆ เข้าไป เหมือนได้ถึงนิพพาน ^^

Check list อุปกรณ์ที่ควรพกไปในทริปนี้

1) รองเท้า ที่สะเทิ้นน้ำ สะเทิ้นบก: มีหลายยี่ห้อในทริปนี้ เลยอยากรีวิวให้คร่าวๆ ประกอบการตัดสินใจค่ะ

– Salomon Speed Cross X 4: เคทใส่รุ่นนี้ไป ข้อดีคือใส่สบายเท้า โดยเฉพาะคนที่มีหน้าเท้ากว้าง ดอกยางลึก ไม่ต้องพะวงเรื่องเชือกรองเท้าหลุด เพราะออกแบบมาให้ไม่ต้องผูกเชือกรองเท้า เดินในป่าดิบชื้นที่มีโคลนได้ดี แต่จะเสียอาการเมื่อเดินบนหินน้ำตกและเจอตะไคร่น้ำ ลื่นมากมายค่า T^T

สตั๊ดดอย: พี่ๆ เจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่า จะใช้สตั๊ดดอยกันค่ะ มันสะเทิ้นน้ำสะเทิ้นบกอยู่แล้วล่ะ ส่วนข้อเสียคือ พี่ๆ บอกว่าช่วงแรกๆ ที่เคยใส่ รองเท้าจะกัดเจ็บมาก

– สตั๊ดดอย สีเหลือง (ข้าวโพด) อันนี้ก็มีเพื่อนร่วมทีมใส่ไป พบว่าเท้าระบม และโดนรองเท้ากัดเหมือนกันค่ะ แต่ยึดเกาะดี ไม่ลื่น

– รองเท้าทหารจีน มีเพื่อนร่วมทีมใส่ไป ยังไม่พบปัญหาอะไร แต่ถ้าเป็นคนหน้าเท้ากว้าง อาจเจ็บเท้า

2) กระเป๋ากันน้ำ: ทาง Puffin House เขาจะแนะนำให้เอาของใส่ถุงพลาสติกก่อน แล้วค่อยใส่ในกระเป๋ากันน้ำอีกที เพื่อความชัวร์ค่ะ

3) ไม้เท้าเดินป่า/ trekking pole: พกไปด้วยจะช่วยได้เยอะมากเลยล่ะ เพราะมีจุดที่ลื่นๆ และชันเยอะ จะช่วย support ข้อเข่าได้ดีค่ะ (ส่วนจุดที่ต้องไต่เชือกลงไปหาน้ำตก เจ้าหน้าที่เขาจะให้เราวางไม้เท้ากองไว้รวมกัน แล้วค่อยกลับมาเอา จะได้ไต่เชือกได้สะดวก)

4) กล้อง+กันน้ำ: ที่ได้ใช้เยอะสุดในทริปนี้ เห็นจะเป็นมือถือนี่ละจา -_- แนะนำให้ซื้อเคสกันน้ำแบบซองใสที่ touch screen ได้สำหรับใส่มือถือ ห้อยคอไว้สะดวกสุดค่ะ

ขนาดเคทเอา GoPro ไป ยังรู้สึกเอาออกมาใช้ถ่ายน้อยมากเลย เพราะไม้ 3-way ค่อนข้างหนัก และเส้นทางมันทุลักทุเล เดินๆ ถ่ายอยู่อาจลื่นล้มได้ไม่ทันรู้ตัว (นี่ก็แอบลื่นลงโคลนในป่าประเดิมก่อนเพื่อนเลยค่ะ 555+) หรือถ้าใครอยากเอาไป ลองติด mount คลิปไว้กับสายเป้ก็ได้นะคะ หรือเป็น mount แบบรัดข้อมือ รัดหน้าอก อาจจะสะดวกกว่า

ส่วนพวกกล้องใหญ่ๆ กว่านี้ พกไปลำบากจ้า อย่าเอาไปเลยน้า

5) เรื่องน้ำดื่ม เคทเอาตัวกรองน้ำไปด้วย เอาไว้กรองน้ำดื่มได้เลยจากแหล่งน้ำในป่าค่ะ แต่จริงๆ แล้วทริปนี้ทาง The Puffin House เขาจะมีน้ำไว้ให้อยู่แล้วที่แคมป์ ไม่จำเป็นต้องเอาตัวกรองไปก็ได้ค่า

ตัวกรองที่เคทใช้อยู่เป็น MSR trailshot ถือว่าใช้ได้สะดวกเลยนะ วิธีใช้ก็เอาสายข้างหนึ่งหย่อนลงน้ำที่จะกรอง  บีบตัวปั้ม น้ำสะอาดจะไหลผ่านตัวกรองตรงหัวปั้ม ลงขวดของเราเลยค่ะ ใช้เวลาไม่นานมากก็ได้น้ำมา 1 ลิตร เหมาะแก่การไว้ใช้ส่วนตัวหรือเติมน้ำให้เพื่อนระหว่างทางค่ะ

6) ถุงเท้ากันทาก จำเป็นมั้ย? ส่วนตัวที่ไปมา ถ้าเป็นผ้านี่จะถ่วงน้ำ-ถ่วงขามากกว่า เคทต้องถอดออกเลยค่ะ แบบว่ายอมโดนน้องทากจุมพิต ดีกว่าเดินลื่นเขากระแทกหิน

ใครอยากใส่ถุงเท้ากันทาก ของทริปนี้แนะนำเป็นแบบยางยืด เคทว่ากระชับและไม่เกะกะดีค่ะ พี่ๆ เจ้าหน้าที่เขาใส่กัน

ส่วนน้องทากที่นี่ เคทโดนกัดมาแล้ว จะบอกว่าไม่เคยเห็นตัวน้องเลยนะ เจอแต่รอย และน้องก็ขบได้แผ่วเบามากจนไม่รู้สึกตัวสักนิด มาเห็นรอยกัดก็ตอนอาบน้ำแล้วค่ะ ประมาณ 2-3 รอย น้องทากที่นี่ไม่ดุจริงๆ ตามที่เขาร่ำลือ

7) ไฟฉายคาดหัว เพราะตอนไต่เชือกลงไปน้ำตก ขากลับหากเรากลับช้า ฟ้าจะมืดแล้ว ต้องเดินในป่าตอนกลางคืนด้วยค่ะ เอาติดตัวไว้ดีสุด

8) เอาแต่ของที่จำเป็นไป ยิ่งกระเป๋าเบาจะยิ่งดีที่สุด สำหรับทริปน้ำตกสายรุ้งละอองดาวค่า ^^

น้ำตกสายรุ้งละอองดาว หน้าฝน

…………

ก่อนจากไปจากระนอง อย่าลืมแวะทานมื้อค่ำที่ร้านเชฟหมี ชื่อ ร้าน J&T ร้านอาหารพื้นเมืองเจ้าดังของที่นี่ค่ะ เจ้าของน่ารักมาก มีออกจากครัวมาคุยกับลูกค้าทีละโต๊ะเลยด้วยท่าทางนอบน้อมสุภาพ อาหารอร่อยน้ำตาไหลหลายเมนู (โดยเฉพาะเมนูรูปขวาบนที่เคทจำชื่อเมนูไม่ได้ จำได้แต่รสชาติว่าอร่อยฝุดๆ) รู้เลยว่าใส่ใจทำมากๆ เคทถึงกับอยากกลับไประนองเพื่อไปทานร้านนี้โดยเฉพาะเลยล่ะ

J&T ร้านอาหาร ระนอง ร้านเชฟหมี ร้านอร่อยระนอง ร้านอาหารพื้นเมืองระนอง

ฝากเพื่อนๆ ติดตามเรื่องเล่าจากการเดินทาง+ทริปแบบมันส์ๆ ได้ที่ 🥰🐯
Facebook: https://web.facebook.com/katewandermore
IG : https://www.instagram.com/kate_wandermore/
Twitter: https://twitter.com/kate_wandermore

Featured

ขัด-ล้วง-ล้าง: เปลือยประสบการณ์อาบน้ำแบบ Public Hammam ใน Fez, Morocco

เด็กสาวคนหนึ่ง ถูกไหว้วานให้นำทางฉันไปพบกับคุณป้าชาวโมร็อคโคกลางเมดิน่า คุณป้ามีรูปร่างอวบ สวมชุดคลุมยาวสีออกส้มๆ โพกศีรษะแบบมุสลิม ส่งยิ้มให้ฉันอย่างรีบๆ ก่อนจะเดินนำหน้าฉันไป เรากำลังเดินไปยังโรงอาบน้ำแบบ Hammam ซึ่งเป็นโรงอาบน้ำสาธารณะในเมืองเฟซ โมร็อคโค

กลางวันจะเป็นรอบอาบน้ำ hammam ของผู้หญิง ตกเย็นจะเป็นรอบของผู้ชาย

ฉันยังไม่เคยเปลื้องผ้าอาบน้ำในที่สาธารณะที่ไหนมาก่อน ตอนไปญี่ปุ่นก็ไม่เคยอาบออนเซ็น แม้จะถูกคะยั้นคะยอให้ลงอ่างหลายครั้งแค่ไหนก็ตาม

แต่แปลก..ที่พอมาถึงที่นี่…ฉันกลับวิ่งหา public hammam แถมยังขอให้ทางโรงแรมจัดแจงหาคนพาไปให้ได้

Hammam เป็นการอาบน้ำแบบดั้งเดิมในโรงอาบน้ำสาธารณะ ที่ได้รับอิทธิพลมาจากชาวโรมันตั้งแต่สมัยโบราณ จนกลายเป็นที่นิยมทั่วไปในโมร็อคโค รวมทั้งประเทศอื่นๆ ในแถบแอฟริกาตอนเหนือ โรงอาบ hammam จะแบ่งออกเป็น 3 โซน ได้แก่ โซนเย็น โซนร้อน และโซนอุ่น

คุณป้าคนนั้นเดินไวมาก เราเดินมาถึงหน้าโรงอาบน้ำที่ไม่มีป้ายหรือสัญลักษณ์ใดๆ บอก หากคนภายนอกเดินผ่านสถานที่แห่งนี้ไปเฉยๆ ก็คงไม่มีทางเดาออกว่าที่นี่คือ…โรงอาบน้ำ

หน้าโรงอาบน้ำ hammam โมร็อคโค

ตั้งแต่ย่างเท้าเข้าไปในนั้น ฉันก็ได้ยินเสียงเหมือนคนตักน้ำสวบๆ ขึ้นเทใส่ตัว และเสียงพูดคุยกันจอแจเหมือนอยู่ในตลาด ไอร้อนจากโรงอาบแผ่ซ่านออกมาด้านนอก

ฉันถูกต้อนรับด้วยภาพบรรยากาศของคนท้องถิ่น เปลือยท่อนบนตั้งแต่ยังไม่ถึงห้องอาบ คุณป้าเก็บเงินจากฉันไปจ่ายคุณยายผู้เฝ้าโรงอาบน้ำ พร้อมเถียงอะไรกันอยู่นาน จากนั้นเธอพาฉันเดินขึ้นบันไดไปชั้นลอย เพื่อแขวนเสื้อผ้าและกระเป๋าของเราไว้ที่นั่น

ที่นี่ไม่มีล็อคเกอร์ มีแค่ตะขอติดไว้กับผนังเพื่อให้แขวนผ้าขนหนูและกระเป๋าสัมภาระ คุณป้าประเดิมถอดเสื้อผ้าต่อหน้าฉัน เผยให้เห็นหน้าอกหน้าใจ และหน้าท้องเต็มๆ โดยยังใส่กางเกงในท่อนล่างไว้ เธอหันมาทางฉัน แล้วทำท่าทางบอกให้ฉันถอดตาม

ฉัน..ผู้ที่ยังไม่เคยแม้แต่ผ่านออนเซ็น ยืนเก้ๆ กังๆ อยู่ได้ไม่นานนัก เพราะคุณป้ารบเร้าให้รีบถอด จะได้เข้าไปรีบอาบ เนื่องจากรอบเย็นโรงอาบ hammam จะเป็นของผู้ชาย เรามีเวลาอยู่ที่นั่นไม่เกินห้าโมงเย็น

ฉันจึงค่อยๆ ถอดเสื้อผ้าออกทีละชิ้น ตั้งแต่เสื้อแจ๊กเก็ตกันหนาว กางเกงชั้นนอก กางเกงลองจอนกันหนาว ชุดชั้นใน ถุงเท้า … เหลือไว้แต่ท่อนล่างเหมือนคุณป้า ฉันเอาแขนปิดท่อนบนไว้ เดินย่องๆ ตามหลังคุณป้าเข้าโรงอาบ

hammam-morocco-4-logo

ด้านในนั้น…เรียกได้ว่าตื่นตาตื่นใจมากฉันเห็นผู้หญิงทุกวัย ทุกผิวสี ตั้งแต่เด็กเล็ก หญิงสาว ไปจนถึงคนชรา บางคนหน้าตาเหมือนคนยุโรป ผมแดง ตัวขาว บางคนหน้าตาเหมือนแขกอาหรับ ผมดำ ค่อนข้างเจ้าเนื้อ

สาวเอเชียผิวเหลือง ณ วันนั้น เห็นจะมีแต่ฉันเพียงคนเดียวที่เป็นตัวแทนหมู่บ้าน เดินล่อนจ้อนเข้าไปท่ามกลางคนท้องถิ่น พวกเขาหันมามองเพียงแว้บนึง แต่ไม่ถึงกับจ้อง คนที่มีแนวโน้มว่าจะจ้องมองฉัน มีเพียงเด็กเล็กที่สงสัยใคร่รู้ตามประสาเด็กเท่านั้น

hammam-morocco-5-logo

ความร้อนจากบ่อน้ำร้อน hammam ทำให้ฉันรู้สึกเหมือนได้เข้าโรงซาวน่า ฉันได้เห็นเต้ามากมายหลายเต้า…ได้ยินเสียงมากมายหลายเสียง หลากสำเนียง หลากภาษา ทั้งฝรั่งเศส และอาราบิค ปนเปกันไป เรียกได้ว่า เสียงดังจุกจิกจอแจ ปนกับเสียงตักน้ำขึ้นอาบดังสวบๆ หลายระลอก

ทุกคนจะมีอาวุธประจำกาย คือถังใบหนึ่ง หรือสองถัง เพื่อใส่น้ำร้อนไว้อาบ การอาบน้ำแบบ Hammam จะมีคนมาขัดสีฉวีวรรณให้ทั่วร่าง วันนั้น คุณป้ารับบทเป็นคนอาบน้ำให้ฉัน

ทั้งล้วง..ทั้งควัก..ทั้งขัด…ทั้งถู…ทั้งล้าง

การใส่ท่อนล่างมา เลยไม่ได้มีความหมายแต่อย่างใด เพราะสุดท้ายแล้ว เราจะถูกขัดล้างซะหมดจดทั้งตัวอยู่ดี

ฉันรู้สึกเหมือนกับกลายเป็นเด็กที่ถูกแม่จับอาบน้ำไปเลยทีเดียว อุปกรณ์ของคุณป้าก็มีเยอะมาก ทั้งฟองน้ำขัดตัว สบู่ มาส์กขัดผิว และแชมพู เธอจะให้ฉันนั่งอยู่กับพื้น แล้วเธอจะตักน้ำใส่ถัง ผสมให้ได้น้ำอุ่นๆ แบบไม่ร้อนจนเกินไป

hammam-morocco-wander-more

“ดีไหม?” เธอถามฉันเป็นภาษาฝรั่งเศส เป็นคำเดียวที่ฉันพอจะฟังออก

“ก็ดีค่ะ” ฉันตอบกลับ พร้อมกับตาที่แทบลืมไม่ขึ้นในบางช่วงเพราะไอร้อนในโรงอาบ

คุณป้าขัดผิวฉันจนตัวแดง ก่อนจะหันไปขัดตัวเอง แล้วยื่นขวดยาสระผมให้ฉัน

ฉันมองไปรอบๆ เห็นหลายคนพาลูกพาหลานตัวเล็กๆ มาอาบน้ำ บางคนที่ยังสาวก็มากับเพื่อน ต่างนั่งขัดหลังขัดตัวให้กันจนดูเป็นเรื่องปกติ เด็กน้อยที่กำลังถูกแม่สระผมให้ จ้องมองฉันอยู่นาน ฉันยิ้มให้ ก่อนหลบตามาโฟกัสที่คุณป้าซึ่งกำลังบอกให้ฉันนอนราบไปกับพื้น

ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมาก เรียกได้ว่าเรื่องดำเนินเร็วจนฉันไม่ทันรู้สึกอายใดๆ รู้ตัวอีกทีก็นอนราบไปกับพื้นร้อนๆ ให้คนแปลกหน้ามาขัดร่างอันเปลือยเปล่าให้แล้ว

…..

hammam-morocco-3-logo

วิธีการอาบน้ำใน Public Hammam

1) จ่ายค่าอาบน้ำให้คนที่พาเราไป ซึ่งจะรวมค่าบริการของโรงอาบ และค่าเซอร์วิสที่เขาพาเรามาอาบน้ำ พร้อมขัดตัวให้ (ราคาไม่แพง ประมาณ 120 Dirham หรือ 380 บาท แบ่งเป็นค่าเข้า 10 Dirham และค่านวด 110 Dirham)

2) ไม่มีล็อคเกอร์รูม มีแต่พื้นที่ให้แขวนเสื้อผ้าและกระเป๋า จึงไม่ควรนำของมีค่าติดตัวไป หากมีกระเป๋าตังค์และมือถือ อาจฝากไว้กับคนเฝ้าโรงอาบน้ำได้

3) ทางโรงอาบ จะให้ถังขนาดกลาง มาใส่น้ำเย็นและน้ำร้อน คนละใบ

4) ต้องเปลื้องผ้าออกหมด เหลือแต่กางเกงใน ห้ามเอาสิ่งของนอกจากอุปกรณ์สำหรับขัดตัวเข้าไปในบริเวณที่อาบ รวมทั้งผ้าขนหนู (ให้แขวนผ้าขนหนูไว้ข้างนอกกับกระเป๋า)

5) อาบเสร็จให้ล้างถังให้เรียบร้อย แล้วคืนถังให้คนเฝ้าโรงอาบ

6) เช็ดตัวให้แห้ง แต่งตัว หากเปลี่ยนชุดชั้นในแห้ง ให้ใส่ผ้าขนหนูก่อน

7) ผู้หญิงและผู้ชาย ไม่มีการอาบรวมกัน จะแยกโรงอาบน้ำ ไม่ก็แยกเวลาในการอาบ เช่น กลางวันเป็นรอบเวลาของผู้หญิง ตกเย็นเป็นรอบของผู้ชาย เป็นต้น

…..

Source: Lonely Planet

ภาพวาดประกอบน่ารักๆ โดย: เผือกปั่น

อ่านเรื่องราวแบกเป้ลุยเดี่ยว เที่ยวดินแดนโมร็อคโค ต่อได้ที่:

ผู้หญิงเที่ยวคนเดียวในโมร็อคโค ปลอดภัยมั้ย?

ขัด-ล้วง-ล้าง: เปลือยประสบการณ์อาบน้ำแบบ Public Hammam ใน Fez, Morocco

แสงสุดท้ายที่เกือบไม่ได้เห็น ที่ Ait ben haddou เมืองมรดกโลกพันปี ที่ Morocco

Fez เมืองหมื่นตรอกโบราณ ‘อดีตที่ยังมีชีวิต’ ของ Morocco

เจอเหตุการณ์ไม่น่าประทับใจ, แต่ดันได้ของขวัญเป็นเพื่อนใหม่ที่ Casa Blanca

ฝากเพื่อนๆ ติดตามเรื่องเล่าจากการเดินทาง+ทริปแบบมันส์ๆ ได้ที่ 🥰🐯
Facebook: https://web.facebook.com/katewandermore
IG : https://www.instagram.com/kate_wandermore/
Twitter: https://twitter.com/kate_wandermore

Featured

Fez เมืองหมื่นตรอกโบราณ ‘อดีตที่ยังมีชีวิต’ ของ Morocco

1) แรกพบ

“Fez คือการหนีร้อนมาพึ่งเย็น” ฉันแอบคิด..เมื่อได้บินจากมาราเคซมาถึงเมือง Fez โมร็อคโค หลังจากได้เผชิญกับเรื่องราวที่ไม่น่าประทับใจที่เมืองมาราเคซ ทั้งโดนรีดไถ ทั้งเรื่องที่มีคนคอยเดินตามและสารพัดความขุ่นเคืองในหัวใจ จะได้รับการ refresh ใหม่ ณ ที่แห่งนี้

ฉันเดินหา Riad หรือโรงแรมที่พักที่ฉันจองไว้ล่วงหน้าด้วยตัวเอง เพราะมีประสบการณ์มาจากเมืองก่อนๆ ใน Morocco ว่า หากถามทางคนแปลกหน้า อาจนำไปสู่การเสียทรัพย์ได้โดยไม่ทันตั้งตัว แต่แปลก..ที่เมือง Fez บรรยากาศกลับตรงกันข้าม ผู้คนที่นี่เป็นฝ่ายหยิบยื่นน้ำใจมาให้นักท่องเที่ยวที่กำลังหลงทางอย่างฉันอย่างมีมิตรไมตรี และไม่คาดหวังสิ่งตอบแทน

Riad ของฉัน ได้สร้างความประทับใจแรก โดยการยกห้องทั้งห้องซึ่งนอนได้ราว 8 คน (เป็น family room) ให้ฉันซึ่งเดินทางมาพักเพียงคนเดียว แถมยังเรียกฉันไปบรี๊ฟ เล่ารายละเอียดการเดินสำรวจเมือง Fez อย่างละเอียด และให้แผนที่กับฉันมาด้วย

ห้องพักใน Fez โมร็อคโคจิบชาสไตล์โมร็อคคัน Fez โมร็อคโคคนใส่ชุดคลุมพื้นเมือง ใน Fez โมร็อคโค

แผนที่เมือง Fez โมร็อคโค
แผนที่เมือง Fez ที่ทาง Riad เตรียมไว้ให้ ในแผนที่แสดงให้เห็นว่าใน Fez มีประตูเมืองทั้งหมด 14 ประตู และอาจมีตรอกซอกซอยมากกว่า 9000 ตรอก

2) เมืองหมื่นตรอก ในซอกซอยแห่งอารยธรรม

เมือง Fez นี้มีตรอกซอกซอยใน Medina มากกว่า 9,000 ตรอก เรียกได้ว่าหากไม่ได้เป็นคนในพื้นที่ เดินคนเดียวการันตีความหลงได้ตั้งแต่ยังไม่สตาร์ท ฉันเลยตัดสินใจจ้างไกด์นำทาง เป็นคุณลุงรูปร่างสูงใหญ่ ไว้หนวด แต่งกายด้วยสูทสีส้มน้ำตาล แลดูสุภาพ คุณลุงเรียกฉันว่า ‘มาดมัวแซล’ ซึ่งเป็นสรรพนามไว้เรียกขานหญิงสาวในภาษาฝรั่งเศส

ที่นี่เป็นแหล่งอารยธรรมของโลกอาหรับมุสลิม ที่ถูกรักษาไว้ในสภาพที่ดีที่สุดและยัง ‘เป็นวัฒนธรรมที่มีชีวิต’ มาจนตราบปัจจุบัน ทั้ง Medina หรือย่านเมืองเก่า, โรงเรียนสอนศาสนา, มหาวิทยาลัยที่เก่าแก่ที่สุดในโลก, โรงฟอกหนังแบบยุคกลาง, Riad หรือโรงแรมที่พักในแบบดั้งเดิม, โรงอาบน้ำสาธารณะแบบ Hammam ฯลฯ

ที่สำคัญคือ Fez ยังคงเป็นศูนย์รวมของงานคราฟท์จากช่างฝีมือหลายศาสตร์หลายแขนง จนได้รับการยกย่องจากยูเนสโกให้ Medina of Fez เป็นมรดกโลกที่สมบูรณ์แบบอีกแห่งหนึ่ง เป็นดุจพิพิธภัณฑ์อันมีชีวิตที่ยังจับต้องได้ในโลกปัจจุบัน

ไกด์พาเที่ยวใน Fez โมร็อคโคบรรยากาศใน Fez โมร็อคโคFez โมร็อคโค สถานที่ทางศาสนาสถานที่ทางศาสนาfez-morocco-32

3) โรงฟอกหนัง สมัยยุคกลาง (Chouara Tannery)

สิ่งที่เป็นไฮไลท์เมื่อนึกถึงเมือง Fez คือโรงฟอกหนังแบบเก่าแก่สมัยศตวรรษที่ 11 ที่ยังคงดำเนินกิจการอยู่ในปัจจุบัน ฉันเดินไต่ขึ้นบันไดในร้านขายเครื่องหนัง เพื่อขึ้นไปดูโรงฟอกหนังบนดาดฟ้า แต่รู้สึกราวกับได้ไต่บันไดขึ้นไปเพื่อย้อนเวลาหาอดีต…

หนุ่มน้อยชาวโมร็อคโกผมดำขลับหยักโศก นัยย์ตาสีฟ้า ยื่นใบมิ้นต์ให้ฉันเอาไว้ดมเพื่อกลบกลิ่นแอมโมเนียที่อาจลอยโชยมาจากโรงฟอกหนัง

บ่อหลายบ่อบรรจุแอมโมเนียเกือบเต็ม หลายบ่อมีสีผสมอยู่เพื่อฟอกสีหนังให้ได้สีตามที่ต้องการ หนังพวกนี้ส่วนใหญ่เป็นหนังอูฐของแท้ คนงานใส่ชุดป้องกันสารเคมียืนคุยกันอยู่ริมบ่อประมาณห้าหกคน บางคนก็กำลังขัดสีหนังจนสีซีดจาง ม้าและล่อยังคงถูกใช้งานแม้แต่ในสถานที่แคบๆ แห่งนี้

โรงฟอกหนัง ในโมร็อคโค

โรงฟอกหนัง
Credit ภาพมุมนี้จาก Carlos Ibanez
Chouara Tannery
Credit ภาพมุมนี้ จาก Carlos Ibanez

คนงานในโรงฟอกหนังfez-morocco-26

fez-morocco-24
คุณลุงเป็นช่างเย็บกระเป๋า นั่งเย็บทีละฝีเข็มอยู่หลังร้าน พอขอเข้าไปดู คุณลุงชูนิ้วโป้งให้ถ่ายรูป
Chouara Tannery
Credit ภาพมุมนี้จาก Doran Erickson

