รวม 13 ที่เที่ยวโอมาน ที่สายแบกเป้ท่องโลกห้ามพลาด! โอมาน.. ดินแดนเบดูอิน…มีครบทั้งที่เที่ยวทางธรรมชาติ ทะเลทราย แกรนด์แคนยอน ที่เที่ยวทางวัฒนธรรม และโอเอซิส แถมยังคนน้อย ถนนโล่ง ปลอดภัย และฟินมากเลยค่ะ ใครที่กำลังแสวงหาเส้นทางแนว off-the-beaten path ที่อยู่นอกสายตาของคนทั่วไป ลองแพลนทริปปลายปี 65 ดูนะคะ โอมานเปิดประเทศละค่า!!
อ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่:
ขอวีซ่าโอมาน (Oman) ขั้นตอนการยื่นวีซ่า online (อัพเดท 2022)
เที่ยวโอมาน ลุยเดี่ยวตระเวน Roadtrip แดนเบดูอิน
เที่ยวโอมาน: นอนนับดาวกลางทะเลทราย ฟีลแคมป์บนดาวอังคาร


1. Bidiyah บิดิย่าห์
เป็นที่เที่ยวไฮไลท์ของทริปโอมานสำหรับเคทเลยค่ะ ที่นี่เป็นเมืองทะเลทราย ที่ๆ เราจะได้นอนในแคมป์เบดูอิน ดินเนอร์อาหารพื้นเมืองร่วมกับนักเดินทางจากทั่วทุกมุมโลก ดื่มด่ำกับค่ำคืนแห่งพระจันทร์ นอนนับดาวกลางทะเลทรายอันเวิ้งว้าง อันเป็นส่วนหนึ่งของพื้นที่ทะเลทรายกว้างใหญ่ไพศาลแห่งอาระเบีย หรือที่เรียกกันว่า Empty Quarter (Rub’ al Khali ครอบคลุมโอมาน ซาอุดิอาระเบีย UAE และเยเมน)
พระจันทร์ที่นี่สวยมาก ดาวก็เต็มฟ้าเลย บรรยากาศดีมากมาย จนนึกถึงเรื่องอาละดินเลยค่ะ
อ่านเรื่องราวฉบับเต็มได้ที่: เที่ยวโอมาน: นอนนับดาวกลางทะเลทราย ฟีลแคมป์บนดาวอังคาร


2. Wadi Bani Khalid
ถ้าได้ยินคำว่า Wadi จะหมายถึงแหล่งน้ำขนาดใหญ่ ซึ่งก็คือโอเอซิสในโอมานนั่นเองค่ะ ในโอมานมีหลาย Wadi ด้วยกัน แต่ Wadi ที่มีชื่อเสียงนั้น ได้แก่ Wadi Bani Khalid และ Wadi Shab ใครอยากสัมผัสโอเอซิสท่ามกลางหุบเขา ห้ามพลาดเลยน้า การขับรถมานาน แล้วได้จุ่มตัวลงแช่น้ำเย็นๆ ใสๆ สีเขียวมรกตใน Wadi ฟินอย่าบอกใครเลยค่ะ
Wadi Bani Khalid อยู่ห่างจากเมืองบิดิย่าห์ เพียง 40 กม. และห่างจากมัสกัต เมืองหลวงของโอมาน 203 กม. มีน้ำตลอดทั้งปี ใครเที่ยวทะเลทรายที่เมืองบิดิย่าห์เสร็จ ก็มาต่อที่นี่ได้เลยนะคะ ^^

3. As Sulaif Fort
ในโอมานมี Fort หรือปราการอยู่มากมาย และหลายๆ แห่งก็เคยเป็นปราสาทมาก่อนในอดีต As Sulaif Fort เป็นปราการในเมือง Ibri โอมาน ถูกสร้างโดยสุลต่านในราชวงศ์ยารูบี มีตัวปราสาท และบ้านเรือนมากมายในบริเวณนี้ รวมทั้งมัสยิดด้วยค่ะ สภาพปัจจุบันค่อนข้างทรุดโทรมลงไปมาก แต่ก็คงเสน่ห์ตามฉบับโบราณสถานเอาไว้ได้อย่างครบถ้วน
ใครมาที่นี่ จะเห็นว่ามีคุณลุงคนนึงคอยดูแลสถานที่อยู่ค่ะ และทำหน้าที่เป็นไกด์ด้วย
Ibri อยู่ห่างจากมัสกัต 212 กม. ใครอยากรู้แผนการเที่ยวให้ได้ไปครบทุกที่ อ่านต่อได้ทางเว็บไซต์น้า:
https://bit.ly/3tuFagK


4. Bimmah Sinkhole
เป็นหลุมยุบขนาดใหญ่ตามธรรมชาติจนเกิดเป็นแอ่งน้ำสีเขียวใสมรกต อยู่ใกล้กับเมือง Tiwi ที่นี่เล่นน้ำได้เช่นกันค่ะ จุดที่เป็นหลุมยุบจะอยู่ในบริเวณสวนสาธารณะ จึงมีลานจอดรถและสถานที่เปลี่ยนเสื้อผ้าให้ เคทเห็นอยู่ติดทะเลด้วยค่ะ ชาวบ้านที่นี่จะชอบมาเดินเล่น และมาเล่นน้ำกัน แต่คนก็ไม่พลุกพล่านเลยค่ะ บรรยากาศจะสงบมาก (เอาจริงๆ ในต่างจังหวัด เจอคนน้อยมากเลยค่ะ)
เคทมา Bimmah Sinkhole เป็นวันสุดท้ายก่อนกลับเข้ามัสกัตค่ะ เลยเล่นน้ำจาก Wadi Shab มาแล้ว ตอนมาที่นี่เลยไม่ได้เล่นน้ำอีก (เพราะขี้เกียจอาบน้ำอีกรอบ 55+) ที่เมืองนี้ดูน่าจะไม่มีที่พัก เลยเป็นที่แวะผ่านตอนวันที่ขับรถกลับมัสกัตค่ะ