4) Medersa al-Attarine สถาปัตยกรรมชั้นครูของโลกอาหรับ

Medersa หรือ Madrasa หมายถึงโรงเรียนสอนศาสนา ซึ่งจะมีอยู่หลายแห่งด้วยกันในโมร็อคโก ส่วน Medersa al-Attarine ที่สร้างโดยสุลต่านราชวงศ์มารินิด มากว่า 600 ปี จัดว่าสะท้อนถึงสถาปัตยกรรมของราชวงศ์มารินิดได้เยี่ยมยอดที่สุด ทั้งในแง่ของการตกแต่งและการใช้สอยพื้นที่อย่างคุ้มค่า

ฉันเดินขึ้นบันไดแคบๆ มืดๆ ไปยังชั้นบนโดยที่ไม่รู้เหมือนกันว่าข้างบนนั้นมีอะไร ปรากฏว่ามีชั้นสำหรับอยู่อาศัยซ่อนอยู่อีกชั้น มีห้องแยกอยู่หลายห้อง และหน้าต่างเล็กๆ ที่เปิดออกมาเห็นวิวที่สวยงามของชั้นล่างโรงเรียน

Medersa al-AttarineMedersa al-Attarine 2แมวโมร็อคโค

5) Berber คืออะไร ทำไมเห็นแต่ตัวอักษระแปลกๆ

ⴼⴰⵙ

ⵜⴰⵎⴰⵣⵉⵖⵜ

ⵜⵎⵣⵗⵜ

ฉันสังเกตเห็นป้ายบอกทางในตรอกต่างๆ สลักด้วยตัวอักษรหน้าตาประหลาด เหมือนภาษาโบราณ คนท้องถิ่นที่นี่อธิบายว่า คือภาษา ‘Berber’ เป็นภาษาในตระกูล อะโฟรเอเชียติค ภาษาของชนพื้นเมืองในแอฟริกาตอนเหนือ

ที่อะเมซิ่งคือ ภาษา Berber นี้ยังคงใช้อยู่ในโมร็อคโค แอลจีเรีย ลิเบีย ตูนิเซีย มาลีตอนเหนือ และไนจีเรีย เป็นต้น

ไม่เพียงแค่ภาษาเท่านั้น วัฒนธรรมของชาว Berber ยังถูกถ่ายทอดในงานฝีมือพวกเครื่องประดับของที่นี่อีกด้วย หากใครไปร้านเครื่องประดับมักจะได้ยินเจ้าของร้านบอกว่า แหวน กำไล หรือจี้แบบลงยา เป็นวิธีของชาว Berber ดั้งเดิมที่ได้สีลงยาจากการบดหินบนภูเขา แล้วนำมาลงยาในเครื่องประดับ

berber โคมไฟสไตล์ moroccanช่างฝีมือ ทองเหลือง ในเมือง Fez moroccofez morocco 14



Booking.com


(function(d, sc, u) {
var s = d.createElement(sc), p = d.getElementsByTagName(sc)[0];
s.type = ‘text/javascript’;
s.async = true;
s.src = u + ‘?v=’ + (+new Date());
p.parentNode.insertBefore(s,p);
})(document, ‘script’, ‘//aff.bstatic.com/static/affiliate_base/js/flexiproduct.js’);

6) แหล่ง Argan Oil

ที่นี่ยังได้ชื่อว่าเป็นแหล่งกำเนิดของ Argan Seed ที่นำมาสกัดได้เป็น Argan Oil ที่เรารู้จักและใช้กันทั่วไปในแชมพู สบู่ และสกินแคร์ ฉันเสียดายที่ไม่ได้เห็นต้น Argan ที่มีเอกลักษณ์ของที่นี่ เพราะมักมีภาพจำเป็นแพะตัวน้อยๆ ยืนเกาะบนต้น Argan อยู่เป็นที่ประหลาดตา แต่อย่างน้อยในทริปนี้ ฉันก็ได้ไปเยี่ยมร้านที่ขาย Argan Oil บดเมล็ดกันสดๆ อยู่หลังร้าน

argan oil โมร็อคโค

แพะยืนบนต้น argan oil โมร็อคโค
Credit ภาพจาก Steven Feldman

มีแต่คนบอกว่า หากใครได้มาเยือน Fez มักจะให้เวลากับที่นี่มากกว่า 2 คืน เพราะเสน่ห์ของวิถีชิวิตและอารยธรรมดั้งเดิมของที่นี่นั้น ยากที่จะหาดูได้จากที่ไหนๆ และยังรู้สึกปลอดภัยมากกว่าเมืองอื่นๆ

กระเป๋าทุกใบ ทุกลวดลาย มีช่างฝีมือนั่งเย็บกันอยู่หลังร้าน …

จานชาม ตะเกียง หรือถาดโลหะทองเหลือง มีช่างบรรจงแกะสลักลวดลายอยู่ข้างๆ …

สบู่ Argan Oil ที่มีคนนั่งบดเมล็ดกันสดๆ …

เป็นวิถีชีวิตแบบดั้งเดิมที่ยังคงอยู่ได้ ต้านแรงเสียดทานของกระแสโลกาภิวัฒน์อย่างไม่สะทกสะท้านใดๆ.

Credit Supported Information: Unesco, Lonely Planet, Think Morocco, wikipedia

อ่านเรื่องราวแบกเป้ลุยเดี่ยว เที่ยวดินแดนโมร็อคโค ต่อได้ที่:

ผู้หญิงเที่ยวคนเดียวในโมร็อคโค ปลอดภัยมั้ย?

ขัด-ล้วง-ล้าง: เปลือยประสบการณ์อาบน้ำแบบ Public Hammam ใน Fez, Morocco

แสงสุดท้ายที่เกือบไม่ได้เห็น ที่ Ait ben haddou เมืองมรดกโลกพันปี ที่ Morocco

เจอเหตุการณ์ไม่น่าประทับใจ, แต่ดันได้ของขวัญเป็นเพื่อนใหม่ที่ Casa Blanca

ฝากเพื่อนๆ ติดตามเรื่องเล่าจากการเดินทาง+ทริปแบบมันส์ๆ ได้ที่ 🥰🐯
Facebook: https://web.facebook.com/katewandermore
IG : https://www.instagram.com/kate_wandermore/
Twitter: https://twitter.com/kate_wandermore

Featured

เที่ยวซูดาน: การเดินทางสู่พีระมิดที่โลกลืมในซูดาน

ความกระวนกระวายใจของฉันทวีขึ้นเรื่อยๆ ในขณะที่สายตาจดจ่ออยู่ที่โทรศัพท์มือถือ และหน้าจอคอมพิวเตอร์ ฉันกำลังเตรียมตัวจะไปเที่ยวซูดาน แต่ดันไม่มีอีเมลตอบกลับจากทางซูดานมาสามวันแล้ว โทรไปต่างประเทศกี่เบอร์ที่เขาให้ไว้ก็ไม่มีสัญญาณ 

Deadline ของการยื่นเอกสารวีซ่า คืบคลานเข้ามากดดันเรื่อยๆ เหมือนกลุ่มควันหนาๆ ที่ลอยตามฉันไปทุกที่ ทำให้อึดอัดและอยู่ไม่เป็นสุข ไม่มีสมาธิจะทำสิ่งอื่นใดได้

อีกไม่กี่วันฉันต้องรีบบินลงใต้กลับบ้านช่วงปีใหม่แล้ว ตั๋วในประเทศและต่างประเทศจองไว้เรียบร้อยหมดแล้ว แถมฉันยังต้องเดินทางไปประเทศอื่นอีกหลายประเทศก่อนไปเที่ยวซูดาน ในขณะที่วีซ่าซูดานก็ยังไม่ได้ยื่น เพราะขาดเพียงจดหมายเชิญจากฝั่งซูดานเพียงฉบับเดียวเท่านั้น!

หลังจากหายไปสามวัน ทางซูดานก็ติดต่อกลับมาหาฉันทางเมล เขาชื่อจอร์จ เป็นคุณตาชาวกรีกผมขาวโพลน เจ้าของโรงแรมท้องถิ่นในซูดาน จอร์จแนบจดหมายเชิญที่เขาออกและรับรองมาให้ ฉันดีใจจนแทบกระโดดตัวลอย

เมื่อมาถึงคาร์ทูม ฉันเข้าพักที่โรงแรม Acropole Hotel ของจอร์จ จริงๆ โรงแรมแห่งนี้บริหารโดยพี่น้องชาวกรีก เป็นโรงแรมที่เก่าแก่ที่สุดของที่นี่ สร้างขึ้นเมื่อปี 1952 ตอนนี้เหลือเพียงทายาทรุ่นสุดท้ายคอยบริหารดูแล ด้วยความที่เป็นโรงแรมเก่าแก่ ผ่านร้อนผ่านหนาวมามากมาย ความสันทัดในการให้บริการของจอร์จ ทำให้ที่นี่เป็นที่นิยมของนักถ่ายทำสารคดี นักข่าวจากช่องต่างๆ รวมทั้งนักโบราณคดี ไม่บ่อยนักที่จะเห็นนักท่องเที่ยวหลงเข้ามาเที่ยวซูดาน

โรงแรมในซูดาน acropole hotel sudan
acropole hotel in sudan โรงแรมในซูดาน ที่พักซูดาน

จอร์จให้บริการฉันเป็นอย่างดี…เขาให้ฉันได้พักห้องติดระเบียง ซึ่งเป็นห้องใหญ่และวิวดีมากๆ

วันต่อมา จอร์จคอยดูแลจัดแจงรถพร้อมเสบียงให้ฉันได้ไปเที่ยวโบราณสถานตามจุดต่างๆ ของซูดานแบบ One Day Trip เป้าหมายสำคัญของวันนี้คือ พีระมิดแห่ง Meroë อยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือ ห่างจากคาร์ทูม เมืองหลวงของซูดานไปราว 230-270 กม.

“ถ้าระหว่างทางคุณหิว คุณหยิบอะไรกินได้เลย” จอร์จชี้ไปที่คูลเลอร์ขาวๆ ใหญ่ๆ ข้างเบาะที่ฉันนั่ง เขาเหมือนเป็นผู้ปกครองมาส่งลูกหลานไปโรงเรียน เขายืนอำลาฉันก่อนออกเดินทาง

“อ้อ..ผมเตรียมเสบียงไว้ให้เผื่อคนขับรถด้วยนะ”

สักพักก็หันไปกำชับคนขับรถถึงเส้นทางที่ต้องขับพาฉันไปวันนั้นด้วยภาษาอาหรับ

เมืองโบราณ มูเซาวรัต ระหว่างทางไปพีระมิดเมโรว์

ทริปนี้นอกจากเป็นทริปที่ฉันไปเพียงคนเดียวแล้ว ฉันไม่ได้จอยทัวร์กับใคร ฉันจึงเหมารถ 1 คันพร้อมคนขับไปแบบ One Day Trip ซึ่งเป็นวิธีที่ช่วยเซฟเงินให้ฉันได้มากกว่าการไปพักค้างคืนในทะเลทรายซูดาน

จอร์จเป็นคนรอบคอบและดูคล่องแคล่วมาก เขาไม่ลืมที่จะให้ไกด์บุ๊คกับฉันติดตัวไป 1 เล่ม เผื่อเอาไว้อ่านข้อมูลเกี่ยวกับโบราณสถานระหว่างทาง ซึ่งเป็นไกด์บุ๊คที่ทางโรงแรมรวบรวมขึ้นเอง พริ้นท์ลงกระดาษ A4 สีขาวง่ายๆ เคลือบปกไว้อย่างดี และเขายังไม่ลืมที่จะให้ฉันแลกเงิน USD แบงค์ย่อยไว้ เพื่อเอาไว้จ่ายค่าเข้าโบราณสถานต่างๆ ที่รัฐบาลคิดค่าเข้าไว้ซะสูงลิ่ว จนนักเดินทางงบน้อยอย่างฉันถึงกับปาดเหงื่อ (ค่าเข้าชม สถานที่ละ 20 ดอลล่าร์ หรือราว 600 บาท)

เส้นทางเที่ยวซูดานของฉัน วางไว้ดังนี้

KhartoumNaqaMusawwarat – Pyramid of Meroë

sudan-map-to-pyramid-meroe-from-khartoum
เมืองโบราณ มูเซาวรัต ระหว่างทางไปพีระมิดเมโรว์

เมืองโบราณ มูเซาวรัต ระหว่างทางไปพีระมิดเมโรว์

เมืองโบราณ มูเซาวรัต ระหว่างทางไปพีระมิดเมโรว์

ชาวบ้านขี่ล่อ ขนน้ำ ผ่านเมืองโบราณ มูเซาวรัต ระหว่างทางไปพีระมิดเมโรว์

….

พีระมิด แห่งเมือง Meroë ซูดาน

เมือง Meroë (เมโร) เป็นเมืองของอาณาจักรคุชโบราณ (Kingdom of Kush) ในสมัย 1000 ปีก่อนคริสตกาลหลังจากที่ราชวงศ์อียิปต์ลำดับที่ 24 ล่มสลายลง อาณาจักรคุชก็ผงาดขึ้นเรืองอำนาจในแถบลุ่มแม่น้ำไนล์ตอนกลาง ราชวงซ์คุชครองบัลลังก์ในอียิปต์ราชวงศ์แล้วราชวงศ์เล่า ในราว 712-657 ปีก่อนคริสตกาล

พีระมิดซูดาน เมโรว์ meroe sudan pyramid เที่ยวซูดาน

จากนั้น ก็มีการย้ายเมืองหลวงและสุสานของราชวงศ์มาอยู่ในแถบเมือง Meroë ในช่วง 300 ปีก่อนคริสตกาล ธรรมเนียมการสร้างพีระมิดจึงได้รับการส่งต่อกันมาใช้ในเมืองนี้ด้วย ดังนั้นพีระมิดที่นี่จึงเป็นพีระมิดน้องใหม่ที่สร้างหลังจากพีระมิดในอียิปต์ บ้างก็มีกล่าวว่า พีระมิดของเมือง Meroë สร้างหลังพีระมิดของอียิปต์ 800 ปี (Source: aljazeera)

จริงๆ แล้วพีระมิดของเมือง Meroë เป็นเพียงส่วนหนึ่งของพีระมิดในซูดานที่มีมากถึง 200 กว่าแห่ง หากแต่พีระมิดของเมือง Meroë มีสภาพที่สมบูรณ์ที่สุดเมื่อเทียบกับที่อื่น

จึงมีหลายคนพูดว่า ที่ซูดานมีพีระมิดมากกว่าอียิปต์เสียอีก…

พีระมิดในซูดาน sudan pyramid

แต่สิ่งที่น่าเศร้าใจหากได้มาเยือนที่นี่ คือฉันได้พบว่า พีระมิดหลายพีระมิด ท่อนบนมีสภาพพังทลายไม่เหลือซากด้วยน้ำมือคนโลภ ซึ่งเป็นโจรในคราบนักสำรวจ

โดยในศตวรรษที่ 19 มีนักสำรวจชาวอิตาลี ชื่อ Giuseppe Ferlini เคยมาระเบิดพีระมิด 40 พีระมิดของที่นี่ เพื่อหาทรัพย์สมบัติที่อยู่ด้านใน หนึ่งในนั้นคือพีระมิดที่เป็นสุสานของราชินี Amanishakheto ผู้เกรียงไกรของอาณาจักรคุช ผู้รั้งตำแหน่ง kandake of Kush (ซึ่งสันนิษฐานว่า สูงกว่าองค์ฟาโรห์ เพราะสามารถบังคับบัญชาฟาโรห์ได้)

จำลองพีระมิดสมัยที่ยังไม่โดนทำลาย
พระนาง Amanishakheto ราชินีนักรบของอาณาจักรคุชโบราณ

พระนาง Amanishakheto ราชินีของอาณาจักรคุชโบราณ

สมบัติหนึ่งในชิ้นที่ถูกขโมยในพีระมิดของพระนาง Amanishakheto ราชินีนักรบของอาณาจักรคุชโบราณ

สมบัติหนึ่งในชิ้นที่ถูกขโมยในพีระมิดของพระนาง Amanishakheto ราชินีนักรบของอาณาจักรคุชโบราณ

หลังจากนั้นนักโบราณคดีต้องพยายามอย่างหนักในการบูรณะโดยการโบกปูนสร้างโครงสร้างใหม่ประกอบกับซากเดิมที่หลงเหลืออยู่ของตัวพีระมิด ไว้ให้คนรุ่นหลังได้เข้ามาเรียนรู้

ซูดานในปัจจุบัน

ซูดานในตอนนี้ค่อนข้างเงียบเหงา ยิ่งหลังจากเกิดสงครามการเมือง ทำให้ซูดานปกครองโดยเผด็จการทหาร ตามมาด้วยการถูกคว่ำบาตรจากสหรัฐฯ แถมยังมีข่าวโรคระบาดอีโบลาในแอฟริกา ยิ่งทำให้นักท่องเที่ยวหดหายลงจนเหลือแต่คนท้องถิ่นที่มาเที่ยวชมพีระมิดเท่านั้น

พีระมิดของเมือง Meroë จึงกลายเป็นพีระมิดที่ไร้นาม..ไร้การถูกพูดถึงในวงกว้าง ..ไร้การถูกพูดถึง และถูกลืมเลือนตามกาลเวลา

meroe pyramid
ภาพจำลอง พีระมิดเมือง Meroe ยุครุ่งเรือง / Credit: steemit.com

จากที่เคยรุ่งเรืองในอดีต…

มาถูกโจรปล้นสมบัติทำพังยับเยิน

จนถึงยุคสมัยปัจจุบัน กลายเป็นพีระมิดที่ถูกทิ้งร้าง กลางทะเลทรายอันว่างเปล่า ไร้ซึ่งผู้คนสนใจ…

ในวูบหนึ่งที่ฉันยืนอยู่เบื้องหน้าพีระมิดเมโรว์ ลมทะเลทราย พัดพาเอากอหญ้าแห้งขนาดใหญ่ กลิ้งวนผ่านหน้าฉันไป

ฉันเชื่อว่านี่เป็นสัญญาณ การต้อนรับของทะเลทราย

ทะเลทรายมักจะตอบสนองการมาเยือนของคนต่างถิ่นเสมอ ขึ้นอยู่กับว่า เราจะตั้งใจสังเกตสัญญาณเหล่านั้นของทะเลทรายหรือเปล่า…

 

ภาพกลุ่มพีระมิด Meroe อันผุพัง ชวนให้รู้สึกอ้างว้างอย่างบอกไม่ถูก

แต่ฉันมองว่าเป็นเสน่ห์ของที่นี่

ความโดดเดี่ยวแต่ยิ่งใหญ่ตระการตา เหมือนราชินี อะมานี ชาเคโต หญิงสาวที่ลี้ลับ ยากที่จะเข้าถึง ไม่ได้โด่งดังเหมือนพระนางคลีโอพัตราแห่งอียิปต์

หญิงสาวชาวนูเบีย ผู้โอบกอดเสน่ห์ของการไร้นาม ไร้ชื่อเสียง แต่ทรงคุณค่าผ่านกาลเวลา.

อ่านเรื่องราวแบกเป้ลุยเดี่ยว เที่ยวซูดาน ดินแดนที่โลกลืม ต่อได้ที่:

Cross border: ไปครั้งเดียว เที่ยวได้มากกว่า 1 ประเทศ ไอเดียเที่ยวข้ามแดนวันหยุดยาว

โรคระบาด กับการเดินทาง: วิธีเตรียมตัวและรับวัคซีน ข้อควรระวังเมื่อเดินทางไปประเทศเสี่ยง

ฝากเพื่อนๆ ติดตามเรื่องเล่าจากการเดินทาง+ทริปแบบมันส์ๆ ได้ที่ 🥰🐯
Facebook: https://web.facebook.com/katewandermore
IG : https://www.instagram.com/kate_wandermore/
Twitter: https://twitter.com/kate_wandermore

Featured

Wadi Shab โอมาน – สำรวจโอเอซิสกลางทะเลทรายในโอมาน กับแอ่งธารสีเขียวมรกต

เด็กหนุ่มผิวแทนกร้านแดดผมหยิกฟู จู่ๆ ก็กระโดดขึ้นมานั่งบนเรือข้ามฟากที่ฉันจ้างไว้ เขาแค่ยิ้มให้ ไม่ได้แนะนำตัวใดๆ จนภายในอึดใจเราก็เดินทางมาถึงอีกฝากของทะเลสาบ เพื่อเริ่มต้นการเดินทางสำรวจ Wadi Shab โอเอซิสกลางทะเลทรายโอมาน และตามหาแอ่งน้ำสีเขียวมรกตที่ทำให้ฉันดั้นด้นขับรถรอนแรมคนเดียวจากมัสกัต มาถึงที่นี่

ทริปนี้เป็นทริปที่ฉันแบกเป้มาลุยเดี่ยว เที่ยวแบบ Roadtrip ที่โอมาน เป็นครั้งแรกที่ฉันเช่ารถขับเองในต่างประเทศ เพราะในทริปก่อนๆ ฉันมักจะจ้างรถ, โบกรถ, ไม่ก็จองรถไว้กับทัวร์เดินป่ามากกว่า ไม่ค่อยขับรถด้วยตัวเอง ทริปนี้จึงน่าตื่นเต้นเป็นพิเศษสำหรับฉัน (ผู้ไม่แม้แต่ขับรถเที่ยวในกรุงเทพฯ! แต่ดันอยากมาขับ Roadtrip รวมระยะทางกว่าพันกิโลเมตร ณ ดินแดนอาราเบียแห่งนี้)

wadi shab

Wadi Shab โอมาน เป็นจุดหมายปลายทางรองสุดท้าย ก่อนที่ฉันจะมุ่งหน้ากลับมัสกัต หลังจากฉันได้นอนพักในแคมป์กลางทะเลทรายที่ Shahiq ฉันก็ขับรถมาราว 135 กม. แต่เช้า เพื่อมาที่นี่ ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงเห็นจะได้

เที่ยวโอเอซิส โอมาน wadi shab
Wadi Shab / ตอนเข้าไปต้องไปทางเรือเพียงอย่างเดียว มีค่าเรือเล็กน้อย และมีค่าไกด์นำทาง
Wadi Shab โอมาน oman

Wadi Shab ตั้งอยู่ที่เมือง Tiwi ประเทศโอมาน เป็นโอเอซิสอีกแห่งที่มีชื่อเสียงในบรรดา Wadi ทั้งหลายของโอมาน แหล่งน้ำสีเขียวมรกตภายในโอเอซิสนี้ ไม่ได้เข้าถึงง่ายอย่างที่คิด แต่ต้องเดินเท้าไปกลับราวๆ 2 ชั่วโมง (ไม่รวมเวลาเล่นน้ำ) และต้องนั่งเรือข้ามฟากไปก่อนเริ่มเดินเท้าเท่านั้น

เด็กหนุ่มคนนั้นกระโดดลงจากเรืออย่างคล่องแคล่ว แล้วเดินนำฉันไปตัวลอย เขาแนะนำตัวว่าเขาเป็นไกด์ของที่นี่ และหากฉันสะดวก เขาจะเป็นคนพาเดินเท้าเข้าไปสำรวจใน Wadi Shab เอง

จริงๆ เส้นทางใน Wadi Shab เท่าที่อ่านข้อมูลมานั้น ค่อนข้างชัดเจน ไม่ต้องใช้ไกด์ก็ได้ แต่เพื่อความอุ่นใจ (และอยากกระจายรายได้ ^^) ฉันจึงจ้างน้องไกด์คนนั้นให้นำทางไป เขาเดินไปพลาง ชวนฉันคุยไปพลาง แถมยังโชว์ความสามารถพูดได้หลายภาษา รวมทั้งภาษาไทยด้วย

เดินเท้าเข้าไปยัง Wadi Shab hiking
การเดินเท้าเข้าไปยัง Wadi Shab ขอเรียกว่า Hiking ย่อมๆ เลยค่ะ และใช้เวลากับที่นี่นานพอสมควร ใครจะมาเที่ยวชม Wadi Shab ให้เผื่อเวลาไว้เยอะๆ ค่า
Wadi Shab โอมาน hiking

ตอนนั้นเป็นตอนเที่ยงพอดี แดดแรงแต่ไม่ถึงกับแสบผิว ฉันเดินชิลภายใต้ร่มเงาของโขดหินผาที่สูงชะลูดรายล้อมรอบ Wadi ตลอดเส้นทางจะเห็นแอ่งน้ำเล็กบ้าง ใหญ่บ้าง น้ำสีเขียวมรกตสดใส ดูแล้วอยากกระโดดลงไปแหวกว่ายในนั้นทั้งวัน

“เมื่อไม่กี่ปีก่อน เขามาจัดแข่งขัน Cliff Diving (โดดผา) ที่นี่ด้วยนะฮะ” เด็กหนุ่มคนนั้นหันมาบอก

“น้ำคงลึกมากสินะ”

“ลึกฮะ…บางจุดลึกถึง 8 เมตร”

ลมพัดมาเอื่อยๆ แสงแดดสีทองที่สาดลงมาผ่านชะง่อนผาดูอบอุ่นเป็นพิเศษในวันนั้น ใน Wadi Shab ไม่ว่าจะหันกล้องไปทางใด ก็ถ่ายออกมาแสงสวยทั้งหมดโดยไม่ต้องแต่งแต้มสี น้ำที่ดูลึกในบางจุดจะเป็นสีเขียวเข้มสวยแปลกตา เราใช้เวลาเดินมาราวๆ ชั่วโมง ก็ถึงจุดเล่นน้ำ

Wadi Shab โอมาน
Wadi Shab โอมาน
Wadi Shab โอมาน
wadi shab โอมาน
wadi shab, โอเอซิส
จุดนี้ว่ายลึกเข้าไปจะยิ่งลึกมาก และจะไปถึงน้ำตกเล็กๆ ในถ้ำค่ะ
wadi shab เที่ยวโอมาน

ฉันรีบโถมตัวลงไปว่ายโดยไม่รีรอ แต่คนที่เร็วกว่าฉันเห็นจะเป็นน้องไกด์คนนั้นที่ได้ว่ายไปก่อนล่วงหน้าแล้ว ฉันเห็นหัวของเขาอยู่ไกลๆ ดำผุดดำว่ายอยู่ในน้ำ นักท่องเที่ยวและคนท้องถิ่นมาเที่ยวที่ Wadi Shab กันพอประมาณ ไม่เยอะเกินไปจนรู้สึกแน่นหรืออึดอัด เห็นน้ำใสๆ แบบนี้ แต่ที่นี่กลับไม่มีปลาให้เห็นเลย

เดินเท้ามาร้อนและเหนื่อยพอหอมปากหอมคอ ก็ได้ลงเล่นน้ำเย็นๆ เหมือนเป็นรางวัลของวันนั้น ฉันว่ายน้ำอยู่จนลืมเวลา แถมน้องไกด์ก็ชิลมาก ไม่ได้มารบเร้าให้ฉันรีบกลับแต่อย่างใด ว่ากันว่าหากว่ายลึกลงไปอีก ก็จะต้องมุดถ้ำไปเจอน้ำตกเล็กๆ ในถ้ำด้วย แต่สำหรับคนที่ว่ายน้ำแข็งเท่านั้น เพราะน้ำค่อนข้างลึกและมืดมาก

ลงว่ายน้ำใน Wadi Shab โอมาน
ลงว่ายน้ำใน Wadi Shab
ลงว่ายน้ำใน Wadi Shab โอมาน

Wadi Shab เป็นความงามของโอเอซิสเหมือนกับที่เคยจินตนาการไว้ตอนเด็กๆ ฉันไม่รู้หรอกว่าใครเป็นคนสำรวจพบที่นี่เป็นคนแรก รู้แต่เพียงว่า Wadi Shab ในตอนนี้ กลายเป็นความเบิกบานชุ่มฉ่ำที่จะมอบให้กับนักเดินทางตัวเล็กๆ หลงถิ่นคนนึงได้เป็นอย่างดี

……

การเดินทางไป Wadi Shab, Oman

Wadi Shab เป็น Wadi (ภาษาอาหรับ หมายถึง หุบเขา) ที่มีชื่อเสียงในโอมาน เข้าไปแล้วเราจะหลงกับแอ่งน้ำสีเขียวใสแจ๋ว ที่ถูกโอบล้อมด้วยโขดผาและธรรมชาติ เห็นแล้วชวนให้ลงไปว่ายโดยไม่รีรอ

กิจกรรม:

เดินเทรค และว่ายน้ำ ใน Wadi

การเดินทาง:

ที่ตั้ง Tiwi, Oman

จะขับจาก Muscat ไปก็ได้ ส่วนเคทเลือกมาที่นี่เป็นวันท้ายๆ ของทริปเลยค่ะ ขากลับจะได้ขับกลับ Muscat เลย ตามเส้นทางภาพ

route plan for oman_oct 2019

Map: https://goo.gl/maps/zPhqHNUJULt9DBwN7

ความลึก 0.5 – 8 ม.

*บางจุดลึกมาก หากใครว่ายน้ำไม่แข็ง ให้เลี่ยงการลงไปเล่นน้ำที่ลึกๆ นะคะ

wadi shab
แพะ
แมวโอมาน

ข้อควรรู้ก่อนไป Wadi Shab, Oman

1) การเข้าไปใน Wadi Shab ต้องนั่งเรือข้ามฟากไปเท่านั้น (ค่าเรือ 1 OMR) ปกติจะมีไกด์ท้องถิ่นกระโดดขึ้นเรือมากับเราเลย ถ้าเราไม่อยากได้ไกด์ก็บอกเขาว่า No guide ค่ะ

เรือมีตั้งแต่ 8 am – 5 pm เพราะฉะนั้นควรเผื่อเวลาไว้ให้ทันเรือตอนขากลับด้วยน้า

2) Wadi Shab อยู่ไม่ไกลจาก Bimmah Sinkhole ขับรถไปประมาณ 1 ชม. หากว่ายน้ำเล่นที่ Wadi Shab เสร็จ ให้ไปต่อที่ Bimmah Sinkhole เลยค่า แต่แถว Bimmah Sinkhole ไม่มีที่พักน้า ต้องขับรถต่อเข้าไปใน Muscat เพื่อหาที่พักค่ะ

Bimmah Sinkhole
Bimmah Sinkhole เป็นหลุมยุบขนาดใหญ่ตามธรรมชาติจนเกิดเป็นแอ่งน้ำสีเขียวใสมรกต อยู่ใกล้กับเมือง Tiwi / Cr. Katerina Kerdi
Bimmah Sinkhole
Bimmah Sinkhole / Cr. Aaqib Dalvi

3) ควรเผื่อเวลาให้ที่นี่อย่างน้อย 3 ชม. เพราะเส้นทางเทรคไป-กลับเดินกันเกือบ 2 ชั่วโมงเลยค่ะ และบางจุดต้องปีนป่ายด้วย อาจไม่เหมาะกับการพาผู้ใหญ่มาพักผ่อน

4) ที่นี่มีที่จอดรถให้ฟรี มีห้องน้ำเอาไว้เปลี่ยนเสื้อผ้าเปียก อยู่ไม่ไกลจากที่จอดรถ

มาที่นี่ควรเตรียมอะไรบ้าง

  • ชุดเล่นน้ำ
  • แว่นตาว่ายน้ำ
  • รองเท้าที่ใส่ลุยน้ำ และเดินเทรคได้
  • กระเป๋า และกล้องกันน้ำ
  • เสื้อผ้าสำหรับเปลี่ยน และผ้าขนหนูแบบแห้งไว
  • น้ำ (ด้านในจะไม่มีอาหารและเครื่องดื่มขาย ควรเตรียมน้ำดื่มไปเองในปริมาณที่เพียงพอ เพราะเดินเทรคกันเหนื่อยและอากาศร้อนใช้ได้เลยค่ะ)
  • ครีมกันแดด

อ่านเรื่องราวแบกเป้ลุยเดี่ยว เที่ยวดินแดนโอมาน ต่อได้ที่:

เที่ยวโอมาน: นอนนับดาวกลางทะเลทราย ฟีลแคมป์บนดาวอังคาร

เที่ยวโอมาน ลุยเดี่ยวตระเวน Roadtrip แดนเบดูอิน

เที่ยวโอมาน หมู่บ้านโบราณบนหุบเขา ใกล้แกรนด์แคนยอนแห่งอาระเบีย

ขอวีซ่าโอมาน (Oman) ขั้นตอนการยื่นวีซ่า online (อัพเดท 2022)

ฝากเพื่อนๆ ติดตามเรื่องเล่าจากการเดินทาง+ทริปแบบมันส์ๆ ได้ที่ 🥰🐯
Facebook: https://web.facebook.com/katewandermore
IG : https://www.instagram.com/wandermore1984/
YouTube: https://www.youtube.com/channel/UCg1osBd51nmLKnPvmeG-JSQ

Featured

เที่ยวโอมาน: นอนนับดาวกลางทะเลทราย ฟีลแคมป์บนดาวอังคาร

การมาเที่ยวโอมาน คงไม่ได้พบกับการผจญภัยที่สมบูรณ์แบบ หากไม่ได้มาเยือนสถานที่แห่งความทรงจำแห่งนี้ ‘บิดิย่าห์’ Bidiyah เมืองแห่งทะเลทรายในโอมาน ที่เป็นไฮไลท์ของการเดินทางแบกเป้ Roadtrip ลุยเดี่ยวเที่ยวโอมานของฉันในครั้งนี้…ทว่า ฉันคงมาถึงที่นี่ไม่ได้ หากปราศจากชายที่ชื่อคุณ ‘อาลี’

อาลี..ช็อคโกแลต และดาวอังคาร สามสิ่งที่ดูไม่เข้ากัน แต่ดันเกิดขึ้นที่นี่…

อาลี ไม่ใช่เจ้าชาย

และไม่ใช่ชายที่อยู่บนดาวอังคาร

พอๆ เลิกเดาดีกว่า ก่อนที่จะผิดไปมากกว่านี้…

ฉันขับรถเที่ยวโอมาน ออกจากหมู่บ้าน Misfat al Abriyyin ใช้เวลาราว 4-5 ชั่วโมงโดยไม่หยุดพัก เพื่อมุ่งหน้ามาที่นี่ แต่ระหว่างทางไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะทางเส้นหลัก ดันถูกปิดลงเพื่อทำอุโมงค์ขนาดยักษ์ แอพนำทางเจ้ากรรมของฉัน พาฉันหลงวนอยู่บนเส้นทางเดิมอยู่สองรอบ เหมือนพายเรือวนอยู่ในอ่าง จนฉันต้องฝืนใจพามันออกนอกเส้นทางเพื่อให้มันหาเส้นทางใหม่ให้ แต่กลับไม่เป็นดังหวัง

สุดท้าย เทคโนโลยีก็แพ้คน…

ฉันขับรถตามกระบะสีขาวคันหนึ่งเข้าไปลึกมากจนถึงทางลูกรัง จนฉันได้มารู้อีกทีว่า เขาเองก็กำลังหลงทางเหมือนกัน!

ชายผิวคล้ำเหมือนชาวอินเดีย หยุดและเดินลงจากรถด้วยรอยยิ้มเจื่อนๆ ฟันของเขาขาวมาก เขาบอกฉันว่าเขาพอจะรู้แล้วว่าน่าจะต้องไปทางไหนถึงจะถูก อธิบายหลายครั้งฉันยังคงไม่เข้าใจ เขาจึงอาสาขับนำ แล้วให้ฉันขับตามออกไปจากทางลูกรังนั้น

สักพักใหญ่ เขาก็นำฉันมาสู่ทางเข้าที่ดูเหมือนเป็นสะพานขนาดมหึมา

“คุณต้องลอดสะพานนี้ไป”

“สะพานนี้น่ะหรือคะ”

“ใช่ สะพานนี้ละครับ คุณต้องลอดสะพานนี้ไป จากนั้นก็วิ่งตรงไปได้เลย”

เห็นได้ชัดว่าเขาไม่ได้ไปทางเดียวกับฉัน แต่อุตส่าห์ขับมาส่ง ฉันกล่าวขอบคุณ เราโบกมืออำลากันพอเป็นพิธี ฉันยิ้มสู้เพื่อไม่ให้คนแปลกหน้าผู้มีน้ำใจเป็นห่วงไปมากกว่านี้

หลังจากลอดสะพานนั้นไป แอพนำทางของฉันก็เริ่มจูนหาเส้นทางใหม่ ในที่สุดมันก็หาทางเจอ! ฉันโล่งใจไปพักใหญ่ เพราะดูเหมือนทางข้างหน้าจะขับตรงไปยาวๆ ร่วมชั่วโมง โดยไม่ต้องเลี้ยวไปไหนทั้งนั้น

จุดมุ่งหมายของฉันคือ บิดิย่าห์ [Bidiyah] เมืองทะเลทรายของโอมาน

ที่ๆ ฉันจะไปชื่อ Shāhiq จนบัดนี้ฉันก็ยังไม่ค่อยเข้าใจนักว่าจะเรียกจุดหมายปลายทางของฉันว่า Shāhiq หรือ Bidiyah กันแน่

รู้แต่ว่าฉันนัดชายคนหนึ่งไว้ตอน 16.30 และตอนนี้ฉันกำลังสาย!

แผนที่ขับรถเที่ยวโอมาน
เส้นทางการขับรถของเคท (เวลาที่โชว์เป็นตัวเลขคร่าวๆ จาก Google Map ค่ะ ไม่รวมหลงหรือแวะระหว่างทางนะ 555)

7 กม.สุดท้าย…ฉันหยุดแวะปั้มข้างทาง ส่งอีเมลหาชายคนนั้น บอกเขาให้รู้ล่วงหน้าว่าฉันใกล้จะถึงจุดนัดพบแล้ว เพียงแต่อาจจะสาย 30 นาที เพราะเพิ่งขับหลงทางมา และภาวนาให้เขาอ่านอีเมล

5 กม.สุดท้าย…ฉันเริ่มเห็นทรายเนื้อละเอียดสีส้ม ปลิววนเป็นริ้วๆ อยู่ตามพื้นถนน

ใจฉันเริ่มชื้น..เพราะรู้ว่า ตัวเองได้มาถูกทางแล้ว

ฉันเริ่มเห็นทรายเนื้อละเอียดสีส้ม ปลิววนเป็นริ้วๆ อยู่ตามพื้นถนน
ฉันเริ่มเห็นทรายเนื้อละเอียดสีส้ม ปลิววนเป็นริ้วๆ อยู่ตามพื้นถนน

500 ม.สุดท้าย…ฉันยังไม่เห็นบ้านที่มีลักษณะเป็น ‘ออฟฟิศ’ ของแคมป์ที่ฉันกำลังมองหาอยู่เลย

“หลงอีกแล้ว!” ฉันพยายามปัดความคิดนี้ออกจากใจ เพื่อไม่ให้ตัวเองกังวล อีกใจหนึ่งก็นึกถึงชายที่ฉันส่งอีเมลหาว่าป่านนี้เขาจะรอฉันอยู่ไหมหนอ หรือเขาจะทิ้งฉันไปก่อนแล้ว

ระหว่างที่กำลังคิด ก็มีรถกระบะสีขาวยี่ห้อนิสสันคันหนึ่ง ท้ายกระบะบรรทุกน้ำมัน ขับตรงดิ่งเข้ามาหา ชายในชุดขาวใบหน้าคมสันราว Ranveer Singh (นักแสดงชาวอินเดีย) โพกหัวด้วยผ้าสีขาวเข้ากับสีชุด ตะโกนออกมาจากข้างในรถ

“คุณคือผู้หญิงที่มาจากไทยใช่ไหม”

..

รู้ได้ยังไงหว่า?..ฉันคิด

“ผม..อาลี จาก Oman Desert Private Camp โทษทีครับอาจจะทำให้คุณสับสน แต่ทางเข้าของออฟฟิศเราอยู่อีกทาง…ขับตามผมมา”

ดูเหมือนว่าคุณอาลีเพิ่งกลับจากเติมน้ำมัน แล้วจ๊ะเอ๋เข้ากับรถเด๋อๆ ของฉันที่กำลังหลงอ้อมเข้าด้านหลังแบบพอดิบพอดี เลยตามมาเก็บฉันถึงที่

เที่ยวทะเลทรายโอมาน รถกระบะของคุณอาลี ขับนำทางเคทไปยังออฟฟิศ
รถกระบะของคุณอาลี ขับนำทางเคทไปยังออฟฟิศ

ฉันดีใจที่สุดท้ายก็หากันจนเจอ ขณะที่ขับตามคุณอาลี ในตาก็ลุกวาวเมื่อเห็นภาพเนินทรายที่ทอดยาวอยู่เบื้องหน้า

ที่ Bidiyah เต็มไปด้วยแคมป์กลางทะเลทรายมากมาย แต่ฉันเลือกที่นี่ เพราะอยากนอนเต๊นท์ให้ได้บรรยากาศอาราเบียนไนท์อย่างแท้จริง ในขณะที่บางแห่งเลือกที่จะปลูกสร้างเป็นรีสอร์ทกลางทะเลทรายเสียมากกว่า

คุณอาลีให้ฉันนั่งรอที่ออฟฟิศ เพื่อรอนักเดินทางอีกคู่หนึ่ง เขาบอกว่าเขาจะพาเราขึ้นรถ 4WD เพื่อข้ามทะเลทรายไปหาแคมป์ที่พัก ฉันนั่งรออย่างว่าง่าย

หลังจากคุยกันราวสิบนาที คุณอาลีตัดสินใจไปออกไปซื้อเสบียงมาตุนไว้ พลางบอกว่า ให้ฉันรอไปกับเขา ส่วนนักเดินทางที่เหลือเพื่อนของเขาจะแบ่งรถไปส่งเอง

“ฉันขึ้นไปนั่งรอคุณอาลีในรถ 4WD ด้วยความเด๋อ หนึ่งนาทีต่อมาจึงเพิ่งรู้ตัวว่าตัวเองกำลังนั่งฝั่งคนขับ (ด้วยความเคยชินหลังจากที่ขับรถมาทั้งวัน) คุณอาลีแกล้งทำเป็นไม่เห็น สักพักฉันจึงสลับไปนั่งด้านข้างก่อนที่เขาจะเดินมาถึงรถ”

ฉันดึงกล้องออกมาเก็บภาพระหว่างทาง พลางชวนคุณอาลีคุยว่าเขาจำทางในทะเลทรายได้อย่างไร เพราะทะเลทรายกว้างใหญ่ไพศาลและไม่มีป้ายบอกทาง คุณอาลีบอกฉันว่า เขาโตมากับที่นี่ เขาจำมันได้ทุกรายละเอียด

เขาถามฉันว่าอยากขับ 4WD ขึ้นเนินทรายดูไหม ฉันบอกเขาว่า คุณขับน่ะดีแล้ว…พร้อมยิ้มแห้งๆ เพราะยังจำประสบการณ์ครั้งก่อนที่นั่งรถข้ามทะเลทรายในอินเนอร์มองโกเลียได้ฝังใจ

สักพัก เขาก็ยื่นช็อคโกแลตให้ บอกว่าขนมไว้กินระหว่างทาง ประมาณ 11 กม.จากออฟฟิศเข้าไปยังทะเลทรายกว่าจะถึงแคมป์ที่พัก ในมือฉันข้างหนึ่งเลยถือกล้อง อีกข้างหนึ่งเลยกำช็อคโกแลตไว้แน่นราวกับหวงว่าเขาจะยึดคืน

เที่ยวโอมาน ระหว่างขับรถไปทะเลทราย
เที่ยวโอมาน ระหว่างทางขับรถเข้าไปในทะเลทราย
ระหว่างขับรถเข้าไปในทะเลทราย
Oman Desert Private Camp
Oman Desert Private Camp คือที่ๆ เคทเลือกมาพักเพื่อนอนนับดาวกลางทะเลทรายโอมานค่ะ รู้สึกชอบที่นี่มาก

เขาพามาถึงแคมป์ และปล่อยให้ฉันได้ใช้เวลาช่วงเย็นไปกับการเดินสำรวจแคมป์และชมพระอาทิตย์ตกดิน เช่นเดียวกับนักเดินทางคนอื่นๆ แคมป์ของ Oman Desert Private Camp ใหญ่มาก นอนได้ 3-4 คน ตัวแคมป์ยกสูงจากพื้นด้วยคานเหล็กที่แข็งแรงและสะอาดสะอ้าน ห้องน้ำสร้างไว้ติดกัน ใช้อาบน้ำหรือล้างหน้าก็ได้ มีลานดูดาวหน้าแคมป์ปูด้วยพรมหญ้า มีที่นอนและที่นั่งแบบพับได้ไว้สำหรับรองนอนที่ลานดูดาว

นอนเต้นท์ ทะเลทรายโอมาน oman desert private camp
โดดเดี่ยวมาก 555+ ระหว่างเดินชมพระอาทิตย์ตกหรือเดินเล่นในทะเลทราย อย่าลืมพกอุปกรณ์สื่อสารไปด้วยนะคะ เพราะโอกาสหลงทางมีเยอะมาก แค่ปีนขึ้นเนินไป ตอนเดินกลับลงมาก็มองไม่เห็นเต้นท์แล้ว ใจหายแว้ปเลย -_-
พระอาทิตย์ตก กลางทะเลทรายโอมาน
พระอาทิตย์ตกยามเย็น

“ผมชอบนะ นอนข้างนอกดูดาว บางครั้งผมก็ชอบนอนด้านนอกทั้งคืน ลมเย็นดี ดาวสวยมากด้วย”

ฉันจินตนาการถึงคุณอาลีตอนเป็นเด็ก แล้วนอนดูดาวอยู่หน้าแคมป์ขึ้นมาได้แว้บหนึ่ง…

ภายนอกเต้นท์มีระเบียงสำหรับดูดาว
ในแคมป์จะนอนได้หลายคน แถมยังมีระเบียงและฟูกนอนสำหรับปูนอนดูดาวที่ระเบียงอีกด้วย ใครสายถ่ายดาวน่าจะชอบค่ะ ^^
เที่ยวโอมาน ขี่อูฐ กลางทะเลทรายโอมาน
น้องอูฐ เป็นอูฐประจำของแคมป์นี้ ไว้ให้บริการขี่อูฐ ดูพระอาทิตย์ตกได้ค่ะ

ที่พักที่นี่หลังละประมาณ 65 OMR (ราคาแบบรวมอาหารค่ำและมื้อเช้า) หรือประมาณห้าพันบาท หากใครมาเที่ยวโอมานกับเพื่อนก็หาร 3 ได้สบายๆ แต่ฉันมาคนเดียว ที่นอนทั้งหลังเลยเป็นของฉัน

เที่ยวโอมาน นอนเต้นท์กลางทะเลทราย
Oman Desert Private Camp ภายในเต้นท์มีเตียงใหญ่ 5-6 ฟุต ส่วนห้องน้ำจะอยู่ด้านนอก ติดกับเต้นท์ เลยไม่ต้องกังวลเรื่องเข้าห้องน้ำตอนกลางคืนค่ะ เพราะไม่ต้องเดินไกล ^^

ตกค่ำ หลังจากสนุกอยู่กับการส่องดวงจันทร์อยู่พักใหญ่ ก็ทำใจแล้วว่าคืนนี้เป็นคืนเดือนแจ้ง ท่าทางจะเห็นดาวลำบาก ฉันเดินออกจากแคมป์ประมาณ 300 ม. ไปยังแคมป์กลางที่เป็นเรือนรับรองเพื่อทานมื้อค่ำกับคนแปลกหน้ามากมายที่ไม่รู้จัก ทุกคนล้วนเป็นนักเดินทางที่มาเที่ยวโอมาน สาวๆ อเมริกันที่นั่งหัวโต๊ะ 4 คนท่าทางจะมาด้วยกัน ดูตื่นเต้นและชื่นชอบกับอาหารของที่นี่มาก สองสามีภรรยาสูงวัยที่นั่งข้างฉันเป็นฝรั่งที่ทำงานที่ดูไบ พวกเขาดูใจดีและเป็นมิตร ส่วนที่น่าทึ่งคือคู่รักที่นั่งตรงข้ามฉัน

พวกเขาลาออกจากงานเพื่อเที่ยวรอบโลกได้หลายเดือนแล้ว!

ฝ่ายชายเป็นมังสวิรัติ สวมแว่น หน้าตาหล่อเหลา และเป็นมิตร ส่วนฝ่ายหญิงเป็นทนายความ สวยสง่าและดูใจเย็น

อีกกลุ่มหนึ่งเป็นนักท่องเที่ยวชาวฝรั่งเศสที่ฉันยังไม่มีโอกาสได้พูดคุยด้วย

เที่ยวโอมาน นอนทะเลทราย นับดาว
แคมป์ใหญ่ๆ ทางด้านขวาที่เปิดไฟสว่างไสว คือที่ทานอาหาร เป็นการทานอาหารค่ำกับคนแปลกหน้า ซึ่งเป็นนักเดินทางมาจากทั่วทุกมุมโลก
บางคนมาใกล้หน่อยจากดูไบ บางคนมาจากโซนยุโรป บางคนมาจากอเมริกา (ส่วนเคทเป็นตัวแทนประเทศไทยค่า 555+)
จะบอกว่าเจอสาวสวยคนนึงหน้าเหมือนจูเลียโรเบิร์ตเลยค่ะ แต่ไม่กล้าทักเค้า เหอๆ
เที่ยวโอมาน นอนเต้นท์เบดูอิน กลางทะเลทราย
เหมือนฐานปฏิบัติการบนดาวอังคาร 555+
เที่ยวโอมาน นอนนับดาวกลางทะเลทราย
นอนนับดาวกลางทะเลทราย สังเกตได้ว่าห้องน้ำจะอยู่นอกเต้นท์ค่ะ และเต๊นท์ถูกยกขึ้นจากพื้นดิน เพื่อป้องกันทรายเข้าเต้นท์
เพราะลมในทะเลทรายค่อนข้างแรงมาก ทั้งกลางวันและกลางคืน

คืนนั้น ลมพัดแรง หอบเอาทรายในทะเลทรายเข้ามาในช่วงแรกๆ ฉันก้มลงปัดฝุ่นทรายบนเตียงนอน ก่อนจะภาวนาให้ลมสงบลง สักพักก็หอบหิ้วเอากล้องและขาตั้งกล้องออกไปถ่ายดาวเล่นที่ลานด้านนอก ทั้งๆ ที่รู้ตัวดีว่าตัวเองถ่ายดาวไม่เป็นเลย

ฉันไม่อยากหลับเลย..

ภาพบรรยากาศที่ฉันเห็นตรงหน้า เหมือนตัวเองกำลังเดินอยู่บนดาวอังคาร..บนฐานประจำการอะไรสักอย่าง..ความเงียบที่หาไม่ได้จากที่ไหน..แสงจันทร์ที่สาดแข่งกับแสงดาวนับพันที่พร่างพรายเต็มฟ้า..เสียงลมหวิวๆ พัดมาแรงราวกับลมชายหาด พัดเข้าตีเต๊นท์เป็นระยะๆ..แสงของห้องน้ำในแคมป์ดูโดดเด่นในยามราตรี ตัดกับเงาของเนินทรายที่พาดผ่านเส้นขอบฟ้า

ฉันไม่อยากหลับเลย..

ฉันเหมือนเดินย่ำอยู่บนดาวอังคาร..คนเดียว และกำลังถูกสะกดด้วยดวงจันทร์กลมโตที่ลอยอยู่เบื้องหน้า

‘La lune’ (พระจันทร์) ฉันนึกถึงคำที่นักเดินทางชาวฝรั่งเศสพึมพำเมื่อช่วงค่ำ ในขณะที่กำลังอาบแสงจันทร์เพียงคนเดียวในรัตติกาลนี้.

เที่ยวโอมาน ทะเลทราย เต้นท์ แสงจันทร์
แสงจันทร์อันสุกสกาว สาดทั่วผืนทะเลทราย

….

อ่านเรื่องราวการ Roadtrip ลุยเดี่ยวเที่ยวทั่วโอมานได้อีกในบทความ

เที่ยวโอมาน หมู่บ้านโบราณบนหุบเขา ใกล้แกรนด์แคนยอนแห่งอาระเบีย

เที่ยวโอมาน ลุยเดี่ยวตระเวน Roadtrip แดนเบดูอิน

ขอวีซ่าโอมาน (Oman) ขั้นตอนการยื่นวีซ่า online (อัพเดท 2022)

ฝากเพื่อนๆ ติดตามเรื่องเล่าจากการเดินทาง+ทริปแบบมันส์ๆ ได้ที่ 🥰🐯
Facebook: https://web.facebook.com/katewandermore
IG : https://www.instagram.com/kate_wandermore/
YouTube: https://www.youtube.com/channel/UCg1osBd51nmLKnPvmeG-JSQ

Featured

เที่ยวโอมาน ลุยเดี่ยวตระเวน Roadtrip แดนเบดูอิน

เที่ยวโอมาน แบกเป้ลุยเดี่ยว Roadtrip ณ ดินแดนวัฒนธรรมเก่าแก่ของชาวเบดูอิน ประเทศในตะวันออกกลางที่อาจอยู่นอกสายตาของบรรดานักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ แต่เต็มไปด้วยความครบเครื่อง ทั้งทะเลทราย แกรนด์แคนยอน โอเอซิส ทะเลสวยๆ ฯลฯ

สเป็คเคทเลยค่ะ!

ขอออกตัวก่อนว่า ตั้งแต่เคทออกเดินทางคนเดียวมานานหลายปี จนได้มาทำเพจ แทบ ‘ไม่เคย’ เห็นตัวเองเช่ารถขับต่างประเทศเลยสักครั้ง เพราะเคทเป็นคนไม่ค่อยขับรถ กลัวว่าจะไม่คุ้นทางต่างถิ่น อีกทั้งทริปที่ไปส่วนใหญ่จะเน้นต่อรถต่อราเองเสียมากกว่า เพราะเน้นไปเทรคกิ้ง เดินเขา เข้าป่า … บางที่ที่ไม่มีรถไปถึง ก็ต้องอาศัยจ้างชาวบ้านให้ไปส่ง ค่าใช้จ่ายบางส่วนเลยต้องเผื่อไว้สำหรับการจ้างคนขับรถหรือไกด์ท้องถิ่นด้วย

แต่สำหรับโอมาน..โอมานเป็นประเทศแรกที่เคทตัดสินใจเช่ารถขับเอง เพราะมันขับง่ายมากจ่ะแม่ (โดยเฉพาะเมื่อออกนอกเมือง) บ้านเมืองเขาเจริญมากกก ถนนหนทางคือดี แม้แต่ต่างจังหวัดยังเห็นถนนลูกรังน้อยมาก ส่วนใหญ่ถนนลาดยางไปถึงหมด แม้แต่หมู่บ้านบนภูเขา

และการเช่ารถขับเองในการเที่ยวโอมาน…ถือว่าคุ้มค่ามาก ค่ำที่ไหนก็แวะนอนที่นั่น หากตื่นสายและต้องการปรับเปลี่ยนแผนเดินทางใหม่ ก็ทำได้อิสระตามใจ แถมยังช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายพวกทัวร์ต่างๆ ได้อีกด้วย

จุดเริ่มต้นที่อยากไปโอมาน เพราะโอมานมีทุกอย่างที่เคทชอบ..

โบราณสถาน..ทะเล..โอเอซิส..บรรยากาศแบบ Arabian Night เหมือนในหนังเรื่องอะลาดิน..แกรนด์แคนยอน…วัฒนธรรมท้องถิ่นของชาวเบดูอิน…และทะเลทราย!

บทความนี้เลยอยากแชร์แผนการเดินทางเที่ยวโอมาน แบบ 6-7 วัน สามารถไปเที่ยวตามได้เลย จะไปเองหรือไปกับเพื่อนเคทก็ว่าคุ้มนะ (โดยเฉพาะคืนที่นอนดูดาวกลางทะเลทรายเป็นประสบการณ์ที่ฟินมากกกกก!!! ใครมีแฟนควรจูงแฟนไป เพราะมันโรแมนติกมากเลยค่ะ ^^)

ดาวน์โหลดแผนการเดินทาง เช็คลิสต์สิ่งของ และแผนค่าใช้จ่าย (ปรับเปลี่ยนได้ตามแต่ละบุคคล) ได้ที่นี่

เที่ยวโอมาน
เที่ยวโอมาน
โอมาน, oman, เที่ยวโอมาน pantip
เส้นทางการขับรถของเคท (เวลาที่โชว์เป็นตัวเลขคร่าวๆ จาก Google Map ค่ะ ไม่รวมหลงหรือแวะระหว่างทางนะ 555)

DAY 1 BKK – Muscat

เริ่มต้นไม่ค่อยดี

นับว่าเป็นความไร้สติของตัวเอง เพราะก่อนออกจากสุวรรณภูมิตอนรอเรียกขึ้นเครื่อง เคทก็แวะทานข้าวที่สนามบิน พอทานเสร็จจะไปจ่ายเงิน ก็เช็คของในกระเป๋าถือ ด้วยความที่ม้านั่งเป็นแบบยาว นั่งริมสุด พอกระเถิบเพื่อปิดและยกกระเป๋า ก็ลืมไปว่ามันริมสุดของม้านั่งแล้ว ไม่มีพื้นที่แล้ว

ตกจากเก้าอี้จ้า!

เสียงดังสนั่นราวกับช้างล้ม คนในร้านทั้งไทยและต่างชาติหันมามองเป็นสายตาเดียวกัน

ทั้งอายทั้งเจ็บ เลยได้แต่ลุกขึ้นช้าๆ มองไปรอบๆ บอกด้วยสายตาประมาณว่าเราไม่เป็นอะไรหรอก ไม่ต้องห่วง ทั้งๆ ที่ความรู้สึกตอนนั้นคือก้นชาไปแล้ว และเจ็บมาก เดินกะเผลกๆ ไปจ่ายเงินค่าอาหารด้วยความปวด

หลังจากไปผจญภัยที่โอมาน กลับมาถึงไทยได้สิบวัน เห็นว่าอาการปวดยังไม่หายลง (เพราะพอมาไทย เคทต้องนั่งวินมอไซค์ไปทำงานทุกเช้า เจอถนนผิวพระจันทร์ในกรุงเทพเข้าไปนี่ น้ำตาไหลเลยจ้า) เลยตัดสินใจหาหมอ หมอบอกว่ากระดูกก้นกบร้าวและเคลื่อนนิดหน่อย กว่าจะหายใช้เวลานานเป็นเดือน

…งงตัวเองมากว่า ตอนอยู่โอมาน ทั้งขับรถนานๆ ทั้งปีน ทั้งเดิน ทนไปได้ยังไง T^T

oman, roadtrip, เที่ยวโอมาน, ที่เที่ยวโอมาน, ที่เที่ยวโอมาน pantip, เที่ยวโอมาน วีซ่า, เที่ยวโอมาน คนเดียว, เที่ยวโอมาน งบ, เที่ยวคนเดียว, ขับรถคนเดียว, oman ปลอดภัยไหม, oman pantip

อุปสรรคยังไม่หมดแค่นั้น…หลังจากไปรอที่ GATE เพื่อรอเรียกขึ้นเครื่อง ปรากฏว่ารอนานแล้วยังไม่มีวี่แววว่าสนามบินจะเรียก พอผ่านเวลาเรียกขึ้นเครื่อง ป้าย GATE ก็เปลี่ยนเป็นไปกรุงโซล เกาหลี เฉย !ทำเอาคนนับร้อยที่จะไปมัสกัตยืนงงเป็นไก่ตาแตก ถามเจ้าหน้าที่ก็ไม่มีใครทราบเรื่อง เจ้าหน้าที่เลยช่วยประสานงานให้ ผ่านไปราวครึ่งชั่วโมงก็ได้คำตอบว่าให้รอคอนเฟิร์มจากสนามบิน

สุดท้ายต้องเปลี่ยนไป GATE อื่น เพราะทุกอย่างดีเลย์จากสภาพอากาศย่ำแย่ ผู้โดยสารนับร้อยเลยต้องเดินไปหา GATE ใหม่ และรอกันใหม่อีกครั้ง

oman, roadtrip, เที่ยวโอมาน, ที่เที่ยวโอมาน, ที่เที่ยวโอมาน pantip, เที่ยวโอมาน วีซ่า, เที่ยวโอมาน คนเดียว, เที่ยวโอมาน งบ, เที่ยวคนเดียว, ขับรถคนเดียว, oman ปลอดภัยไหม, oman pantip
เที่ยวโอมาน

DAY 2 Muscat – Nakhl

เคทมาถึงมัสกัตหลังเที่ยงคืน เริ่มต้นตอนเช้าด้วยการไปรับรถเช่าตามที่นัดไว้กับทาง Nomad Tours จะมีคุณลุงคริส ฝรั่งใจดีออกมาต้อนรับ สักพักบริษัทรถเช่าก็พารถที่เคทจองไว้มาให้ (เคทไม่ได้เช่า 4WD แต่เช่าเป็นรถธรรมดาแทน เพราะมีคนบอกว่าสามารถขึ้นไปถึงแกรนด์แคนยอนได้เหมือนกัน แต่ทั้งนี้เพื่อความปลอดภัย แนะนำให้เช่า 4WD สำหรับคนที่แพลนจะขึ้นแกรนด์แคนยอนดีกว่านะคะ เพราะรถเล็กขึ้นลำบาก)

หลังจากรับรถแล้วก็เช็คเอ้าท์ออกจากโรงแรมในมัสกัต ทานข้าวเที่ยง แล้วขับรถมุ่งหน้าสู่ Nakhl Fort ซึ่งอยู่ห่างจากมัสกัตแค่ 1 ชั่วโมง แต่เนื่องจากวันแรกเคทตื่นสาย และใช้เวลาวันแรกไปกับการขับรถหลงในเมือง กว่าจะแวะทานข้าวและขับมาถึง Nakhl ก็ปิดไปแล้วเรียบร้อย (มาช้าไปแค่ 15 นาที) พวก Fort ต่างๆ ส่วนใหญ่จะปิดเวลา 4 โมงเย็นค่ะ

Nakhl Fort
Nakhl Fort

จากนั้นก็ขับไปที่เมือง Rustaq เพื่อชม Rustaq Fort ในวันถัดไป หากใครเวลาไม่พอให้ข้ามไปได้เลยนะ เพราะ Fort ที่น่าสนใจเคทว่าเป็น As Sulaif Fort ที่เมือง Ibri มากกว่า

แขกคนเดียวของโรงแรม

ที่ Rustaq ความยากคือมีโรงแรมเพียงแห่งเดียวในเมือง แถมในเมืองก็ยังขับรถยากด้วย โดยเฉพาะตอนกลางคืน ใครอยากประหยัดสามารถจอดรถนอน หรือแคมป์ปิ้งที่ไหนก็ได้ (ยกเว้นถ้าเป็นในเมืองมัสกัต ต้องนอนโรงแรมเท่านั้นค่า)

ด้วยความปวดก้นกบจากวันก่อน (555+) แผนที่จะจอดรถนอนของเคทเลยต้องถูกพับไปโดยปริยาย

เลยหาโรงแรมที่เขาว่ามีเพียงแห่งเดียวที่ Rustaq ชื่อโรงแรม Al-Shomok Hotel Tourism ปรากฏว่าหายากมาก Google Map ก็พาหลงขึ้นเขาไปบ้านใครไม่รู้ ตลกดี (แถมบ้านคนที่นั่นก็หลังใหญ่ๆ เหมือนรีสอร์ทแทบทุกหลังเลย)

ตอนนั้นทั้งมืด..ทั้งเหนื่อย..ทั้งหลง…

แต่ก็เหมือนมีแสงนำทาง.. เพราะคนที่บ้านนั้นใจดี อุตส่าห์เอารถออกเพื่อนำทางให้เคทขับตาม แถมลูกสาวของเขาบอกก่อนจากกันว่า

“ถ้าคุณอยู่ที่นี่แล้วต้องการอะไร คุณมาหาฉันที่บ้านได้ทุกเมื่อเลยนะ” พร้อมรอยยิ้มอุ่นๆ จากสาวน้อยที่สวมฮิญาบ

ได้ยินประโยคนั้น จากที่เหนื่อยและเฟลมาทั้งวันก็หายเป็นปลิดทิ้งเลยค่ะ ซาบซึ้งน้ำใจของคนที่นี่มาก

หากมาพักที่โรงแรม Al-Shomok Hotel Tourism แนะนำให้ขอห้องด้านหน้าที่หันหา City View ค่ะ เพราะพอตื่นเช้าขึ้นมา แหวกม่าน เปิดระเบียงออกไป ก็จะได้เห็นวิวแบบนี้

เที่ยวโอมาน
เที่ยวโอมาน
เที่ยวโอมาน
รถเคทจอดอยู่คันเดียวเลยค่ะ น่าจะเป็นแขกคนเดียวในโรงแรมในคืนนั้น เพราะเหมือนจะไม่ค่อยมีคนมาพักที่เมืองนี้กัน

DAY 3 Rustaq – Ibri

ตื่นเช้า ก็ขับจาก Rustaq ไปดู Rustaq Fort (ส่วนเคทขอข้ามไป เพราะกลัวว่าจะขับรถไม่ทัน) จากนั้นก็ขับตรงไปที่เมือง Ibri ไปยัง As Sulaif Fort เป็นป้อมปราการที่ดูเก่าแก่และน่าค้นหาแห่งหนึ่งในโอมาน

ในโอมานมี Fort หรือปราการอยู่มากมาย และหลายๆ แห่งก็เคยเป็นปราสาทมาก่อนในอดีต As Sulaif Fort เป็นปราการในเมือง Ibri โอมาน ถูกสร้างโดยสุลต่านในราชวงศ์ยารูบี มีตัวปราสาท และบ้านเรือนมากมายในบริเวณนี้ รวมทั้งมัสยิดด้วยค่ะ สภาพปัจจุบันค่อนข้างทรุดโทรมลงไปมาก แต่ก็คงเสน่ห์ตามฉบับโบราณสถานเอาไว้ได้อย่างครบถ้วน

ใครมาที่นี่ จะเห็นว่ามีคุณลุงคนนึงคอยดูแลสถานที่อยู่ค่ะ และทำหน้าที่เป็นไกด์ด้วย

https://bit.ly/3tuFagK

As Sulaif Fort, Ibri โอมาน
As Sulaif Fort, Ibri โอมาน
ไกด์และผู้ดูแล As Sulaif Fort
ไกด์และผู้ดูแล As Sulaif Fort
วิวที่มองจาก As Sulaif Fort
วิวที่มองจาก As Sulaif Fort

จากนั้นก็ขับไป Bahla Fort เคทชอบที่นี่มาก เพราะบรรยากาศเหมือนหลุดมาจากในซีรีส์ Games of Throne เลยค่ะ

Bahla Fort
Bahla Fort

เย็นๆ เคทก็ขับจาก Bahla Fort ไปหาที่นอนที่ หมู่บ้านเก่าแก่ ที่บ้านในหมู่บ้านนี้ทำจากดิน (mud house) ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากแกรนด์แคนยอนค่ะ ชื่อหมู่บ้าน Misfat al Abriyyin มาถึงที่นี่เหมือนได้หยุดพัก หายใจได้ทั่วท้องหลังจากขับรถมาทั้งวันค่ะ แนะนำให้นอนพักที่เกสเฮ้าส์ Misfah Old house คืนละ 25 OMR (รวมอาหารเย็นและอาหารเช้า)

Misfat al Abriyyin เที่ยวโอมาน
Misfat al Abriyyin เที่ยวโอมาน

หากใครมาถึงไว สักบ่ายสาม แนะนำให้ไปกางเต้นท์นอนที่ Jabal Shams View Point 3 เพื่อที่จะได้ตื่นมาเห็นวิวแกรนด์แคนยอนเลยในยามเช้า แล้วค่อยแวะมาเที่ยวหมู่บ้านนี้ในวันถัดไปค่ะ

ส่วนเคทไม่ได้ไป เพราะกว่าจะถึงหมู่บ้าน Misfat al Abriyyin ก็ 18.00 พอดี ถ้าขับขึ้น Jebel Shams ตอนค่ำก็กลัวจะอันตราย เลยขอพักที่หมู่บ้านนี้เลยละกัน

ใครมาที่หมู่บ้านนี้แนะนำให้จอดรถไว้ตรงปากทางเข้าค่ะ เพราะด้านในหมู่บ้านแคบมาก ไม่มีที่จอดเลย

ข้อควรระวัง: ตอนขับรถขึ้น Misfat al Abriyyin พยายามขับช้าๆ ระมัดระวังค่ะ เพราะสูง มีบางโค้งเป็นโค้งแบบหักมุม และอาจมีรถขับสวนมาจากข้างบนได้ตลอดเวลา

Misfat al Abriyyin เที่ยวโอมาน

DAY 4 Jebel Shams แกรนด์แคนยอนแห่ง Arabia – Bidiyah

Jebel Shams วิวตระการตา ของแกรนด์แคนยอนแห่ง Arabia

ใครที่มา พักที่หมู่บ้าน Misfat al Abriyyin เลยขึ้นไปหน่อยก็จะถึงแกรนด์แคนยอนของโอมานละค่า แต่แนะนำว่ารถที่จะเอาขึ้นไปแกรนด์แคนยอนควรเป็น 4WD น้า เพราะเป็นภูเขาสูง (มีคนเคยบอกว่ารถเก๋งปกติก็ขึ้นไปได้ค่ะ แต่ถ้าให้ดีควรเป็น 4WD มากกว่า) บางคนก็ไปกางเต้นท์นอนที่แกรนด์แคนยอนเลย เพื่อตื่นเช้ามาดูพระอาทิตย์ขึ้นที่นี่ หรือจะอยากไปพักที่หมู่บ้าน Misfat al Abriyyin ก็จะสะดวกสบายกว่า แถมยังได้นอนเต็มอิ่ม ก่อนออกเดินทางไปเมืองต่อไปด้วยนะ 😊

Jebel Shams โอมาน แกรนด์แคนยอนแห่งอาราเบีย
Jebel Shams โอมาน แกรนด์แคนยอนแห่งอาราเบีย/ Cr.Christoffer Engstrom
Jebel Shams โอมาน แกรนด์แคนยอนแห่งอาราเบีย

จากแกรนด์แคนยอน ก็แวะไป Nizwa Fort หน้าป้อมแห่งนี้จะมีตลาดเก่าๆ ขายของที่ระลึกของคนท้องถิ่นอยู่ค่ะ

Nizwa Fort เป็นปราการที่สร้างขึ้นโดยสุลต่านองค์ที่ 2 ของราชวงศ์ยารูบี สุลต่านบิล ซาอีฟ อัล ยารูบี นับเป็นป้อมปราการที่ผ่านร้อนผ่านหนาวมาตั้งแต่ปี 1650 เพราะเมือง Nizwa ต่างเคยมีข้าศึกมารุกรานอยู่บ่อยครั้ง เพราะเป็นเมืองที่มีทรัพยากรทางธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ และเป็นพื้นที่ทางยุทธศาสตร์สำคัญของเส้นทางการค้าหลายเส้นทางอีกด้วยค่ะ

ตัวป้อมปราการจึงสะท้อนสถาปัตยกรรมสมัยราชวงศ์ยารูบีตอนต้นเลยค่ะ (มีคนบอกว่าโครงสร้างเดิมเก่าแก่กว่านั้น คือสร้างโดยอิหม่ามตั้งแต่ศตวรรษที่ 7 แล้วสุลต่านมาบูรณะในปี 1650)

Nizwa Fort เปิด 08.00-20.00 น.ทุกวันค่ะ อยู่ไม่ไกลจาก Misfat al Abriyyin และ Nizwa Souq

Nizwa Fort
Nizwa Fort เป็นปราการที่สร้างขึ้นโดยสุลต่านองค์ที่ 2 ของราชวงศ์ยารูบี สะท้อนสถาปัตยกรรมสมัยราชวงศ์ยารูบีตอนต้น
oman, roadtrip, เที่ยวโอมาน, ที่เที่ยวโอมาน, ที่เที่ยวโอมาน pantip, เที่ยวโอมาน วีซ่า, เที่ยวโอมาน คนเดียว, เที่ยวโอมาน งบ, เที่ยวคนเดียว, ขับรถคนเดียว, oman ปลอดภัยไหม, oman pantip

ให้แวะปั้ม เติมน้ำมัน ตุนของกินไว้เยอะๆ เพราะต่อจากนี้ เราจะต้องขับรถรวดเดียว 4-5 ชม. เพื่อไปยัง Bidiyah (บิดิย่าห์) เมืองแห่งทะเลทรายของโอมาน

เคทไปถึงบิดิย่าห์ ประมาณ 4.30 ทางแคมป์เขาจะให้เราจอดรถไว้ที่ออฟฟิศของเขาค่ะ แล้วให้เรานั่งรถ 4WD ของเขาเข้าไปในทะเลทราย ระยะทางจากออฟฟิศ ถึงที่พักในทะเลทรายประมาณ 11 กม.

แนะนำ Oman Desert Private Camp ค่ะ เพราะได้บรรยากาศอาราเบียอย่างแท้จริง ที่พักน่ารักมาก และบริการดีมากๆ กลับมาแบบประทับใจแน่นอน เคทเจออาลี พนักงานของที่นั่น อาลีใจดีมาก จะให้เคทขับรถ 4WD ในทะเลทรายเองด้วย เคทบอกว่า ไม่เป็นไร คุณขับน่ะดีแล้ว 555+

หน้าเต๊นท์เขาจะทำลานดูดาวไว้ให้ ใครชอบถ่ายภาพดาวก็เพลินเลย จองที่พักได้จากลิงค์นี้ค่ะ

Oman Desert Private Camp

พักในทะเลทราย 1 คืน (หรือถ้าใครเวลาเหลือ จะพักสองคืนเลยก็ดีนะ)

แนะนำให้ดูพระอาทิตย์ตกตอนเย็น ส่วนตอนเช้าให้ตื่นมาดูพระอาทิตย์ขึ้นค่ะ จะเห็นหมอกจางๆ อยู่กลางทะเลทราย สวยแปลกตาดี

อ่านเรื่องเต็มได้ที่ เที่ยวโอมาน: นอนนับดาวกลางทะเลทราย ฟีลแคมป์บนดาวอังคาร

เที่ยวทะเลทรายโอมาน
เที่ยวทะเลทรายโอมาน

DAY 5 Bidiyah –  Sur – Muscat

ตอนเที่ยง ออกจากทะเลทราย ขับจากบิดิย่าห์ ไป Sur (ราว 2 ชม.) Sur เป็นเมืองชายทะเลของที่นี่ค่ะ คนมักชอบไปค้างคืนเพื่อดูเต่าวางไข่ตอนกลางคืน และตอนเช้ามืดกัน

จาก Sur ก็ขับไปดูเมืองโบราณแห่ง Qalhat (ประมาณ 1 ชม. จาก Sur) เป็นที่แวะระหว่างทางที่เราจะไป Wadi Shab กันในวันนี้

จริงๆ โอมานมี Wadi หลายแห่งค่ะ แต่ Wadi Shab เป็นพื้นที่โอเอซิสที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งในโอมาน มีน้ำสีเขียวใสเป็นแอ่งในหุบเขา ความลึกตั้งแต่ 0.5 ม. จนถึง 8 ม.

โอเอซิส เที่ยวโอมาน Wadi Shab
Wadi Shab
โอเอซิส เที่ยวโอมาน Wadi Shab
Wadi Shab

เข้าไปใน Wadi ต้องนั่งเรือข้ามฟากไป ถ้าให้ดีควรมีไกด์นำทาง เพราะทางค่อนข้างไกลอยู่เหมือนกัน เดินไปกลับประมาณ 2 ชม. ลงเล่นน้ำที่ wadi ประมาณ 1 ชม. เราจึงควรให้เวลากับที่นี่สัก 3 ชม.ไปเลย (ตอนแรกกะว่าจะแค่แว้บๆ มา ปรากฏว่าเดินไกลกว่าที่คิดค่ะ) ที่นี่มีห้องน้ำให้เปลี่ยนเสื้อผ้า อย่าลืมเอาถุงไปใส่เสื้อผ้าเปียกด้วยล่ะ

oman, roadtrip, เที่ยวโอมาน, ที่เที่ยวโอมาน, ที่เที่ยวโอมาน pantip, เที่ยวโอมาน วีซ่า, เที่ยวโอมาน คนเดียว, เที่ยวโอมาน งบ, เที่ยวคนเดียว, ขับรถคนเดียว, oman ปลอดภัยไหม, oman pantip

เสร็จแล้วก็ตรงไป Bimmah Sinkhole ซึ่งอยู่ในสวนสาธารณะแห่งหนึ่ง เป็นหลุมยุบขนาดใหญ่และลึก น้ำใสมาก ลงว่ายน้ำเล่นได้ (แต่หากว่ายไม่แข็ง ระวังอย่าไปที่ลึกจนเกินไปค่ะ เผื่อเป็นตะคริว เพราะที่นี่ไม่มีเจ้าหน้าที่คอยดูแล มีแต่นักท่องเที่ยวด้วยกัน)

Bimmah Sinkhole
Bimmah-Sinkhole

เรียกได้ว่าวันนี้เป็นวันตัวเปียก เพราะเล่นน้ำทั้งวัน แล้วต้องขับรถกลับมัสกัต เพราะแถว Bimmah Sinkhole ไม่มีโรงแรม คืนนั้นเลยขับรถกลับมัสกัตอย่างล้าๆ

ข้อควรระวัง: ขากลับมัสกัต ตรง Muscat Express Way ให้ขับระวังค่ะ เพราะจุดนี้โค้งเยอะถี่ๆ และรถขับกันค่อนข้างเร็ว

DAY 6 Mutrah Corniche – Mutrah Souq

ในมัสกัต แนะนำให้หากิจกรรมดำน้ำ เทรคกิ้ง หรือเที่ยวบาซาร์ในเมืองดูค่า

พวกกิจกรรมดำน้ำ และสนอร์เกิ้ล ต้องจองไว้ล่วงหน้า ส่วนใหญ่เรือจะออกจากท่าตอน 8.00 แล้วกลับตอน 14.00

ใครที่อยากหา off-the-beaten path ในมัสกัต แนะนำให้ติดตามบล็อกเกอร์ท้องถิ่นชาวโอมานคนนี้ค่ะ

Oman Tripper: Muscat Trek

อ้อ! อย่าลืมแวะทานมื้อเย็นที่ Mutrah Corniche +เดินเล่นตลาดเก่าแก่ Mutrah Souq ด้วยนะคะ

Mutrah Corniche เที่ยวโอมาน
Mutrah Corniche เที่ยวโอมาน

Tips:

  • ควรเพิ่ม buffer day ไว้ 1 วันค่ะ เผื่อขับรถไม่ทัน จะได้มีวันสำรองเอาไว้
  • ที่พัก จองโรงแรมเฉพาะในมัสกัต เพราะนอกมัสกัต สามารถนอนในรถ หรือปักเต๊นท์นอนได้ ส่วนโรงแรมหรือเกสเฮ้าส์ walk in เข้าไปได้ค่ะ เพราะตอนที่เคทไป แม้จะเป็นช่วง high season ก็ยังมีห้องว่าง (สำหรับคนที่เดินทางคนเดียว) และถ้าจองไปก่อน แล้วขับรถไม่ทัน หรือต้องปรับเปลี่ยนแผนการเดินทาง จะได้ไม่ต้องกังวลเรื่องที่พักที่จองไว้แล้วค่ะ
  • Navigation app ที่ใช้ขับรถ แนะนำ Waze แทนการใช้ Google Map เคทใช้แล้วหลงน้อยลง เพราะ user interface ดูใช้งานง่ายกว่า ขับรถถึงจุดหมายเร็วขึ้น แถมมีบอก speed camera/ บอกตำรวจด้วย 555+ น่ารักดีค่ะ
  • Mutrah Souq เป็นพื้นที่แห่งการต่อรองค่ะ ถ้าเราไม่สนใจสินค้า ให้พูดคำเดียวว่า No, thanks  ฮะๆๆ

การแต่งกาย

โอมานเป็นประเทศมุสลิม แม้จะทันสมัยและมีความคุ้นเคยกับนักท่องเที่ยว แต่แนะนำให้เราสวมเสื้อแขนยาว-ขายาว เพื่อเป็นการเคารพสถานที่ค่ะ ส่วนจะคลุมผมหรือไม่ก็ได้

เที่ยวโอมาน

ภาษา

คนโอมานส่วนใหญ่ แม้ในต่างจังหวัด พูดภาษาอังกฤษได้ค่ะ

เงิน

ที่นี่ใช้เงินสกุล OMR โอมานเรียล ซึ่งเป็นสกุลที่มีมูลค่าสูงที่สุดอีกสกุลหนึ่งของโลก (1 OMR = 80 บาทไทย) ค่าครองชีพที่นี่แพงมากค่ะ บางคนบอกว่าแพงกว่าดูไบเสียอีก แต่ภาพรวมแล้วเราจะไม่ได้เสียเงินไปกับอะไรมาก นอกจากค่าโรงแรม

วิธีแลกเงิน แนะนำให้แลกจากไทยเป็น USD ไป แล้วพอไปถึงสนามบินมัสกัต ให้เอา USD ไปแลกเป็น OMR ค่ะ

รูดบัตรเครดิตได้ทั่วไปค่ะ ที่นี่เขาชอบพกเครื่องรูดบัตรกัน ขนาดโบราณสถานบางแห่ง เช่น Bahla Fort ยังเก็บค่าเข้า 0.5 OMR ด้วยการรูดบัตรเครดิตเลยค่า

อากาศ

อากาศค่อนข้างร้อนกว่าบ้านเรามาก สมกับเป็นตะวันออกกลางจริงๆ ช่วงที่อากาศร้อนน้อยที่สุดคือช่วงเดือนตุลาคม ทำให้เป็นช่วงที่เหมาะสำหรับการท่องเที่ยวมากที่สุด (ราวๆ 32 องศา)

น้ำมัน

เนื่องจากโอมานเป็นผู้ผลิตน้ำมัน น้ำมันที่นี่เลยราคาไม่แพงค่ะ

  • ครึ่งถัง 5 OMR
  • เต็มถัง 10 OMR

ซิมการ์ด

ซิมท้องถิ่น ให้ซื้อที่สนามบินได้เลยค่ะ แม้จะลงเครื่องหลังเที่ยงคืนเป็นต้นไปแล้ว ร้านที่สนามบินทั้งร้านแลกเงินและร้านขายซิมก็ยังคงเปิดบริการ

ปลั๊ก

ปลั๊กในโอมาน จะเป็นแบบสามขาหัวแบน ตามภาพค่ะ

ปลั๊กในโอมาน
ปลั๊กในโอมาน

อ่านเรื่องราวการ Roadtrip ลุยเดี่ยวเที่ยวทั่วโอมานได้อีกในบทความ

ลุยเดี่ยว หลงไปให้ถึง…ดาวอังคาร ที่ Shāhiq โอมาน

ขอวีซ่าโอมาน (Oman) ขั้นตอนการยื่นวีซ่า online (อัพเดท 2022)

เหตุเกิดที่โอมาน: เอาชนะความกลัว ด้วยการทำให้ฝันร้ายเป็นเรื่องจริงขึ้นมาซะเลย! EP. 1

วิธีขับรถ Roadtrip เที่ยวเองใน Oman แนะนำแอพพลิเคชั่นนำทาง และข้อควรระวัง

Wadi Shab Hike: สำรวจโอเอซิสกลางทะเลทรายใน Oman กับแอ่งน้ำสีมรกต

ฝากเพื่อนๆ ติดตามเรื่องเล่าจากการเดินทาง+ทริปแบบมันส์ๆ ได้ที่

Facebook: https://web.facebook.com/katewandermore
IG : https://www.instagram.com/kate_wandermore/
YouTube: https://www.youtube.com/channel/UCg1osBd51nmLKnPvmeG-JSQ

Featured

13 ข้อดีของการเที่ยวคนเดียว สักครั้งในชีวิต

จากที่ได้แบกเป้เที่ยวคนเดียวมาตั้งแต่ปี 2011 และเคทเคยเขียนข้อดีของการเที่ยวคนเดียวแชร์ไว้ในเพจเมื่อเกือบสองปีมาแล้ว เป็นโพสที่ได้รับฟีดแบคเยอะเกินคาด และสังเกตว่ามีเพื่อน ๆ หลายคนได้แรงบันดาลใจจากโพสนั้น เลยรวบรวมมาลงเว็บ ให้ได้อ่านกันอีกรอบ

ลองมาดูกันสิว่า หลายปีที่ผ่านมานี้… เราได้ทำตามที่เราฝันไว้หรือยังนะ

ข้อดีของการเที่ยวคนเดียว

1.ได้อยู่กับตัวเองมากขึ้น

คนเราปัจจุบันอยู่กับข้อมูลที่ไหลทะลักเข้ามาตามช่องทางออนไลน์และสื่อต่างๆ มากมาย เราอยู่กับข้อมูลเหล่านั้นมากกว่าอยู่กับคนที่บ้านเสียอีก และเราอยู่กับตัวเองน้อยลง ๆ ในแต่ละวัน

การได้ออกเดินทางคนเดียวจึงทำให้เราได้ยิน ‘เสียงภายใน’ ของตัวเองดังชัดเจนกว่าที่เคย เป็นเสียงที่ปราศจากความคาดหวังจากสังคม ปราศจากภาระต่างๆ ที่เราได้แบกไว้ตอนที่ทำงานอยู่ในเมือง

ทำให้เราได้ค้นพบว่า จริงๆ แล้วตัวเราต้องการอะไรในชีวิตกันแน่ ซึ่งสิ่งนี้เป็นเรื่องสำคัญมากที่เราต้องตอบคำถามตัวเองให้ได้

e0b980e0b897e0b8b5e0b988e0b8a2e0b8a7e0b884e0b899e0b980e0b894e0b8b5e0b8a2e0b8a7_2-1

2.ประสาทสัมผัสทั้ง 5 เปิด

เมื่อเราได้ไปอยู่ในที่ที่ไม่คุ้นเคยเอาเสียเลย ได้พบเจอแต่คนแปลกหน้าที่ไม่ได้พูดภาษาเดียวกันกับเรา โดยเฉพาะการต้องไปเผชิญสภาวะแวดล้อมแบบนั้นตามลำพัง

สัญชาตญาณการเอาตัวรอดจะพลุ่งพล่าน ร่างกายจะปลดล็อกสวิตช์ “Survivor” ขึ้นมาให้ทำงาน ประสาทสัมผัสทั้งห้าจะเปิดรับและไวต่อสิ่งที่เกิดขึ้นรอบตัว

ทำให้เราจดจำได้ในทุกๆ รายละเอียดของประสบการณ์ที่ได้รับ รูป รส กลิ่น เสียง ณ สถานที่นั้นเป็นอย่างไร จะตรึงอยู่ในความทรงจำ

.JPG

3.ได้ถูกพบและได้ค้นพบ

การพาตัวเองออกเผชิญโลกภายนอก ทำให้เราได้พบเจอเพื่อนใหม่ ครอบครัวใหม่มากมาย ที่ถึงแม้สุดท้ายแล้วจะไม่ได้สนิทกัน แต่ก็เคยร่วมสร้างความทรงจำดีๆ ร่วมกัน

มันแปลกดีนะ…การที่เราซึ่งอยู่คนละซีกโลกได้ถูกเหวี่ยงให้มาพบกันแบบนั้น

_200816_3

4.เข้าถึงคนท้องถิ่น

เมื่อคนท้องถิ่นเห็นเราเดินทางมาคนเดียว จะเป็นการเปิดให้เขากล้าเข้าหาเรามากกว่าการมาเที่ยวเป็นกลุ่ม ซึ่งเป็นทั้งข้อดีและข้อเสีย หากเราได้พบพานแต่คนดี ๆ ทริปนั้นจะมีมิตรใหม่ ๆ มากมาย หากเราเจอคนที่ไม่ดี ก็จะมีเรื่องซวย ๆ มาเล่าให้เพื่อนที่ไทยฟัง

dscf4063_1024_683_logo

5.อำนาจการตัดสินใจ อยู่ที่เรา

บางครั้งเวลาไปเที่ยวกันหลายคน ต่างคนก็ต่างความเห็น หลากความต้องการ คนนึงอยากไปที่นึง ส่วนอีกคนก็อยากจะไปอีกที่นึง

แต่หากไปเที่ยวคนเดียว เราอยากไปไหนก็ได้ไปตามใจตัวเอง อำนาจการตัดสินใจทุกอย่างอยู่ที่ตัวเรา

จะตื่นเช้าหรือตื่นสาย จะไปไหน และไปยังไง เราต้องตัดสินใจเองทุกอย่าง

6.ได้เป็นตัวของตัวเอง

เราได้เป็นตัวของตัวเองอย่างเต็มที่ เพราะเราไม่ต้องรักษามาดกับตัวเอง ไม่ต้องเกรงใจตัวเอง ได้ทำในสิ่งที่อยากทำสุดเหวี่ยง

canyoneering เซบู ฟิลิปปินส์ ตอนไปเที่ยวคนเดียว
ตอนไป Canyoneering ที่เมืองบาเดียน เซบู ฟิลิปปินส์

7.ฝึกกำลังภายใน

เรียกว่า ‘empowering’ การเที่ยวคนเดียวช่วยฝึกกำลังภายใน ให้เรากล้า ก้าวข้ามความกลัว ทำให้นับวันจะยิ่งเป็นคนมีความมั่นใจในตัวเองเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ว่า ‘เราทำได้!’

003041

8.ฝึกการวางแผน

การเที่ยวคนเดียว ต้องทำการบ้านเยอะมากก่อนออกเดินทาง ไม่ว่าจะในประเทศหรือต่างประเทศ เราต้องวางแผนคนเดียวเพื่อให้ทุกอย่างไม่เกิดข้อผิดพลาดระหว่างการเดินทาง จึงเป็นการฝึกทักษะการวางแผน จนสามารถไปที่ไหนในโลกได้โดยลำพัง

ทะเลทราย badain jaran ผจญภัย เที่ยวคนเดียว จีน เดินทาง เที่ยวจีน, เที่ยวคนเดียว, บล็อกเกอร์ท่องเที่ยว, บล็อกเกอร์สาว, ท่องเที่ยว, ผจญภัย, ลุยเดี่ยว, บล็อกเกอร์สายเที่ยว, เทรคกิ้ง, ปีนเขา, ดำน้ำ, ฟรีไดฟ์, ร้านฟรีไดฟ์, ร้านขายอุปกรณ์ดำน้ำ, กรุงเทพ, ฟินฟรีไดฟ์
เดินทางไปจีนไม่กี่วัน พูดจีนได้เฉย แถมเขียนได้ด้วยทั้ง ๆ ที่คืนอาจารย์ไปหมดแล้ว

9.ฝึกที่จะล้มเหลว

เดินทางคนเดียวไม่ได้เจอแต่เรื่องดีๆ เสมอไป แผนที่วางไว้ก็ไม่ได้เป็นไปตามแผนเสมอไป เพราะในระหว่างการเดินทางมีปัจจัยหลายอย่างเข้ามาประกอบ คลุกเคล้ากันไปเป็นรสชาติชีวิต เมื่อเรานำพาตัวเองไปเจอเรื่องที่ไม่คาดฝัน หรือเหตุการณ์เฟลๆ เช่น หลงทางบ้าง ตกเครื่องบินบ้าง โดนโกงเงินปลอมบ้าง ฯลฯ ทำให้เราเริ่มคุ้นเคยกับความล้มเหลว และกล้าที่จะรับมือกับมันในอนาคต ราวกับมันเป็นเรื่องกล้วยๆ

ฟรีไดฟ์ ตอนสอบดำน้ำตัวเปล่าครั้งแรก
ฝึกที่จะล้มเหลว: ดำน้ำไดฟ์แรก เคทจำได้ดี วันนั้นแม้ท้องฟ้าแจ่มใส แต่คลื่นแรง และอีกหลายปัจจัย ทำให้เคทเกิดอาการ panic ตามสัญชาตญาณ ดีที่มีครูอยู่ข้าง ๆ คอยช่วยไว้

10.ตื่นเต้น ท้าทาย

แน่นอน ไปเที่ยวคนเดียวได้เจอเรื่องตื่นเต้นรออยู่ตั้งแต่ก้าวเท้าออกจากบ้านอยู่แล้ว ใครที่ชื่นชอบความท้าทาย และอยากอัพเลเวล ก็ต้องลองออกไปเที่ยวไกล ๆ คนเดียวสักครั้งนะ

เที่ยวคนเดียว อินเดีย ทริปเดินเขาแถบ high altitude อุตตระขัณฑ์
เดินเขา ไปคนเดียวแต่ไม่เดียวดาย เพราะไปจอยทริปกับเพื่อนชาวอินเดียที่อุตตระขัณฑ์ เส้นทาง Kuari Pass

11.ตั้งคำถามและหาคำตอบ

การเที่ยวคนเดียว ทำให้เราชอบซักชอบถาม ทั้งกับตัวเองและคนแปลกหน้า เหมือนเป็นใบเบิกทางให้เราเข้าไปถามคนท้องถิ่นได้โดยที่เขาจะยินดีให้ความร่วมมือมากกว่าเดิม เพราะเห็นเราอยู่โดดเดี่ยวไม่มีตัวช่วย เมื่อเราถามมากขึ้น และพยายามหาคำตอบมากขึ้น เราก็ยิ่งได้เรียนรู้หลายสิ่งหลายอย่างในโลกเพิ่มขึ้น เป็นองค์ความรู้ที่หาที่ไหนไม่ได้ อ่านหนังสือก็อาจจะไม่เจอ ต้องไปค้นหาและเข้าใจด้วยตัวเอง

12.พบความสงบ สันโดษที่แท้ทรู

การปลีกตัวไปเที่ยวคนเดียว คือปรอทวัดความสงบสันโดษอย่างแท้จริง เพราะทุกสิ่งรอบตัวจะมีความวุ่นวายน้อยลง เป็นผลพวงจากการที่เราได้อยู่กับตัวเองมากขึ้น คุยกับตัวเองมากขึ้น

เที่ยวคนเดียว, บล็อกเกอร์ท่องเที่ยว, บล็อกเกอร์สาว, ท่องเที่ยว, ผจญภัย, ลุยเดี่ยว, บล็อกเกอร์สายเที่ยว, เทรคกิ้ง, ปีนเขา, ดำน้ำ, ฟรีไดฟ์, ร้านฟรีไดฟ์, ร้านขายอุปกรณ์ดำน้ำ, กรุงเทพ, ฟินฟรีไดฟ์, แอลนิโด, ฟิลิปปินส์, เที่ยว, เที่ยวคนเดียว, ขาลุย, ผจญภัย, พาลาวัน, Elnido, phillipines, palawan
พระอาทิตย์ตกที่หาด Corong Corong เป็นอีกหนึ่งประสบการณ์ที่เคทไม่มีวันลืม ฉากพระอาทิตย์ตกทำให้เราเห็นถึงชีวิต ความสงบ และสัจธรรม แต่แปลก..พระอาทิตย์ตกที่นี่ ณ ที่ ๆ ไกลโพ้นจากบ้าน กลับทำให้เคทนึกถึง ‘ความตาย’ ในแบบที่ไม่ทำให้เกิดความกลัว แต่ทำให้เกิดความ ‘ตระหนักรู้’

13.ทำให้คิดถึงคนที่จากมา

การออกเดินทางเที่ยวคนเดียว ทำให้เรารู้คุณค่าของคนที่เราจากมา คนที่บ้าน ครอบครัวของเรานั่นเอง เพราะสุดท้ายเราจะรู้ว่าเราคิดถึงพวกเขาแค่ไหนก็ตอนที่เราไปอยู่ไกล ๆ ตัวคนเดียว ดิ้นรนคนเดียวนี่แหละ ยิ่งถ้าล้มป่วยไม่สบายตอนอยู่ต่างประเทศด้วยนะ ยิ่งคิดถึงบ้านเข้าไปใหญ่

Cover photo: by Alexander McFeron on Unsplash

อ่านเรื่องราวการเดินทาง แบกเป้ลุยเดี่ยวได้ตามหมวดหมู่นี้ได้เลยนะคะ ^^

รวมเรื่องเล่าการเดินทาง ตอนไปแถบแอฟริกา

รวมเรื่องเล่าการเดินทาง ตอนไปแถบตะวันออกกลาง

รวมเรื่องเล่าการเดินทาง ในแถบเอเชีย

People x Inspiration

Freediving ทริปดำน้ำตัวเปล่า

เดินป่า เดินเขา

เคล็ดไม่ลับชาวแบคแพคเกอร์

13 ที่เที่ยวโอมาน ที่สายแบกเป้ท่องโลกห้ามพลาด!

รวม 13 ที่เที่ยวโอมาน ที่สายแบกเป้ท่องโลกห้ามพลาด! โอมาน.. ดินแดนเบดูอิน…มีครบทั้งที่เที่ยวทางธรรมชาติ ทะเลทราย แกรนด์แคนยอน ที่เที่ยวทางวัฒนธรรม และโอเอซิส แถมยังคนน้อย ถนนโล่ง ปลอดภัย และฟินมากเลยค่ะ ใครที่กำลังแสวงหาเส้นทางแนว off-the-beaten path ที่อยู่นอกสายตาของคนทั่วไป ลองแพลนทริปปลายปี 65 ดูนะคะ โอมานเปิดประเทศละค่า!! 🥹☺️

อ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่:

ขอวีซ่าโอมาน (Oman) ขั้นตอนการยื่นวีซ่า online (อัพเดท 2022)

เที่ยวโอมาน ลุยเดี่ยวตระเวน Roadtrip แดนเบดูอิน

เที่ยวโอมาน: นอนนับดาวกลางทะเลทราย ฟีลแคมป์บนดาวอังคาร

Bidiya, Oman / Cr. Arisa S.
Bidiyah Oman/ Cr. Vera Davidova

1. Bidiyah บิดิย่าห์

เป็นที่เที่ยวไฮไลท์ของทริปโอมานสำหรับเคทเลยค่ะ ที่นี่เป็นเมืองทะเลทราย ที่ๆ เราจะได้นอนในแคมป์เบดูอิน ดินเนอร์อาหารพื้นเมืองร่วมกับนักเดินทางจากทั่วทุกมุมโลก ดื่มด่ำกับค่ำคืนแห่งพระจันทร์ นอนนับดาวกลางทะเลทรายอันเวิ้งว้าง อันเป็นส่วนหนึ่งของพื้นที่ทะเลทรายกว้างใหญ่ไพศาลแห่งอาระเบีย หรือที่เรียกกันว่า Empty Quarter (Rub’ al Khali ครอบคลุมโอมาน ซาอุดิอาระเบีย UAE และเยเมน)

พระจันทร์ที่นี่สวยมาก ดาวก็เต็มฟ้าเลย บรรยากาศดีมากมาย จนนึกถึงเรื่องอาละดินเลยค่ะ

อ่านเรื่องราวฉบับเต็มได้ที่: เที่ยวโอมาน: นอนนับดาวกลางทะเลทราย ฟีลแคมป์บนดาวอังคาร

บิดิย่าห์ เมืองทะเลทรายของโอมาน
ภาพนี้ตั้งกล้องถ่ายหน้าเต้นท์ของตัวเองค่ะ เนื่องจากลมในทะเลทรายค่อนข้างแรง ควรเอาขาตั้งกล้องที่แข็งแรงๆ ติดตัวไปด้วยน้า (สำหรับคนที่เที่ยวคนเดียวค่า)

2. Wadi Bani Khalid

ถ้าได้ยินคำว่า Wadi จะหมายถึงแหล่งน้ำขนาดใหญ่ ซึ่งก็คือโอเอซิสในโอมานนั่นเองค่ะ ในโอมานมีหลาย Wadi ด้วยกัน แต่ Wadi ที่มีชื่อเสียงนั้น ได้แก่ Wadi Bani Khalid และ Wadi Shab ใครอยากสัมผัสโอเอซิสท่ามกลางหุบเขา ห้ามพลาดเลยน้า การขับรถมานาน แล้วได้จุ่มตัวลงแช่น้ำเย็นๆ ใสๆ สีเขียวมรกตใน Wadi ฟินอย่าบอกใครเลยค่ะ

Wadi Bani Khalid อยู่ห่างจากเมืองบิดิย่าห์ เพียง 40 กม. และห่างจากมัสกัต เมืองหลวงของโอมาน 203 กม. มีน้ำตลอดทั้งปี ใครเที่ยวทะเลทรายที่เมืองบิดิย่าห์เสร็จ ก็มาต่อที่นี่ได้เลยนะคะ ^^

ที่เที่ยวโอมาน Wadi Bani Khalid
ที่เที่ยวโอมาน Wadi Bani Khalid

3. As Sulaif Fort

ในโอมานมี Fort หรือปราการอยู่มากมาย และหลายๆ แห่งก็เคยเป็นปราสาทมาก่อนในอดีต As Sulaif Fort เป็นปราการในเมือง Ibri โอมาน ถูกสร้างโดยสุลต่านในราชวงศ์ยารูบี มีตัวปราสาท และบ้านเรือนมากมายในบริเวณนี้ รวมทั้งมัสยิดด้วยค่ะ สภาพปัจจุบันค่อนข้างทรุดโทรมลงไปมาก แต่ก็คงเสน่ห์ตามฉบับโบราณสถานเอาไว้ได้อย่างครบถ้วน

ใครมาที่นี่ จะเห็นว่ามีคุณลุงคนนึงคอยดูแลสถานที่อยู่ค่ะ และทำหน้าที่เป็นไกด์ด้วย
Ibri อยู่ห่างจากมัสกัต 212 กม. ใครอยากรู้แผนการเที่ยวให้ได้ไปครบทุกที่ อ่านต่อได้ทางเว็บไซต์น้า:
https://bit.ly/3tuFagK

As Sulaif Fort / ที่เที่ยวโอมาน
As Sulaif Fort / ที่เที่ยวโอมาน

ที่เที่ยวโอมาน อีกมุมหนึ่งของวิวที่มองจาก As Sulaif Fort
อีกมุมหนึ่งของวิวที่มองจาก As Sulaif Fort

4. Bimmah Sinkhole

เป็นหลุมยุบขนาดใหญ่ตามธรรมชาติจนเกิดเป็นแอ่งน้ำสีเขียวใสมรกต อยู่ใกล้กับเมือง Tiwi ที่นี่เล่นน้ำได้เช่นกันค่ะ จุดที่เป็นหลุมยุบจะอยู่ในบริเวณสวนสาธารณะ จึงมีลานจอดรถและสถานที่เปลี่ยนเสื้อผ้าให้ เคทเห็นอยู่ติดทะเลด้วยค่ะ ชาวบ้านที่นี่จะชอบมาเดินเล่น และมาเล่นน้ำกัน แต่คนก็ไม่พลุกพล่านเลยค่ะ บรรยากาศจะสงบมาก (เอาจริงๆ ในต่างจังหวัด เจอคนน้อยมากเลยค่ะ)

เคทมา Bimmah Sinkhole เป็นวันสุดท้ายก่อนกลับเข้ามัสกัตค่ะ เลยเล่นน้ำจาก Wadi Shab มาแล้ว ตอนมาที่นี่เลยไม่ได้เล่นน้ำอีก (เพราะขี้เกียจอาบน้ำอีกรอบ 55+) ที่เมืองนี้ดูน่าจะไม่มีที่พัก เลยเป็นที่แวะผ่านตอนวันที่ขับรถกลับมัสกัตค่ะ

ที่เที่ยวโอมาน Bimmah Sinkhole
ที่เที่ยวโอมาน Bimmah Sinkhole / Cr. katerina kerdi

5. เมืองโบราณแห่ง Qalhat

ที่นี่ได้รับการยกให้เป็น Unesco World Heritage Site เลยนะ เพราะเป็นร่องรอยแห่งอดีตของการเป็นเมืองท่าที่สำคัญ ในการทำการค้าในอ่าวเปอร์เซีย แถบชายฝั่งตะวันออกของอาราเบีย กับแอฟริกาตะวันออก อินเดีย จีน รวมทั้งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ของเราเองค่ะ

เมืองโบราณแห่ง Qalhat อยู่ห่างจากทางตอนเหนือของเมือง Sur เพียง 20 กม. เจริญรุ่งเรืองมากในช่วงศตวรรษที่ 11-16 ภายใต้การปกครองของเจ้าชายฮอร์มุส สินค้าส่งออกส่วนใหญ่จะเป็นม้า เครื่องหอม ผลอินทผาลัม และไข่มุก ต่อมาหลังศตวรรษที่ 16 ถูกโปรตุเกสรุกราน จนเมืองถูกทิ้งร้าง และกลายเป็นโบราณสถานอย่างที่เห็นในปัจจุบันนี้

ที่มาของข้อมูล: Unesco 

ที่เที่ยวโอมาน เมืองโบราณแห่ง Qalhat Sur
 เมืองโบราณแห่ง Qalhat โอมาน อยู่ห่างจากทางตอนเหนือของเมือง Sur เพียง 20 กม.

6. Mutrah Corniche – Mutrah Souq

สองที่นี้อยู่บริเวณเดียวกันค่ะ ที่เมืองมัสกัต เมืองหลวงของโอมาน Mutrah Corniche จะเป็นเวิ้งถนนริมทะเลที่ฉากด้านหลังเป็นภูเขา สวยมากเลย ซึ่งจะมีตึกรามร้านค้ามากมาย รวมทั้ง Mutrah Souq หรือตลาดบาซาร์สำคัญของที่นี่ด้วย ที่นี่สามารถมาเที่ยวได้ทั้งกลางวันและกลางคืนค่ะ ตอนกลางคืนก็จะสวยไปอีกแบบ

ร้านค้าและมัสยิดใน Mutrah Corniche สวยน่าถ่ายรูปมากมายค่ะ รวมทั้งบริเวณท่าเรือด้วย เคทไปเดินเล่นริมฟุตบาทดู เห็นเรือสวยมาก หาที่จอดรถยากหน่อยเพราะมีแต่ทัวร์มาลงที่นี่ แต่ก็ยังพอหาได้ เพียงแค่ต้องเดินไกลนิดนึงเท่านั้นเอง ^^

ตลาด Mutrah Souq จะมีแค่ช่วงเช้า 8-10 โมงเช้าค่ะ ใครอยากมาเดินตลาดต้องเผื่อเวลาสักหน่อยน้า

ที่เที่ยวโอมาน Mutrah Corniche – Mutrah Souq 
Mutrah Corniche – Mutrah Souq 
Mutrah Corniche – Mutrah Souq ยามค่ำคืน
Mutrah Corniche – Mutrah Souq ยามค่ำคืน

7. Wadi Shab หรือ Wadi Ash Shab

เป็น Wadi โอเอซิส ที่มีชื่อเสียงที่สุดของโอมานค่ะ อยู่ห่างจากมัสกัตเพียง 1.5 ชม. และห่างจากเมือง Sur 40 นาที ที่นี่มีชื่อเสียงมากจน Red Bull เคยมาจัดการแข่งขันโดดผา หรือ Cliff Diving มาแล้ว ระดับน้ำมีตั้งแต่หัวเข่า ไปจนลึกระดับ 8 ม. น้ำใสไหลเย็นสีเขียวมรกต ไม่ค่อยมีปลา (เห็นแต่ปลาตัวเล็กมาก) เล่นน้ำได้สบายๆ ค่ะ น้ำเย็นสดชื่นดี

ที่นี่มีห้องเปลี่ยนชุดให้บริการฟรีค่ะ แต่ตอนเข้าไปต้องไปทางเรือเพียงอย่างเดียว มีค่าเรือเล็กน้อย และมีค่าไกด์นำทางด้วย (ไกด์จะกระโดดลงเรือลำเดียวกับเราไปเลย และจะดูแลเราทั้งไป-กลับ ราคาไกด์แล้วแต่จะให้น้องเลยค่า)

การเดินเท้าเข้าไปยัง Wadi Shab ขอเรียกว่า Hiking ย่อมๆ เลยค่ะ และใช้เวลากับที่นี่นานพอสมควร ใครจะมาเที่ยวชม Wadi Shab ให้เผื่อเวลาไว้เยอะๆ ค่า เช่น ครึ่งเช้า หรือครึ่งบ่ายไปเลยนะ

อ่านเรื่องราวของการเที่ยว Wadi Shab ต่อได้ที่: Wadi Shab โอมาน – สำรวจโอเอซิสกลางทะเลทรายในโอมาน กับแอ่งธารสีเขียวมรกต

ที่เที่ยวโอมาน Wadi Shab
Wadi Shab
ว่ายน้ำเล่นใน Wadi Shab โอมาน
ที่เที่ยวโอมาน Wadi Shab

8. Sur สัมผัสเสน่ห์เมืองชายทะเล ในแบบอาราเบีย

Sur เป็นหนึ่งในเมืองที่เก่าแก่ที่สุดของโอมานค่ะ สมัยก่อนเป็นเมืองท่าสำคัญ ในการทำการค้าในอ่าวเปอร์เซีย แถบชายฝั่งตะวันออกของอาราเบีย กับแอฟริกาตะวันออก อินเดีย จีน รวมทั้งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ของเราเองค่ะ และยังเป็นแหล่งต่อเรือสำคัญของเรือการค้านานาชาติที่ผ่านไปมาในคาบสมุทรนี้อีกด้วย

นอกจากทะเลแล้ว เมือง Sur เลยมีโบราณสถานให้เที่ยวชมมากมาย อาทิ เช่น Bilad Sur Castle, al Ayjah Fort, Sunaysilah Fort, old town of Sur, lighthouse ฯลฯ แถมยังอยู่ไม่ไกลจากแหล่งท่องเที่ยวสำคัญอย่าง Wadi Shab อีกด้วยค่ะ

ที่เที่ยวโอมาน Sur เมืองชายทะเล

9. Jebel Shams วิวตระการตา ของแกรนด์แคนยอนแห่ง Arabia
ใครที่มา พักที่หมู่บ้าน Misfat al Abriyyin เลยขึ้นไปหน่อยก็จะถึงแกรนด์แคนยอนของโอมานละค่า แต่แนะนำว่ารถที่จะเอาขึ้นไปแกรนด์แคนยอนควรเป็น 4WD น้า เพราะเป็นภูเขาสูง (มีคนเคยบอกว่ารถเก๋งปกติก็ขึ้นไปได้ค่ะ แต่ถ้าให้ดีควรเป็น 4WD มากกว่า) บางคนก็ไปกางเต้นท์นอนที่แกรนด์แคนยอนเลย เพื่อตื่นเช้ามาดูพระอาทิตย์ขึ้นที่นี่ หรือจะอยากไปพักที่หมู่บ้าน Misfat al Abriyyin ก็จะสะดวกสบายกว่า แถมยังได้นอนเต็มอิ่ม ก่อนออกเดินทางไปเมืองต่อไปด้วยนะ 😊

Jebel Shams แกรนด์แคนยอนของโอมาน
Jebel Shams แกรนด์แคนยอนของโอมาน

10. Riyam Park Monument

เป็นแลนมาร์คนึงของมัสกัต โอมานเลยก็ว่าได้ค่ะ Riyam Park Monument เป็นที่เผากำยานขนาดยักษ์ สำหรับคนที่ไปเที่ยว Mutrah Corniche ให้แวะมาที่นี่ด้วยนะคะ แต่จุดถ่ายภาพบางจุดเป็นจุดที่ต้อง Hiking จึงจะเห็นวิวสวยๆ ค่า 

10.1 Riyam มีจุดให้ Hiking ที่สามารถถ่ายภาพในมุมสูงได้ ซึ่งสามารถติดต่อทัวร์ท้องถิ่นได้สำหรับเส้นทาง Hike ค่า ตัวอย่างเช่น ทัวร์ไกด์

https://www.tripadvisor.com/…/maz…/mediabatch/3318131…

ถ้าจะไป Hiking ในมัสกัต ควรเผื่อวันไว้อีก 0.5 – 1 วันน้า

10.2 การใช้โดรน: เรื่องการใช้โดรน โอมานมีกฏที่ต้องขออนุญาตก่อนค่า โดยนักท่องเที่ยวต้องได้รับอนุญาตก่อนล่วงหน้าอย่างน้อย 15 วันก่อนออกเดินทาง ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ทางนี้เลยค่า 🥰 https://drone-laws.com/drone-laws-in-the-sultanate-of-oman/

Riyam Park Monument ที่เที่ยวในโอมาน
Riyam Park Monument

11.พักในบ้านดินโบราณบนภูเขา หมู่บ้าน Misfat al Abriyyin

สูง 1,000 ม. เหนือระดับน้ำทะเลค่ะ เป็นหมู่บ้านที่เคทชอบมาก ตอนขับขึ้นเขามาก็มีหวาดเสียวบ้างนิดหน่อย แต่จะมีจุดพักรถอยู่ (หากเพิ่งเคยมาครั้งแรกให้ขับด้วยความระมัดระวัง บีบแตรตรงทางโค้ง เพราะเป็น one way อาจมีรถด้านบนวิ่งสวนลงมาค่ะ พยายามขับช้าๆ นะคะ)

ที่นี่เป็นหมู่บ้านโบราณ ของชาวบ้านซึ่งเป็นเผ่า Al Abri tribe บ้านในหมู่บ้านแห่งนี้ถูกสร้างด้วยดินเหนียว บนฐานหินอันแข็งแรง มุงหลังคาด้วยใบปาล์ม ชาวบ้านทำอาชีพเกษตรกรรม และจะเห็นต้นปาล์มเยอะมาก ใช้ระบบชลประทานแบบดั้งเดิมที่เรียกว่า Aflaj ซึ่งเป็นระบบโบราณที่มีมาตั้งแต่ปีคริสต์ศักราชที่ 500
จนที่นี่ได้อีกชื่อนึงว่าเป็นโอเอซิสที่อยู่บนภูเขาค่ะ

(ระบบชลประทานแบบดั้งเดิมที่เรียกว่า Aflaj จะสร้างบ่อจ่ายน้ำไว้ที่สูงสักหน่อย แล้วให้น้ำไหลไปตามแต่ละบ้าน แต่ละแปลงอย่างทั่วถึง บ่อจ่ายน้ำจึงมีความสำคัญมาก ในสมัยก่อนจะมีคนเฝ้าบนหอคอยด้วยค่ะ)

อ่านเรื่องราว Misfat al Abriyyin เพิ่มเติมได้ที่: พักในหมู่บ้านเก่าแก่ บนภูเขาในโอมาน – Misfat al Abriyyin

Misfat al Abriyyin ที่เที่ยวโอมาน
หมู่บ้าน Misfat al Abriyyin

12. Bahla Fort

เป็นป้อมปราการที่สร้างตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 12-15 ให้กลิ่นอายของยุคกลาง แนว Games of Throne เลยค่ะ และยังเป็นปราการเพียงแห่งเดียวในโอมานที่อยู่ใน UNESCO’s list ด้วย เคยมีการบูรณะในปี 1995 แต่ขาดการสำรวจในเชิงโบราณคดี ทำให้ดูเหมือนการบูรณะในครั้งนั้น เป็นการสร้างใหม่ขึ้นมามากกว่าการพยายามคงเค้าโครงของเดิม เพราะได้มีการเทหินและปูนซีเมนต์ลงทับจนแทบไม่เห็นโครงสร้างกำแพงเดิมเลยค่ะ
อย่างไรก็ตาม Bahla Fort เป็นปราการที่เคทชอบที่สุด รองจาก As Sulaif Fort หากใครมาโอมาน อย่าลืมมาเที่ยวชม Bahla Fort นะคะ

อ่านเรื่องราว Bahla Fort เพิ่มเติมได้ที่: Bahla ปราการในยุคกลางของ Oman กับบรรยากาศแบบ Game of Thrones

Bahla Fort ที่เที่ยวโอมาน
Bahla Fort

13. Nizwa Fort

เป็นปราการที่สร้างขึ้นโดยสุลต่านองค์ที่ 2 ของราชวงศ์ยารูบี สุลต่านบิล ซาอีฟ อัล ยารูบี นับเป็นป้อมปราการที่ผ่านร้อนผ่านหนาวมาตั้งแต่ปี 1650 เพราะเมือง Nizwa ต่างเคยมีข้าศึกมารุกรานอยู่บ่อยครั้ง เพราะเป็นเมืองที่มีทรัพยากรทางธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ และเป็นพื้นที่ทางยุทธศาสตร์สำคัญของเส้นทางการค้าหลายเส้นทางอีกด้วยค่ะ

ตัวป้อมปราการจึงสะท้อนถึงสถาปัตยกรรมสมัยราชวงศ์ยารูบีตอนต้นเลยค่ะ (มีคนบอกว่าโครงสร้างเดิมเก่าแก่กว่านั้น คือสร้างโดยอิหม่ามตั้งแต่ศตวรรษที่ 7 แล้วสุลต่านมาบูรณะในปี 1650)

Nizwa Fort เปิด 08.00-20.00 น.ทุกวันค่ะ อยู่ไม่ไกลจาก Misfat al Abriyyin และ Nizwa Souq

 Nizwa Fort ที่เที่ยวโอมาน
Nizwa Fort

น้ำตกเปรโต๊ะลอซู น้ำตกรูปหัวใจ กับยอดดอยมะม่วงสามหมื่น

ปีนป่ายตะเกียกตะกายด้วยสองมือสองเท้า เดินป่าตามหาน้ำตกรูปหัวใจ เปรโต๊ะลอซู (ปิตุ๊โกร) กับยอดดอยมะม่วงสามหมื่น เป็นทริปเดินป่าหน้าฝนที่สู้ชีวิตมากค่ะ เพราะทางทั้งลื่นและชัน ต้องข้ามลำธาร ฝ่าดินโคลน เพื่อพิชิตน้ำตกเปรโต๊ะลอซู หรือน้ำตกปิตุ๊โกร สวยมากกก ควรค่าแค่การไปลุยสักครั้ง

  • พิกัด: อ.อุ้มผาง จ.ตาก
  • ทริปนี้เคทไปกับ @สวนหลังบ้าน ใครสนใจสอบถามดูที่เพจสวนหลังบ้านเลยฮับ
  • Fitness Level: ทางไปจุดวางแคมป์และน้ำตกไม่เท่าไหร่ แต่ทางขึ้นยอดดอยมะม่วงสามหมื่นช่วงหน้าฝน จะชันและลื่นมาก ต้องปีนป่ายผ่านจุดอันตรายในบางจุด ร่างกายควรฟิตมากๆ น้า (ใครไปไม่ถึงสามหมื่น ไม่เป็นไร เพราะมีรางวัลปลอบใจเป็น จุดชมวิวหมื่นห้า และจุดจานดาวเทียมที่สองหมื่น ให้ได้ถ่ายรูปวิวสวยๆ แล้วละค่า)
  • เส้นทางนี้ไม่มีทากุจัง
  • ไม่มีสัญญาณ นอกจากบนจุดที่เป็นจานดาวเทียม
  • ระยะเวลาที่ใช้: 3 วัน 2 คืน
  • ช่วงเวลาที่ไปมาในภาพ: 1-3 ก.ค. 2565
น้ำตกเปรโต๊ะลอซู / ปิตุ๊โกร
น้ำตกเปรโต๊ะลอซู / ปิตุ๊โกร

ทริปเดินป่าตามหาน้ำตกรูปหัวใจ เปรโต๊ะลอซู (ปิตุ๊โกร) ใช้เวลา 3 วัน 2 คืนค่ะ จากที่ไปมา ตารางเดินทางคร่าวๆ เป็นแบบนี้ค่า

คืนก่อนวันที่ 1 เดินทางจากกทม. สู่อ.อุ้มผาง จ.ตาก

วันที่ 1 ออกเดินทางไปยังจุดเริ่มเดิน ซึ่งเป็นจุดที่เราจะแบ่งของให้ลูกหาบ จากนั้นจะเริ่มเดินไปยังจุดตั้งแคมป์ในป่า ซึ่งทางเดินเป็นทางราบซะส่วนใหญ่ แต่เนื่องจากเป็นหน้าฝน ทางดินโคลนเลยค่อนข้างเละๆ หน่อยค่า

เริ่มเดินไปจุดวางแคมป์ น้ำตกเปรโต๊ะลอซู ดอยมะม่วงสามหมื่น
เริ่มเดินไปจุดวางแคมป์
ดินโคลนเละๆ
รองเท้าควรเป็นรองเท้าเดินป่าที่สามารถลุยน้ำได้และแห้งเร็ว (ควรเป็นรองเท้าที่พร้อมลุย เพราะทริปนี้รองเท้าดูสู้ชีวิตมาก ^^)
วิวทางไปจุดตั้งแคมป์
ทางเดินไปจุดวางแคมป์ เดินง่าย มีเดินลุยตามลำธารบ้างในบางจุ เปรโต๊ะลอซู
ทางเดินไปจุดวางแคมป์ เดินง่าย มีเดินลุยตามลำธารบ้างในบางจุด
เดินข้ามลำธาร

ระหว่างทาง จะมีเซเว่นดอย ร้านค้าของชาวบ้านอยู่ 2 จุดด้วยกัน เหมือนสวรรค์เลยค่ะ เพราะเราซื้อเป๊ปซี่ โค๊ก สปอนเซอร์ เครื่องดื่มเย็นๆ และขนมได้ที่นี่ เป็นที่หยุดพักเหนื่อย

เซเว่นดอย
เซเว่นดอยก็มีนะจ้ะ 😁 ระหว่างทางไปจุดตั้งแคมป์จะเจอเซเว่นดอย 2 จุดค่ะ มีเครื่องดื่มเย็นๆ ขาย มีที่ให้นั่งพักด้วยนะ

พอถึงจุดตั้งแคมป์ หลังตั้งแคมป์เสร็จ ก็เริ่มเดินต่อแบบตัวเบาๆ ไปยังน้ำตกรูปหัวใจ เปรโต๊ะลอซู

ตกเย็นพักอาบน้ำในลำธาร + ทานมื้อเย็น

ทางเดินไปหาน้ำตกปิตุ๊โกร
ทางเดินไปหาน้ำตกปิตุ๊โกร

วันที่ 2 เดินขึ้นยอดดอยมะม่วงสามหมื่นค่ะ ค่อนข้างโหดอยู่เหมือนกัน เพราะฝนตกแบบปรอยๆ ทางจะลื่นและชัน มีจุดที่ต้องใช้สองมือสองเท้าค่อนข้างเยอะ

มันจะมีแบ่งเป็น หมื่นห้า สองหมื่น สามหมื่นค่ะ ซึ่งหากเราไปต่อไม่ไหวแล้วจริงๆ ก็มีจุดชมวิวที่หมื่นห้า และสองหมื่น ซึ่งวิวสวยไม่แพ้กัน ไว้คอยปลอบใจนะ ^^

จุดนี้เคทเดินมาถึงแค่จานดาวเทียมค่ะ เพราะกลัวไปต่อแล้วจะกลับถึงค่ำ (กังวลกับทางลงมากๆ เพราะขนาดตอนขึ้นมายังคิดว่ายากเลย 555+) จากนั้นเคทก็กลับไปใช้เวลาเต็มที่กับจุดชมวิว (ลูกหาบบางคนบอกว่าจุดชมวิวคือหมื่นห้า บางคนบอกว่าหมื่นสอง ก็ไม่แน่ใจเหมือนกันค่า)

ปีนลงจากดอยมะม่วงสามหมื่น
วันขึ้นยอด สังเกตได้ว่าทางค่อนข้างลื่นและชัน มีหลายจุดที่ต้องใช้สองมือสองเท้าในการปีนป่าย ยึดเกาะ แต่จะมีเพียงจุดเดียวที่มีเชือกไว้ให้ค่ะ ต้องเดินอย่างระวังมากๆ เลย 🥹
ลูกหาบ ดอยมะม่วงสามหมื่น
น้องลูกหาบก็สู้ชีวิตมาก 🥲
ดอยมะม่วงสามหมื่น จุดชมวิว
ดอยมะม่วงสามหมื่น จุดชมวิว
ทางขึ้นดอยมะม่วงสามหมื่น
ทางขึ้นจุดจานดาวเทียม ดอยมะม่วงสามหมื่น
ทางขึ้นจุดจานดาวเทียม
น้ำตกเปรโต๊ะลอซู ดอยมะม่วงสามหมื่น
น้ำตกเปรโต๊ะลอซู ดอยมะม่วงสามหมื่น
ครีมกันแดด พรีมโนบุ ครีมกันแดดสำหรับสายลุย กันน้ำกันเหงื่อสูง preme nobu natural sunscreen
ครีมกันแดด พรีมโนบุ ครีมกันแดดสำหรับสายลุย กันน้ำกันเหงื่อสูง

ขาดไม่ได้เลย คือครีมกันแดดค่ะ ทาทั้งหน้าและตัวไปเลย แนะนำครีมกันแดดสำหรับสายลุย ของพรีมโนบุ ที่กันน้ำกันเหงื่อได้ดีเยี่ยม ไม่ละลายไปกับเหงื่อ ทาแล้วผิวจะดูกระจ่างใสขึ้นมาก แต่ไม่วอกค่ะ เกลี่ยง่าย เนียนไปกับผิว ตัวนี้เคทใช้ในทุกๆ ทริปเลยค่ะ

เวลาใช้ครีมกันแดด ไม่ต้องประหยัดน้า เพราะต้องทาในปริมาณที่เพียงพอด้วยเพื่อกันรังสียูวีค่ะ ใครไม่อยากผิวเสีย แนะนำเลยค่า 😄

พิกัด: ร้านขายยา, บิ๊กซี, อีฟบอย
Shopee: https://shope.ee/3V6DUEiI2y

น้ำตกเปรโต๊ะลอซู ดอยมะม่วงสามหมื่น
จานดาวเทียม ดอยมะม่วงสามหมื่น
จุดเดียวที่มีสัญญาณโทรศัพท์ในทริปนี้ค่ะ ส่วนใหญ่หลายคนจะมาถึงที่จุดนี้กัน ก่อนเดินต่อไปยอดสามหมื่น
ดอยมะม่วงสามหมื่น

วันที่ 3 เดินกลับ + เดินทางกลับ กทม.

เช็คลิสต์สิ่งของที่ควรแพ็คไปด้วย *ทริปนี้สามารถจ้างลูกหาบได้*

  • สิ่งที่ควรเอาไปด้วย: ร่ม (เวลาฝนตกจะได้เข้าออกเต้นท์ได้สะดวก โดยที่เต้นท์ไม่เปียกค่า), ไฟฉายคาดหัว (เพราะห้องน้ำที่จุดตั้งแคมป์ไม่มีไฟน้า), ไฟแคมป์, ยากันยุง, ทาร์ปกันฝน, เต้นท์, ถุงนอน (เอาไว้ห่มในรถตู้+ฝนตกอากาศชื้นๆ จะเย็นๆ หน่อย แต่บางคืนก็ร้อนค่ะ), ถุงมือ (เพราะมีช่วงที่ต้องปีนเชือก ซึ่งเคทไม่มีถุงมือ มือเลยบวมเป็นรอยเชือกนิดหน่อย), ยาแก้แพ้ แบบทา+แบบกิน, ครีมกันแดด, น้ำเกลือซอฟคลีนขวดเล็ก, ไม้เท้าเดินป่า (สำคัญมาก เพราะช่วยเซฟเข่าไปได้เยอะ ช่วยป้องกันอาการเข่าบาดเจ็บ), หมวก, ถุงพลาสติกสำหรับใส่ผ้าเปียก, เสื้อผ้าเดินป่า และเสื้อผ้าเผื่อไว้เปลี่ยนตอนผ้าเปียก, จานชามส่วนตัว, กล้อง, รองเท้าควรเป็นรองเท้าเดินป่าที่สามารถลุยน้ำได้และแห้งเร็ว (ควรเป็นรองเท้าที่พร้อมลุย เพราะทริปนี้รองเท้าดูสู้ชีวิตมาก ^^), รองเท้าแตะพกไปด้วยเพื่อใส่เดินในแคมป์, ยานวดบรรเทาปวดกล้ามเนื้อ Neotika Palm, สเปรย์ Uniren, เพอสกิน, ไดฟิลีน, ยาคลายกล้ามเนื้อ แบบเม็ด, กระเป๋าเป้ใบเล็กสำหรับวันเดินขึ้นยอด

{ทั้งหมดควรรวมใส่ถุงกันน้ำไว้ ก่อนจะใส่เป้น้า} 

  • ส่วนถุงที่จะแบ่งให้ลูกหาบ แนะนำรวมไว้ในถุงเดียวกัน ใส่ถุงกันน้ำไว้ได้ เผื่อฝนตก
  • สิ่งที่ไม่ต้องพกไปก็ได้: ถุงเท้ากันทาก (เพราะเส้นทางนี้ไม่มีทากค่า)
น้ำเกลือซอฟคลีน น้ำเกลือขวดใสฉลากฟ้า
น้ำเกลือซอฟคลีน น้ำเกลือขวดใสฉลากฟ้า

{แนะนำ} น้ำเกลือขวดใสฉลากฟ้า ซอฟคลีน สายแคมป์สายเดินป่าน่าจะชอบ เพราะไอเท็มเดียวแต่ใช้ได้หลากหลายฟังก์ชั่นดีค่ะ ทั้งล้างแผล ล้างตา ล้างคอนแทคเลนส์ เช็ดสิว อมกลั้วปาก

พิกัด ร้านขายยาทั่วไป, 7-eleven
Shopee: https://shope.ee/3ATN6Oma3s

น้ำตกเปรโต๊ะลอซู
น้ำตกเปรโต๊ะลอซู
น้ำตกเปรโต๊ะลอซู
น้ำตกเปรโต๊ะลอซู
สภาพตอนเดินป่า น้ำตกเปรโต๊ะลอซู
สู้ชีวิต..แต่ชีวิตสู้กลับ 🥲
รองเท้าเดินป่า เส้นทางน้ำตกเปรโต๊ะลอซู
ลาก่อนรองเท้า 🥹 คู่นี้เพิ่งซื้อมาใส่ทริปที่ 2 เอง

อ่านเรื่องราวการเดินทางผจญภัยในอ.อุ้มผาง จ.ตาก ต่อได้ที่

น้ำตกทีลอเล…ไปโดยไม่ต้องลังเล

‘ดอยห้วยทู่’ เดินป่าหน้าฝน ฉบับคนไม่ลางาน

อ่านเรื่องราวการเดินป่าไทย ต่อได้ที่

พิชิตดอยหลวง ดอยหนอก พะเยา ขุนเขาแห่งศรัทธา เดินป่า 20 กม. ข้ามเขา 6 ลูก

ฟินแสงแรก ห้วยกุ๊บกั๊บ ชมพระอาทิตย์ลับขอบฟ้า เดินป่าขึ้นผาสามเหลี่ยม

เดินป่าน้ำตกสายรุ้งละอองดาว: ไปเป็นทาร์ซาน ไต่เชือก เดินป่า ลุยฝ่ากระแสน้ำ

การดำน้ำตัวเปล่า (ฟรีไดฟ์) ดีต่อใจยังไงบ้าง?

ฟรีไดฟ์ หรือการดำน้ำตัวเปล่า ช่วยเปิดมุมมองการเที่ยวทะเลให้ต่างไปจากเดิมได้ยังไงบ้าง? ร่างกายของคนที่ฟรีไดฟ์ ต้องเผชิญกับความท้าทายอะไรบ้างตอนดำดิ่งลงไปใต้ทะเล? เคทขอสรุปมาให้จากประสบการณ์ตรง ร่วมกับเนื้อหาที่คุณหมอโจ้ แห่งเพจ หมอๆ ตะลุยโลก และครูดร.โป้ แห่งเพจ Sea Mastermind อธิบายเอาไว้ตอนงาน TDEX บางส่วนดังนี้ค่า

freediver กำลังดำน้ำแบบฟรีไดฟ์

1 ฟรีไดฟ์ช่วยให้การไปทะเล ต่างจากเดิมยังไง ทำไมถึงติดใจการฟรีไดฟ์นักหนา?

  • ฟรีไดฟ์ช่วยให้ได้สัมผัสความสวยงามของโลกใต้ทะเลอย่างใกล้ชิดมากกว่าที่เคย (ทำให้เคทรู้สึกเสียดายทริปก่อนหน้านี้ตอนที่ยังฟรีไดฟ์ไม่เป็นมากก) โลกใต้ทะเลเคลื่อนที่ช้า เวลาเราแหวกว่ายไปจะเหมือนเห็นภาพสโลว์โมชั่นเคลื่อนผ่านไปต่อหน้า เวลาในโลกใต้น้ำต่างจากบนบกมาก เป็นความสวยงามที่ตรึงใจอย่างบอกไม่ถูก
  • ฟรีไดฟ์ช่วยให้ได้รู้จักร่างกายของตัวเองอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ตั้งแต่โตมาเพิ่งรู้สึกว่าเข้าใจปอดของตัวเอง ทั้งการทำงานของเขา และลิมิตของเขา ก็ตอนที่ได้มาฟรีไดฟ์นี่ละ
เกาะร้านเป็ดร้านไก่ ชุมพร
เกาะร้านเป็ดร้านไก่ ชุมพร / Cr. น้องยาส เพจ แบกเมียเที่ยว

บทความอื่นๆ เกี่ยวกับการฟรีไดฟ์:

ฟรีไดฟ์-การผจญภัย-กับลมหายใจเฮือกเดียว│PADI Free Diving

ทำไมการดำน้ำตัวเปล่า (ฟรีไดฟ์) ทำให้ฉันมีช่วงเวลาที่อิสระที่สุดในชีวิต

แนะนำจุด Dive Site ที่น่าไป สำหรับสายฟรีไดฟ์:

ดำน้ำฟรีไดฟ์ สะพานนาใต้ จ.พังงา

ดำน้ำเหมืองเก่า ขุมน้ำท่าแตง พังงา

ดำน้ำตัวเปล่า ฟินกับอ่าวสุเทพ หมู่เกาะสุรินทร์ ทริปไฟไหม้ 3 วัน 2 คืนก็ฟินได้

Freedive ส่องกองทัพกระเบนแมนต้า ที่ฮานิฟารูเบย์ มัลดีฟส์ │Wander More

2 การดำน้ำฟรีไดฟ์ให้ดี ขึ้นอยู่กับอะไรบ้าง?

ความเครียด การพักผ่อนที่เพียงพอ ความพร้อมของสภาพร่างกายและจิตใจก่อนการดำน้ำ การดื่มแอลกอฮอล์ เป็นหวัด ฯลฯ ล้วนมีผลต่อ performance ในการดำน้ำ รวมทั้งการเคลียร์หูได้ทั้งสิ้น ในบทเรียนของฟรีไดฟ์ ขั้นแรกจึงมีการสอนเรื่องการหายใจ และการผ่อนคลายร่างกายและจิตใจให้สบายๆ เพราะหากเรายิ่งเครียด หัวใจจะเต้นเร็ว = จะยิ่งผลาญออกซิเจนไปมากกว่าเดิม

สิ่งสำคัญคือ ร่างกาย สรีระของแต่ละคนไม่เหมือนกัน บางคนอาจมีปัญหาเรื่องเคลียร์หู ปวดหูเมื่อดำน้ำ บางคนอาจไม่มีปัญหาเรื่องนี้เลยก็ได้ (แต่เราสามารถฝึกฝนได้น้า)

เคทลองสังเกตหลายครั้ง ทริปไหนนอนดึก ตื่นเช้ามาไปดำน้ำ จะเกิดอาการวิ๊งได้ง่าย (อาการเหนื่อยหมดแรงเหมือนจะวูบ) เมื่อฟรีไดฟ์เป็นการพึ่งพาร่างกายเกือบร้อยเปอร์เซ็นต์ เราเลยยิ่งต้องใส่ใจเรื่องความพร้อมของร่างกายก่อนดำน้ำให้มากๆ

ฟรีไดฟ์ ดำน้ำตัวเปล่า
เกาะร้านเป็ดร้านไก่ ชุมพร / Cr. น้องยาส เพจ แบกเมียเที่ยว

3 ว่ายน้ำไม่เป็น เลยไม่กล้าเรียนฟรีไดฟ์?
ทักษะการว่ายน้ำและการดำฟรีไดฟ์ เป็นคนละทักษะกัน หากว่ายน้ำเป็น ช่วยเหลือตัวเองได้ ก็จะช่วยเพิ่มความมั่นใจในการฟรีไดฟ์ด้วย สรุปว่า ว่ายน้ำได้ ยิ่งดี.. ว่ายไม่ได้ ก็ยังเรียนฟรีไดฟ์ได้น้า

ดำน้ำฟรีไดฟ์ เกาะร้านเป็ดร้านไก่ ชุมพร
เกาะร้านเป็ดร้านไก่ ชุมพร / Cr. น้องยาส เพจ แบกเมียเที่ยว

4 ถ้าเรารูปร่างค่อนข้างใหญ่ เจ้าเนื้อ มีผลต่อการฟรีไดฟ์หรือไม่?

รูปร่างไม่มีผลต่อการฟรีไดฟ์เลยค่า สาวๆ สบายใจได้เลย ลองดูอย่างแมวน้ำ พริ้วซะไม่มี ^^ คุณหมอโจ้ยกตัวอย่างชาว Ama (อาม่า) ประเทศญี่ปุ่น ที่เป็นกลุ่มชาวบ้านที่อาศัยการดำน้ำตัวเปล่าเก็บหอยทะเลมาอย่างยาวนาน (เหมือนกับที่เกาะเซจู) ซึ่งชนกลุ่มนี้จะมีความเชื่อมาตั้งแต่สมัยก่อนว่า ยิ่งตัวใหญ่ ดูแข็งแรง ไขมันเยอะ จะดำน้ำได้ดี

ฟรีไดฟ์ ดำน้ำขุมน้ำท่าแตง พังงา เหมืองเก่า
ดำน้ำขุมน้ำท่าแตง พังงา เหมืองเก่า / Cr. น้องฮาล์ฟ เพจ นักผจญภัยใต้น้ำ
ชาว Ama ญี่ปุ่น ฟรีไดฟ
ชาว Ama ญี่ปุ่น ที่ดำรงวิถีชีวิตด้วยการฟรีไดฟ์ งมหาหอยทะเลมาอย่างช้านาน / Cr. ภาพโดย Kumi Kato
ชาวฟรีไดฟ์ Ama ญี่ปุ่น
ชาว Ama ญี่ปุ่น ที่ดำรงวิถีชีวิตด้วยการฟรีไดฟ์ งมหาหอยทะเลมาอย่างช้านาน / Cr. ภาพโดย Stefan Lin
งาน tdex 2022
เคทได้เข้าร่วมงาน TDEX และพูดคุยแชร์ประสบการณ์เรื่องการฟรีไดฟ์ กับหมอโจ้ แห่งเพจ หมอๆ ตะุลุยโลก และคุณครู ดร.โป้ ครูสอนฟรีไดฟ์ของเคทเอง จากสถาบันสอนดำน้ำ Sea Mastermind เมื่องาน TDEX 2022 ที่ผ่านมาค่ะ
ครูโป้ แห่ง sea mastermind
ครูโป้ เป็นครูแห่งครู ของการดำน้ำเลยก็ว่าได้ เพราะครูโป้เป็นครูที่สอนและ Certify คนที่จะจบออกไปเป็นครูสอนดำน้ำอีกทีค่ะ ^^
ครูโป้ยังเป็นเจ้าของหนังสือ Sea Spective ด้วยนะ

เพื่อนๆ สามารถเข้าไปดูไลฟ์ย้อนหลังได้จากลิงค์นี้ค่า: https://web.facebook.com/seamastermind/videos/413493193575434

สนใจเรียนฟรีไดฟ์ ติดต่อ Sea Mastermind ได้นะคะ เคทจบจากที่นี่ ได้เอาวิชาไปใช้ทุกครั้งที่ไปเที่ยวทะเล … ชีวิตที่ได้รู้จักการฟรีไดฟ์ คุ้มค่าจริงๆ ค่ะ 🙂

บทความอื่นๆ เกี่ยวกับการฟรีไดฟ์:

ฟรีไดฟ์-การผจญภัย-กับลมหายใจเฮือกเดียว│PADI Free Diving

ทำไมการดำน้ำตัวเปล่า (ฟรีไดฟ์) ทำให้ฉันมีช่วงเวลาที่อิสระที่สุดในชีวิต

แนะนำจุด Dive Site ที่น่าไป สำหรับสายฟรีไดฟ์:

ดำน้ำฟรีไดฟ์ สะพานนาใต้ จ.พังงา

ดำน้ำเหมืองเก่า ขุมน้ำท่าแตง พังงา

ดำน้ำตัวเปล่า ฟินกับอ่าวสุเทพ หมู่เกาะสุรินทร์ ทริปไฟไหม้ 3 วัน 2 คืนก็ฟินได้

Freedive ส่องกองทัพกระเบนแมนต้า ที่ฮานิฟารูเบย์ มัลดีฟส์ │Wander More

………

ฝากติดตามการเดินทางของเคทได้ที่:
Facebook: https://web.facebook.com/katewandermore
YouTube: https://www.youtube.com/channel/UCg1osBd51nmLKnPvmeG-JSQ
Instagram: https://www.instagram.com/wandermore1984

น้ำตกทีลอเล…ไปโดยไม่ต้องลังเล

ตอนเห็นภาพของน้ำตกทีลอเล แค่แว้บแรก..เคทก็ติดต่อจองทริปนี้โดยไม่ลังเล เป็นทริปที่ครบทุกรสแอดเวนเจอร์มาก ทั้งล่องแก่ง เดินป่า แคมป์ปิ้ง เล่นน้ำตก ในแบบที่ไม่เหนื่อยจนเกินไป แถมมีน้ำตกสวยตระการตาแบบนี้เป็นรางวัลอยู่ที่ปลายทาง

น้ำตกทีลอเล ตั้งอยู่ที่ อ.อุ้มผาง จ.ตาก ค่ะ เสน่ห์ของที่นี่คือเป็นสถานที่ที่เข้าถึงยาก ขาไปต้องล่องแก่งเข้าไปเท่านั้น ส่วนขากลับเราต้องเดินป่ากลับ รวดเดียวอีก 18 กม.ด้วยนะ

📍พิกัด: น้ำตกทีลอเล อ.อุ้มผาง จ.ตาก

📸ขอบคุณภาพจากพี่คิม พี่แต้ว พี่เอ และเพื่อนๆ ผู้ร่วมทริปค่า 😊

รวมทริปเที่ยวแอดเวนเจอร์ในไทย ท้าให้ไปลอง

ผจญภัยตามเส้นทางน้ำตก ในมหาถ้ำ ‘ลำคลองงู’

โป่งแง้น..เสน่ห์ของหมู่บ้านน้อยในป่าใหญ่

พิชิตดอยหลวง ดอยหนอก พะเยา ขุนเขาแห่งศรัทธา เดินป่า 20 กม. ข้ามเขา 6 ลูก

แอ่วหมู่บ้านลีซอ นอนนับดาว เฝ้าทะเลหมอก @ดอยหลวงเชียงดาว│Wander More

ฟินแสงแรก ห้วยกุ๊บกั๊บ ชมพระอาทิตย์ลับขอบฟ้า เดินป่าขึ้นผาสามเหลี่ยม

ล่องแก่ง น้ำตกทีลอเล
ล่องแก่ง น้ำตกทีลอเล

เคทไปคนเดียวอีกเช่นเคย ก็อาศัยไปจอยกรุ๊ปเอาค่ะ ปรากฏว่าชอบเพื่อนใหม่ในกรุ๊ปนี้มาก น่ารักทุกคนเลย บางคนก็ยังคุยกันหลังจบทริปเลยว่าจะไปต่อทริปอื่นๆ ด้วยกันอีกในครั้งหน้า อยากหาทริปล่องแก่งแบบโหดๆ ดูสักครั้ง ^^

ทริปทีลอเล สรุปคร่าวๆ ถึงสิ่งที่ต้องเจอ มีดังนี้

Day 1 ล่องแก่งเข้าป่าไปจุดตั้งแคมป์ และเข้าไปชมน้ำตกทีลอเล ตกเย็นตั้งแคมป์ในป่า

Day 2 เดินป่ากลับ ระยะทางประมาณ 18 กม. (เดินไม่ยากเลยค่ะ แถมมีน้ำตกให้เล่นระหว่างทางด้วยนะ)

Day 3 เช้ามืด ที่รีสอร์ท ชมวิวพระอาทิตย์ขึ้นที่ดอยหัวหมด + แวะคาเฟ่ระหว่างทาง + เดินทางกลับ กทม.

เดินป่า

ในการล่องแก่งไปน้ำตกทีลอเลในวันแรก เพื่อที่จะเข้าไปยังน้ำตกทีลอเล และไปหาจุดที่เราตั้งแคมป์ในป่า เราต้องแบ่งนั่งเรือกันไปลำละ 5 คนค่ะ โดยเขาจะมีฝีพายให้ จะเรียกว่า ‘ล่องแก่ง’ ก็ไม่เชิง เพราะเราไม่ต้องพายเอง และเกาะแก่งก็ไม่ได้โหดขนาดนั้น มีบางจุดที่ผ่านยากๆ ให้พอได้ลุ้นและกรี๊ดกันพอเป็นพิธี (ถ้าจุดไหนยากจริงๆ เขาจะแวะให้เราลงจากเรือก่อน) ค่อนข้างกินเวลานานเป็นครึ่งวันเหมือนกันค่ะกว่าจะไปถึง ส่วนใหญ่ความเร็วเรือจะล่องไปช้าๆ ต๊ะตอนยอนชมวิวไปเรื่อยๆ อย่างชิลเลยค่ะ ^^

ล่องแก่งน้ำตกทีลอเล
วิวริมทางล่องแก่ง
ล่องแก่งเข้าไปหาน้ำตก

ล่องแก่งแบบต๊ะตอนยอนไปเรื่อยๆ เราก็มาถึงจุดหมายปลายทาง เป็นน้ำตกทีลอเลที่เราอยากเจอ ซึ่งเหมือนเป็นเพชรเม็ดงาม ซ่อนอยู่ในผืนป่าตะวันตกผืนนี้…สวยจนลืมหายใจไปเลย น้ำตกทีลอเลกลายเป็นรางวัลให้เราได้ชมกันอย่างเต็มอิ่ม จนลืมคิดไปว่าสิ่งที่ยากกว่ารออยู่! คือเราจะย้อนแม่น้ำเพื่อกลับไปยังจุดตั้งแคมป์ยังไงละทีนี้?? อันนี้ไม่อยากสปอย ไว้เพื่อนๆ ไปเจอเองนะคะ ^^

มาถึงน้ำตกทีลอเล
น้ำตกทีลอเล อ.อุ้มผาง จ.ตาก
ปีนขึ้นน้ำตกทีลอเล
น้ำตกทีลอเล
น้ำตกทีลอเล อ.อุ้มผาง จ.ตาก
ยืนมองน้ำตกทีลอเล
น้ำตกทีลอเล อ.อุ้มผาง จ.ตาก
น้ำตกทีลอเล อ.อุ้มผาง จ.ตาก
น้ำตกทีลอเล อ.อุ้มผาง จ.ตาก
น้ำตกก่อนที่จะถึงทีลอเล
น้ำตกก่อนที่จะถึงทีลอเล

ตกหัวค่ำก็ถึงเวลาที่เราค้างแรมกันในป่า 1 คืนค่ะ ซึ่งเป็นเวลาที่ดีที่ได้นั่งรวมตัวกันรอบกองไฟ แนะนำตัวและทำความรู้จักกับเพื่อนใหม่ (จริงๆ หลังจากได้ล่องแก่งทุกคนก็เริ่มรู้จักกันมาระดับนึงแล้ว) รวมทั้งได้ชิม ‘ผัดผักกูด’ ฝีมือทำอาหารของพี่ๆ ฝีพายด้วย ส่วนช้างที่เขาแบกสัมภาระมาให้เราเพื่อใช้ในเช้าวันถัดไป ก็จะนอนคนละฝั่งของแม่น้ำกันค่ะ

ทำผัดผักกูด
พี่ๆ กำลังทำผัดผักกูดให้ทานค่ะ อร่อยมากก

บรรยากาศตอนนอนเต๊นท์ยอมรับว่าหวิวๆ เหมือนกันค่ะ เพราะถึงแม้ว่าฝูงช้างจะนอนคนละฝั่งแม่น้ำกับเรา แต่ก็แอบได้ยินเสียงเขาเรียกหากัน เสียงช้างในป่าก้องกังวานไปทั่วผืนไพร ฟังไปก็น่ากลัวอยู่เหมือนกันนะ (เพิ่งรู้ในวันต่อมาว่า หนึ่งในฝูงเขามีลูกน้อยค่ะ เป็นเสียงที่เขาเรียกหาลูกน้อยวัยกำลังซน ออกไปทางดุลูกมากกว่า) จนคืนนั้นเคทเก็บไปฝันว่า มีช้างมาถีบเต๊นท์ค่ะ ตื่นเช้ามาเห็นขี้ช้างกองใหม่อยู่ข้างเต๊นท์ เลยได้แต่เถียงกับตัวเองว่า เอ..นี่เราฝันหรือเรื่องจริงหว่า 5555+

ตั้งแคมป์นอนกลางป่า

เช้าวันต่อมาก็เตรียมตัวเตรียมใจเดินป่ากันยาวๆ แม้ระยะทางจะไกล 18 กม. แต่ก็เดินไม่ยากเลยค่ะ ส่วนใหญ่เป็นทางราบค่อนข้างเยอะ มีชันแค่ตอนจุดสตาร์ทให้ได้หอบกันแค่จุดนั้น แต่ก็อย่าลืมใส่รองเท้าเดินป่ามานะคะ แนะนำรองเท้าที่ดอกยางกันลื่นได้ดี เพราะบางจุดทางก็เป็นดินร่วนๆ ลื่นอยู่เหมือนกันค่ะ

เดินป่า น้ำตกทีลอเล
เดินป่า น้ำตกทีลอเล

ปรากฏว่าเดินไปเดินมา โดนน้องช้างแซงไปซะนี่ เลยนึกขึ้นมาได้ว่าช้างเขาเดินป่าเก่งมากค่ะ (วิ่งเก่งด้วย -_-) จุดไหนที่เราคิดว่าช้างน่าจะลื่น เพราะเป็นทางชัน ปรากฏว่าเขาเดินได้หมด (เขามีวิธีย่อเข่าหน้า แล้วค่อยๆ สไลด์ลง) เรื่องหุ่นไม่ได้เป็นอุปสรรคในการเดินของเขาเลย

ช้างแบกสัมภาระ เดินป่า
ช้างแบกสัมภาระให้
เดินป่า อุ้มผาง จ.ตาก
ลำธารที่พบระหว่างทางเดินป่าเส้นทางน้ำตกทีลอเล

พอเดินป่า สิ่งที่ควรมีติดตัวคือเตรียมน้ำไว้เยอะๆ ค่ะ ไม่ก็อย่าลืมเอาที่กรองน้ำมา เผื่อไว้กรองน้ำดื่มที่แหล่งน้ำ เพราะระยะทางที่เราเดินค่อนข้างไกล พอเราเดินกันจนเหนื่อย ก็มีจะแหล่งน้ำระหว่างทาง บางจุดเป็นน้ำตกเล็กๆ ให้เราได้ลงเล่น ลงแช่น้ำกันด้วย สดชื่นมากเลย

เดินป่า น้ำตก
แบกเรือกลับ

ใครที่อยากได้ทริปชิลล์ และอยากเดินป่าแบบไม่โหดมาก แถมได้รางวัลคุ้มๆ เป็นน้ำตกทีลอเลสวยๆ แบบนี้ ลองมาที่นี่กันนะคะ ถ้าเวลาเหลือ อย่าลืมไปชมพระอาทิตย์ขึ้นที่ดอยหัวหมดด้วยน้า

รวมทริปเที่ยวแอดเวนเจอร์ในไทย ท้าให้ไปลอง

ผจญภัยตามเส้นทางน้ำตก ในมหาถ้ำ ‘ลำคลองงู’

โป่งแง้น..เสน่ห์ของหมู่บ้านน้อยในป่าใหญ่

พิชิตดอยหลวง ดอยหนอก พะเยา ขุนเขาแห่งศรัทธา เดินป่า 20 กม. ข้ามเขา 6 ลูก

แอ่วหมู่บ้านลีซอ นอนนับดาว เฝ้าทะเลหมอก @ดอยหลวงเชียงดาว│Wander More

ฟินแสงแรก ห้วยกุ๊บกั๊บ ชมพระอาทิตย์ลับขอบฟ้า เดินป่าขึ้นผาสามเหลี่ยม

โป่งแง้น..เสน่ห์ของหมู่บ้านน้อยในป่าใหญ่

ถ่อแพเข้าไปพัก แล้วเธอจะรักมั้ย 🥰 โป่งแง้น..เสน่ห์ของหมู่บ้านน้อยในป่าใหญ่ ที่ต้องถ่อแพ ไม่ก็เดินป่าเข้าไป (เพราะรถเข้าไม่ถึง) เป็นโฮมสเตย์ที่อยู่ในหมู่บ้านเล็กๆ ของชาวเขา ในอำเภอแม่แตง จ.เชียงใหม่ จะบอกว่าทริปชิลก็ไม่ใช่ ลุยก็ไม่เชิง อารมณ์แบบนัวๆ ผสมกัน เพราะเวลาล่องแพ น้ำที่ไหลเชี่ยวในบางจุด บวกกับเกาะแก่งร่องหินต่างๆ ทำให้ได้ฟีลแบบล่องแก่งเหมือนกันค่ะ บวกกับอากาศหนาวๆ เย็นเฉียบช่วงหน้าหนาว เชื่อเถอะว่าไม่มีใครอยากตกน้ำ! 555+ 😂

ทริปนี้ตัวคนเดียวก็ไปจอยทริปเอาได้นะ เพราะเคทไปกับ สวนหลังบ้าน เรียกได้ว่า แต่ละคน จะไปเดี่ยว ไปคู่ ก็ค่อยไปรู้จักกันที่นั่น เป็นทริปที่อบอวลด้วยมิตรภาพ สนุก ชิล มันส์ หนาวตัวสั่น ครบทุกรส!🥶🤧

🎯พิกัด โป่งแง้นฮิมน้ำโฮมสเตย์ แม่แตง จ.เชียงใหม่ (เคทไปมาเมื่อช่วงต้นธันวา 2564 ค่า)

📸🙇‍♀️ขอบคุณภาพจาก พี่มั่ม พี่หนอม น้องปอนด์ และเพื่อนๆ ผู้ร่วมทริปนะคะ ^^

ถ่อแพ ทั้งขาไป-กลับ เพื่อเข้าไปพักโฮมสเตย์ในหมู่บ้านโป่งแง้น
ถ่อแพ ทั้งขาไป-กลับ เพื่อเข้าไปพักโฮมสเตย์ในหมู่บ้านโป่งแง้น

เวลาถ่อแพเข้าไป จะมีน้องๆ จากโฮมสเตย์เป็นคนช่วยถ่อให้น้า ปลอดภัยหายห่วงค่ะ น้ำไม่ลึกด้วย แพลำนึงนั่งได้ 5 คนเลยนะ ไม่ต้องกลัวเหงาค่ะ
เราเลยต้องมีคนอาสาช่วยคัดท้ายแพให้เขาด้วย ใช้เวลาขาไป 2-3 ชม. ขึ้นอยู่กับว่าน้ำหนักแพ หนักมากไหม

ส่วนแพของเคทถึงที่พักหลังสุด สงสัยจะหนักคนอ่ะค่ะ 😂🤣😅

รวมทริปหน้าหนาว น่าไป:

ฟินแสงแรก ห้วยกุ๊บกั๊บ ชมพระอาทิตย์ลับขอบฟ้า เดินป่าขึ้นผาสามเหลี่ยม

แอ่วหมู่บ้านลีซอ นอนนับดาว เฝ้าทะเลหมอก @ดอยหลวงเชียงดาว│Wander More

แม่กลางหลวง: กระต๊อบ ทุ่งนา ผืนป่า และกาแฟ│Wander More

แอ่วความสุขที่อบอวลเหนือกาลเวลาในเชียงราย พักสบายที่ ‘สุขนิรันดร์’

นอนกลางไร่ชาบนถิ่นจีนยูนนาน แหล่งบรรจบสามวัฒนธรรม ที่บ้านรักไทย แม่ฮ่องสอน │Wander More

พิชิตดอยหลวง ดอยหนอก พะเยา ขุนเขาแห่งศรัทธา เดินป่า 20 กม. ข้ามเขา 6 ลูก

โป่งแง้น
โป่งแง้น
ภาพตอนถ่อแพเข้าไป จากมุมโดรนของพี่มั่ม / Cr. พี่มั่ม สวนหลังบ้าน
แพของเรา 😄/ Cr. พี่มั่ม สวนหลังบ้าน

แพของเราล่องไปตามลำน้ำในป่าใหญ่ สองข้างทางจะเห็นวิวสวยๆ พระอาทิตย์ทอแสง เป็นประกายวิบวับในลำน้ำ

อากาศดีจริงๆ
ถ่อแพ โป่งแง้น
ไหนแพก่อน 😂😂

ลิสต์สิ่งของสำหรับทริปนี้

– อุปกรณ์กันน้ำ เช่น กล้องกันน้ำ ซองใส่มือถือกันน้ำ กระเป๋ากันน้ำ ถุงกันน้ำสำหรับใส่เสื้อผ้า

– อุปกรณ์กันหนาว ลองจอน ถุงเท้า เสื้อกันหนาว ถุงนอน (ขนมาเถอะฮะ ช่วงหน้าหนาวที่นี่มันหนาวจริงๆ นะ 🥶🤧)

– ครีมกันแดด แว่นกันแดด หมวก ยากันแมลง
– ทริปนี้ไม่มีทากน้า เพราะเป็นทริปแบบถ่อแพไปกลับ ไม่ได้เดินป่าค่ะ
– เสื้อไว้ใส่ลงแพ 2 ชุด ชุดแบบทะมัดทะแมงเตรียมเปียก
– เสื้อผ้าแห้งอีก 2 ชุด ไว้เปลี่ยนหลังจากขึ้นแพ
– ชุดนอน
– อุปกรณ์อาบน้ำอาจไม่ต้องเอามา เพราะไม่ได้อาบ มันหนาว 5555+
– ทิชชู่เปียก
ฯลฯ

มีน้องซ้อมตกแพละ 1 😅 สังเกตได้ว่าน้ำจะไม่ลึกมาก แต่ที่ไม่มีใครอยากตกน้ำกันเพราะมันหนาวมากค่าาา + บางจุดอาจมีหินแหลมๆ ใต้น้ำ 🥶

Cr. ภาพนี้จากน้องปอนด์ค่า

ต๊ะตอนยอนล่องแพมาหลายชั่วโมง ในที่สุดก็มาถึงแล้ว! หมู่บ้านโป่งแง้น แง้นๆๆๆ ที่นี่มีหลายโฮมสเตย์น้าา ส่วนที่เคทมากับ สวนหลังบ้าน จะมาพักที่บ้านสอน้อย ชื่อ ‘โป่งแง้นฮิมน้ำโฮมสเตย์’ –> โป่งแง้นฮิมน้ำโฮมสเตย์

หมู่บ้านโป่งแง้น
หมู่บ้านโป่งแง้น น่ารักไหมละ 🙂
ผิงไฟ โป่งแง้น
ทางที่พักจะก่อไฟไว้ให้ผิงเอาไออุ่น+ต้มกาแฟ ตอนกลางคืนก่อนนอนจะมานั่งล้อมวงคุยกันที่ตรงนี้
โป่งแง้นฮิมน้ำโฮมสเตย์
บรรยากาศหน้าโฮมสเตย์ตอนเช้าๆ
กันแดดสายลุย พรีมโนบุ กันน้ำกันเหงื่อสูงสุด

นั่งแพนาน ทั้งไป-กลับ อย่าลืมพกครีมกันแดดไปด้วยนะ เคทชอบใช้ตัวนี้ หลอดส้ม พรีมโนบุ เป็นทั้งกันแดด+บำรุงผิว ชอบที่กันน้ำกันเหงื่อสูงสุด ขึ้นจากน้ำตัวยังขาวจั๊วะ น้ำเป็นหยดๆ ไม่เข้าผิวเลย ทาได้ทั้งหน้า-ตัว มีคอลลาเจนบำรุงผิวด้วยน้า

พิกัด: Preme Nobu (Thailand)
Shopee: https://shp.ee/b9afjr5

หลามปลา
หลามปลา
หลามปลา

มาดูน้องเขา ‘หลามปลา’ ด้วยเมนูปลาที่จับเอง น้องบอกปีนึงได้กินครั้งเดียว เป็นปลาตามฤดูกาล เคทจำชื่อปลาไม่ได้ เขาจะเอาเครื่องผักและปลาใส่ในกระบอกไม้ไผ่ เอามาหลาม ผิงไฟ จากนั้นพอสุกแล้วก็ยกเสิร์ฟ อร่อยมากค่ะ 😄

หลามปลา
เมนูปลา ที่ได้จากการปรุงในกระบอกไม้ไผ่ รสชาติจะออกแนวต้มแซ่บปลาค่า แซ่บนัว
มื้อเช้าที่โป่งแง้น
มื้อเช้า ข้าวต้ม+ปลาทอด (ตามฤดูกาล)+ไข่ต้ม นั่งกินที่ระเบียง ห้อยขาดูวิวเช้าๆ อากาศหนาวๆ ฟินนนน 😄
มื้อเช้า ที่โป่งแง้น
ข้าวต้มหม้อใหญ่เลย
มื้อเช้าที่โป่งแง้น
ควายเผือก ควายเล่นน้ำ โป่งแง้น
ระหว่างทางล่องแพ สิ่งที่จะได้เห็นบ่อยคือ ควายเผือกจ้าาา ใครโชคดีมาทันเห็นฝูงควายเล่นน้ำก็มีนะ ส่วนน้องตัวนี้เห็นเขาเล็มๆ กินหญ้าอยู่แอบหลังพุ่มไม้ค่ะ 😘
โป่งแง้น
ถ่อแพ โป่งแง้น
น้ำเชี่ยวในบางจุด สนุกดีค่ะ

ฝากติดตามเรื่องราวการเดินทางผจญภัยของเคทได้ที่ https://web.facebook.com/katewandermore ค่าา ^^

รวมทริปหน้าหนาว น่าไป:

ฟินแสงแรก ห้วยกุ๊บกั๊บ ชมพระอาทิตย์ลับขอบฟ้า เดินป่าขึ้นผาสามเหลี่ยม

แอ่วหมู่บ้านลีซอ นอนนับดาว เฝ้าทะเลหมอก @ดอยหลวงเชียงดาว│Wander More

แม่กลางหลวง: กระต๊อบ ทุ่งนา ผืนป่า และกาแฟ│Wander More

แอ่วความสุขที่อบอวลเหนือกาลเวลาในเชียงราย พักสบายที่ ‘สุขนิรันดร์’

นอนกลางไร่ชาบนถิ่นจีนยูนนาน แหล่งบรรจบสามวัฒนธรรม ที่บ้านรักไทย แม่ฮ่องสอน │Wander More

พิชิตดอยหลวง ดอยหนอก พะเยา ขุนเขาแห่งศรัทธา เดินป่า 20 กม. ข้ามเขา 6 ลูก

ผจญภัยตามเส้นทางน้ำตก ในมหาถ้ำ ‘ลำคลองงู’

ทริปที่ได้ชื่อว่าจองยากที่สุดอีกแห่งหนึ่งในไทย! ‘ลำคลองงู’ One Day Trip สั้นๆ ใกล้ๆ แค่กาญจนบุรีนี่เองค่ะ แต่มันส์มากกก ใช้แต้มบุญไปเยอะเลย แหะๆ -_-  เป็นกิจกรรม ผจญภัยตามเส้นทางน้ำตก ที่เคทเคยบอกไว้ว่าคล้ายๆ กับที่เคยไปที่เซบู ฟิลิปปินส์

หลังจากทางอุทยานปิดไปนานมากช่วงโควิด ในที่สุดก็ได้ไปเยือนลำคลองงูสักที ^^

Tips:

🔹 คนเดียวก็ไปได้: ลำคลองงู เป็นทริปที่จองยากอีกทริปหนึ่งในไทยค่ะ เพราะแต่ละกรุ๊ปจะจำกัดนักเดินทางไว้ที่ 10 คน ต่อเจ้าหน้าที่สต๊าฟ 3 คน ด้วยเหตุผลเรื่องความปลอดภัย ใครอยากไป แม้จะไปแค่คนเดียว แนะนำให้ไปจอยกับทัวร์ที่จองไว้ล่วงหน้าแล้ว (บางทัวร์ต้องจองกันข้ามปีก็มีค่า) จะสะดวกกว่าโทรจองเองน้า

🔹 รองเท้า: เลือกรองเท้าที่พร้อมลุยน้ำได้ กันลื่นด้วย และพร้อมเดินป่าระยะสั้น

🔹 ของติดตัว ควรเอาใส่กระเป๋ากันน้ำไปไม่เกิน 5 ลิตร ที่สำคัญอย่าลืมน้ำดื่ม (เพราะด้านในไม่มีที่ให้เติมค่า)

🔹 ควรพกยาแก้แพ้ ติดตัวไปด้วย เช่น แอนเตอแกน ฯลฯ เพราะมีผึ้งเยอะ + บางคนอาจเกิดผื่นแพ้

Cr. ขอบคุณภาพบางส่วนจากป๋านิ่ม คลุกฝุ่นทัวร์ / พี่เอ

📍อุทยานแห่งชาติ #ลำคลองงู อ.ทองผาภูมิ, #กาญจนบุรี

🎦VDO: https://web.facebook.com/katewandermore/videos/948200449186868/

✈ ทริป #Canyoneer ที่ #เซบู #ฟิลิปปินส์ –> โดดวัดใจ ผจญภัยตามเส้นทางน้ำตกที่ Cebu ฟิลิปปินส์ (Canyoneer) │Wandermore

*คลิปนี้ฟุตเทจมีปัญหา sd card error ในกล้อง GoPro 10 นะคะ ตอนเคทไปที่ลำคลองงู ดันใช้เป็นกล้องหลักเพียงกล้องเดียว เครื่องบังคับให้ format file ไฟล์เลยหายไปทั้งทริปเลยค่า T^T ให้ร้านคอมกู้ให้เลยได้ไฟล์มาแค่ส่วนหนึ่ง และไม่ค่อยสมบูรณ์ มีแถบสีขึ้นถี่ๆ โทษทีน้า T^T*
— อุทยานแห่งชาติลำคลองงู, อ.ทองผาภูมิ, กาญจนบุรี
ลำคลองงู
ลำคลองงู

ทริปถ้ำลำคลองงู เพิ่งเปิดปีนี้นี่เองค่ะ หลังจากที่ปิดไปหลายปีจากเหตุการณ์โควิด เรียกได้ว่าทำเอาขาลุยคิดถึงกันมาก

จุดเริ่มทริป ก็จะสตาร์ทด้วยการนั่งรถกระบะเข้าไปยังจุดเริ่มเดิน จากนั้นเมื่อเราได้รับชุดชูชีพแล้ว ก็จะเริ่มเดินป่าไปตามแนวเส้นทางธรรมชาติผานกนางแอ่น

ข้อเสียคือ ถ้ามาช่วงอากาศร้อน ก็ต้องทำใจหน่อยค่า เพราะตอนเดินป่าจะร้อนมากก 555 อย่าลืมเอาหมวกมาด้วยน้า

ลำคลองงู
หินเอเลี่ยน ลำคลองงู กาญจนบุรี

จุดนี้จะเรียกว่า ‘หินเอเลี่ยน’ ค่ะ เป็นจุดโดดน้ำจุดสุดท้าย (และสูงสุดด้วย!)

ที่นี่จริงๆ จะมีเสาหินปูนในถ้ำที่สูงที่สุดในโลกด้วยนะคะ แต่ปีนี้ต้องปิดไป ไม่ให้เข้า เพราะทางจนท.บอกว่ามีช้างป่าอยู่โขลงนึงปักหลักอยู่ เลยปิดเพื่อความปลอดภัยค่า

ที่เที่ยวใกล้กรุง:

‘น้ำตกผาแดงซับพลู’ น้ำตกลับใกล้กรุง มวกเหล็ก สระบุรี

8 ที่เที่ยวกาญจนบุรี หนีกรุงไปกอดธรรมชาติ

Rongsi Studio เกาะเกร็ด พักโฮมสเตย์ในโรงสีอายุกว่าร้อยปี กับวิวดีลื้มมม

ลำคลองงู
เดินป่ามาเรื่อยๆ จะได้มุดถ้ำมืดระยะทางสั้นๆ ค่ะ เมื่อโผล่ออกมาก็จะเจอถ้ำผานกนางแอ่นอลังการแบบนี้ สวยมากเลย
โดดน้ำตก
โดดน้ำตกนางครวญ ลำคลองงู

จุดโดดแรก สูง 3 เมตร แต่สำหรับคนกลัวความสูงอย่างเคทนี่ ยืนทำใจอยู่นานมาก เพื่อนใหม่ในกรุ๊ปต้องบิ้วท์กันจนเหนื่อย 😂😅

สุดท้ายก็จำใจโดดค่ะ เพราะถ้าไม่โดดอาจโดนผึ้งต่อยแทน!

ที่นี่ผึ้งเยอะน้า เคทเดินป่ามาหลายทริป เจอผึ้งมาบ้าง แต่ไม่เคยโดนต่อยเลย มาโดนต่อยเอาที่นี่ที่แรก 😂🤣 ดีที่เอาเหล็กไนออกทัน เลยไม่แพ้ค่ะ

แนะนำให้ใส่กางเกงขายาวแบบเลคกิ้งมิดชิดมานะคะ ถ้าใส่กางเกงขาสั้น ผึ้งอาจจะบินเข้าได้ ไม่ก็เจอปัญหาผื่นแพ้ค่า

ผจญภัยในมหาถ้ำ ลำคลองงู
ลำคลองงู

สิ่งที่ชอบอีกอย่างนึงในทริปนี้คือการได้ลอยคอในน้ำเย็นฉ่ำ กระแสน้ำค่อนข้างแรงเหมือนกันค่ะ จนแทบไม่ต้องว่ายเลย น้ำจะพัดไปข้างหน้าเอง จุดไหนที่น้ำไหลแรงมาก ทางเจ้าหน้าที่จะมีเชือกขึงไว้ให้ค่ะ เคทมองว่าที่นี่น้ำไม่ค่อยลึกเมื่อเทียบกับที่เซบู ฟิลิปปินส์ ใครกลัวน้ำก็ไม่ต้องกังวลน้า

เดินป่า ลำคลองงู

เดินป่า ทางชันบ้างแต่ไม่มาก รองเท้าที่ใส่มาควรรัดส้น ทะมัดทะแมง ใส่ลุยน้ำได้ กันลื่นได้ และเหมาะกับการเดินป่าด้วยน้า

เคทใส่รองเท้าแบบดำน้ำมาค่ะ กันลื่นได้ระดับหนึ่ง แต่แพ้ทางดินเหนียว ยิ่งเป็นกรุ๊ปรองสุดท้าย ทางเดินจะยิ่งลื่น และเปียกแฉะมาก จนเคทลื่นสไลด์เกือบตกเขาไปเลยตอนใกล้จนทริป ดีที่มีน้องคนนึงในกรุ๊ปที่เดินตามมา คว้าตัวไว้ได้ทันค่ะ 🙏😇 ใช้แต้มบุญไปเยอะเลยทริปนี้

ต้องขอบคุณน้องคนนั้นมากที่ช่วยไว้ ไม่งั้นคงไม่ได้รอดมานั่งเขียนรีวิวนี้ 😄😅

ลำคลองงู
ลำคลองงู

อีกมุมฮิตที่คนชอบมาถ่ายภาพกันค่ะ ทริปนี้กล้องสำคัญมากนะเพราะเรามีโอกาสแค่ครั้งเดียว

✏️แนะนำให้ใช้กล้องหลักมากกว่าหนึ่งตัว เพราะเคทมีบทเรียนจากทริปนี้ว่า ใช้กล้อง GoPro10 แค่ตัวเดียวแล้วมีปัญหา SD card error บังคับให้ format file ที่ถ่ายมาทั้งหมด (=กล้องบังคับให้ลบไฟล์ทั้งหมด) ภาพและวิดีโอเลยหายเกลี้ยงเลยค่ะ ต้องให้ร้านคอมกู้ไฟล์ให้ ไฟล์ที่ได้มาก็ไม่ค่อยสมบูรณ์ เสียดายโอกาสมากๆ ฝันร้ายของนักเดินทางเลยค่ะ มีคนหลายคนเคยแชร์ปัญหานี้ไว้ใน YouTube ลองเข้าไปดูกันได้นะ

หรือลองเข้าไปดูปัญหาที่มีเพื่อนๆ แชร์ในกรุ๊ปนี้ได้นะคะ https://www.facebook.com/groups/GoProUserGroupThailand/?ref=share

✏️มือถือแนะนำใส่ซองกันน้ำไว้ที่ง่ายต่อการดึงออกมาถ่ายภาพและวิดีโอ ส่วน Gopro ควรใส่เฮ้าส์ซิ่งมาด้วยเพราะต้องโดดลงน้ำ กระแทกน้ำแรง ใส่เฮ้าส์ซิ่งไว้อุ่นใจกว่าค่ะ 🙃

หินเอเลี่ยน ลำคลองงู
เสาหินปูน

ที่นี่จริงๆ จะมีเสาหินปูนในถ้ำที่สูงที่สุดในโลกด้วยนะคะ (สูงกว่าในภาพนี้อีกนะ) แต่ปีนี้ทางอุทยานต้องปิดไป ไม่ให้เข้า เพราะทางจนท.บอกว่ามีช้างป่าอยู่โขลงนึงปักหลักอยู่ เลยปิดเพื่อความปลอดภัยค่ะ 🐘

ลำคลองงู
หินเอเลี่ยน
ลำคลองงู
ผึ้งตอม ลำคลองงู
ผึ้งตอมเยอะมากค่ะ -_-

ที่เที่ยวใกล้กรุง:

‘น้ำตกผาแดงซับพลู’ น้ำตกลับใกล้กรุง มวกเหล็ก สระบุรี

8 ที่เที่ยวกาญจนบุรี หนีกรุงไปกอดธรรมชาติ

Rongsi Studio เกาะเกร็ด พักโฮมสเตย์ในโรงสีอายุกว่าร้อยปี กับวิวดีลื้มมม

ดำน้ำฟรีไดฟ์ สะพานนาใต้ จ.พังงา

ดำน้ำฟรีไดฟ์ สะพานนาใต้ หากใครเป็นสายฟรีไดฟ์ (ดำน้ำตัวเปล่า) แล้วแวะเวียนมาเที่ยวภูเก็ต-พังงา จุดดำน้ำฟรีไดฟ์สะพานนาใต้ จ.พังงา ก็ทำให้เราได้ภาพถ่ายใต้น้ำที่สวยแปลกตาไปอีกแบบนะ ^^

เป็นครั้งแรกที่เคทได้ Shore Dive มุดใต้สะพานไปเรื่อยๆ ความท้าทายของการดำน้ำฟรีไดฟ์สะพานนาใต้ คือต้องควบคุมทิศทางการว่ายให้ดีๆ ต้องคอยหลบเสาสะพานที่มีตัวเพรียงเกาะอยู่เต็ม เพราะหากโดนเข้าไปละก็ อาจบาดเนื้อได้แผลเป็นทางยาวกลับบ้านได้ง่ายๆ เลยล่ะ -_-

“ข่าวร้ายครับ..มีพี่ที่ผมรู้จักบอกว่าฝูงปลาหายไปหมดแล้ว เพิ่งไปดำมาเมื่อวันก่อน”

น้องฮาล์ฟ ช่างภาพของเราจากเพจ นักผจญภัยใต้น้ำ ทักไลน์มาบอกเคท ก่อนที่เคทและน้องแนทเตรียมตัวบินไปภูเก็ต 2 วัน ในใจก็คิดว่าเอายังไงดี ถ้าไม่มีฝูงปลาให้ถ่ายรูปด้วยก็คงต้องเปลี่ยนโลเคชั่นใหม่ เลยคุยปรึกษาน้องฮาล์ฟกันอยู่พักนึง แต่เราก็หาโลเคชั่นใกล้ๆ เหมาะๆ ไม่ได้อีกแล้ว

นอกจากสะพานนาใต้แล้ว ภูเก็ต-พังงา ก็ยังมี “สะพานถาวร” ที่เป็นจุดดำฟรีไดฟ์มุดสะพานอีกแห่งนึงค่ะ แต่ฝูงลูกปลาที่สะพานถาวรก็ได้ข่าวว่าหายไปแล้วเช่นเดียวกัน (น่าจะโดนอวนลากไป T^T) นอกจากสะพานนาใต้แล้ว เราก็ดูเหมือนว่าไม่มีทางเลือกอื่น

“ลองไปดูหน้างานอีกทีก็แล้วกัน…ถ้าไม่มีปลา ก็ไม่เป็นไร” เคทคิดอยู่ในใจ และโทรไปบอกน้องแนท ฟรีไดฟ์บัดดี้ของเคท ว่าให้ทำใจไว้ล่วงหน้า หากเราไม่เจอน้องฝูงปลาแล้ว…

แต่ด้วยความที่น้องฮาล์ฟน่าจะทำบุญมาด้วยแพลงตอน พอไปดำน้ำฟรีไดฟ์ที่สะพานนาใต้เข้าจริง เราก็เจอฝูงปลาจนได้!

ซึ่งนอกจากมีฝูงปลาให้ถ่ายรูปสวยๆ กันแล้ว ยังเจอน้องปลาปักเป้าขี้อายตัวนึงด้วย

บริเวณเสาสะพาน นอกจากจะมีตัวเพรียงเกาอยู่เต็มไปหมดแล้ว ยังสังเกตได้ว่ามีกัลปังหาเล็กๆ ที่กำลังรอการเติบโต เกาะอยู่ที่เสาสะพานนาใต้ด้วย น้องฮาล์ฟบอกว่า..ไม่แน่ หากกัลปังหาที่นี่โตเต็มวัยแล้ว อนาคตสะพานนาใต้อาจเป็นอีกแหล่งท่องเที่ยวชื่อดังของ จ.พังงาอีกแห่งหนึ่งก็เป็นได้

หลังจากดำน้ำฟรีไดฟ์สะพานนาใต้อยู่นาน พร้อมกับจัดท่าโพสให้ช่างภาพได้ถ่ายกันแล้ว นับว่าเป็นทริปที่เหนื่อยไม่เบาเลยละค่ะ จนเคทต้องขอว่ายขึ้นฝั่งก่อน หอบแฮ่ก -_- ส่วนภาพถ่ายใต้น้ำที่ได้ก็ออกมาสวยมาก ด้วยฝีมือถ่ายภาพและตกแต่งเกรดสีภาพของน้องฮาล์ฟ ยอมใจจริงๆ

ดำน้ำฟรีไดฟ์ สะพานนาใต้ พังงา
ฟรีไดฟ์ สะพานนาใต้ พังงา
ฝูงปลาที่สะพานนาใต้ พังงา
ฝูงปลาที่สะพานนาใต้ พังงา / Cr. น้องแนท
ดำน้ำฟรีไดฟ์ สะพานนาใต้ พังงา
กัลปังหา ดำน้ำฟรีไดฟ์ สะพานนาใต้ พังงา
สังเกตได้ว่าที่เสาสะพานนาใต้ จะมีกัลปังหาเล็กๆ เริ่มงอกออกมาเต็มไปหมด ^^ / ดำน้ำฟรีไดฟ์ สะพานนาใต้ พังงา
ดำน้ำฟรีไดฟ์ สะพานนาใต้ พังงา
ฟรีไดฟ์ สะพานนาใต้ พังงา

“หากกัลปังหาที่นี่โตเต็มวัยแล้ว อนาคตสะพานนาใต้อาจเป็นอีกแหล่งท่องเที่ยวชื่อดังของ จ.พังงาอีกแห่งหนึ่งก็เป็นได้

ฝูงปลาที่สะพานนาใต้
ฝูงปลาที่เราอยากเจอ ที่สะพานนาใต้ จ.พังงา
น้องปลา สะพานนาใต้
น้องปลา ที่สะพานนาใต้
โฟสท่าถ่ายภาพใต้น้ำ สะพานนาใต้ พังงา
ภาพที่เท่ห์มาก อารมณ์แบบ Aqua Man กำลังคุยกับปลาอยู่นะ
มองฝูงปลา
มองฝูงปลาจากด้านล่าง
แมงกะพรุน ดำน้ำฟรีไดฟ์ สะพานนาใต้ พังงา
แมงกระพรุน / Cr. น้องแนท
ดำน้ำฟรีไดฟ์ สะพานนาใต้ พังงา
ดำน้ำฟรีไดฟ์ มุดสะพานนาใต้ จ.พังงา
ดำน้ำฟรีไดฟ์ มุดสะพานนาใต้ จ.พังงา

ใครที่มาดำน้ำฟรีไดฟ์ที่สะพานนาใต้ พังงา อาจมาที่นี่สักช่วงเช้านะคะ ส่วนช่วงบ่ายก็เผื่อเวลาไปดำฟรีไดฟ์กันต่อที่ขุมน้ำท่าแตง จ.พังงา เป็น One Day Trip ที่คุ้มมากๆ เลย ตกเย็นก็หาร้านอร่อยๆ กิน วันถัดไปก็ค่อยไปโซนหมู่เกาะสุรินทร์ จ.พังงาค่ะ ^^

อ่านบทความอื่นเพิ่มเติม:

ดำน้ำเหมืองเก่า ขุมน้ำท่าแตง พังงา

ดำน้ำตัวเปล่า ฟินกับอ่าวสุเทพ หมู่เกาะสุรินทร์ ทริปไฟไหม้ 3 วัน 2 คืนก็ฟินได้

รีวิวกล้องกันน้ำ Olympus TG6 ดำน้ำ เทียบชัดๆ ใส่เลนส์เสริม VS ไม่ใส่เลนส์

……………………

Map: https://goo.gl/maps/JTTeQ3PC1htsermV9

🚩 พิกัด ภูเก็ต-พังงา

ขอบคุณภาพถ่ายใต้น้ำ จากน้องฮาล์ฟ ช่างภาพใต้น้ำจาก เพจ Ocean Type : นักผจญภัยใต้น้ำ

Freedive Buddy: น้องแนท