5. เมืองโบราณแห่ง Qalhat
ที่นี่ได้รับการยกให้เป็น Unesco World Heritage Site เลยนะ เพราะเป็นร่องรอยแห่งอดีตของการเป็นเมืองท่าที่สำคัญ ในการทำการค้าในอ่าวเปอร์เซีย แถบชายฝั่งตะวันออกของอาราเบีย กับแอฟริกาตะวันออก อินเดีย จีน รวมทั้งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ของเราเองค่ะ
เมืองโบราณแห่ง Qalhat อยู่ห่างจากทางตอนเหนือของเมือง Sur เพียง 20 กม. เจริญรุ่งเรืองมากในช่วงศตวรรษที่ 11-16 ภายใต้การปกครองของเจ้าชายฮอร์มุส สินค้าส่งออกส่วนใหญ่จะเป็นม้า เครื่องหอม ผลอินทผาลัม และไข่มุก ต่อมาหลังศตวรรษที่ 16 ถูกโปรตุเกสรุกราน จนเมืองถูกทิ้งร้าง และกลายเป็นโบราณสถานอย่างที่เห็นในปัจจุบันนี้
ที่มาของข้อมูล: Unesco

6. Mutrah Corniche – Mutrah Souq
สองที่นี้อยู่บริเวณเดียวกันค่ะ ที่เมืองมัสกัต เมืองหลวงของโอมาน Mutrah Corniche จะเป็นเวิ้งถนนริมทะเลที่ฉากด้านหลังเป็นภูเขา สวยมากเลย ซึ่งจะมีตึกรามร้านค้ามากมาย รวมทั้ง Mutrah Souq หรือตลาดบาซาร์สำคัญของที่นี่ด้วย ที่นี่สามารถมาเที่ยวได้ทั้งกลางวันและกลางคืนค่ะ ตอนกลางคืนก็จะสวยไปอีกแบบ
ร้านค้าและมัสยิดใน Mutrah Corniche สวยน่าถ่ายรูปมากมายค่ะ รวมทั้งบริเวณท่าเรือด้วย เคทไปเดินเล่นริมฟุตบาทดู เห็นเรือสวยมาก หาที่จอดรถยากหน่อยเพราะมีแต่ทัวร์มาลงที่นี่ แต่ก็ยังพอหาได้ เพียงแค่ต้องเดินไกลนิดนึงเท่านั้นเอง ^^
ตลาด Mutrah Souq จะมีแค่ช่วงเช้า 8-10 โมงเช้าค่ะ ใครอยากมาเดินตลาดต้องเผื่อเวลาสักหน่อยน้า


7. Wadi Shab หรือ Wadi Ash Shab
เป็น Wadi โอเอซิส ที่มีชื่อเสียงที่สุดของโอมานค่ะ อยู่ห่างจากมัสกัตเพียง 1.5 ชม. และห่างจากเมือง Sur 40 นาที ที่นี่มีชื่อเสียงมากจน Red Bull เคยมาจัดการแข่งขันโดดผา หรือ Cliff Diving มาแล้ว ระดับน้ำมีตั้งแต่หัวเข่า ไปจนลึกระดับ 8 ม. น้ำใสไหลเย็นสีเขียวมรกต ไม่ค่อยมีปลา (เห็นแต่ปลาตัวเล็กมาก) เล่นน้ำได้สบายๆ ค่ะ น้ำเย็นสดชื่นดี
ที่นี่มีห้องเปลี่ยนชุดให้บริการฟรีค่ะ แต่ตอนเข้าไปต้องไปทางเรือเพียงอย่างเดียว มีค่าเรือเล็กน้อย และมีค่าไกด์นำทางด้วย (ไกด์จะกระโดดลงเรือลำเดียวกับเราไปเลย และจะดูแลเราทั้งไป-กลับ ราคาไกด์แล้วแต่จะให้น้องเลยค่า)
การเดินเท้าเข้าไปยัง Wadi Shab ขอเรียกว่า Hiking ย่อมๆ เลยค่ะ และใช้เวลากับที่นี่นานพอสมควร ใครจะมาเที่ยวชม Wadi Shab ให้เผื่อเวลาไว้เยอะๆ ค่า เช่น ครึ่งเช้า หรือครึ่งบ่ายไปเลยนะ
อ่านเรื่องราวของการเที่ยว Wadi Shab ต่อได้ที่: Wadi Shab โอมาน – สำรวจโอเอซิสกลางทะเลทรายในโอมาน กับแอ่งธารสีเขียวมรกต



8. Sur สัมผัสเสน่ห์เมืองชายทะเล ในแบบอาราเบีย
Sur เป็นหนึ่งในเมืองที่เก่าแก่ที่สุดของโอมานค่ะ สมัยก่อนเป็นเมืองท่าสำคัญ ในการทำการค้าในอ่าวเปอร์เซีย แถบชายฝั่งตะวันออกของอาราเบีย กับแอฟริกาตะวันออก อินเดีย จีน รวมทั้งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ของเราเองค่ะ และยังเป็นแหล่งต่อเรือสำคัญของเรือการค้านานาชาติที่ผ่านไปมาในคาบสมุทรนี้อีกด้วย
นอกจากทะเลแล้ว เมือง Sur เลยมีโบราณสถานให้เที่ยวชมมากมาย อาทิ เช่น Bilad Sur Castle, al Ayjah Fort, Sunaysilah Fort, old town of Sur, lighthouse ฯลฯ แถมยังอยู่ไม่ไกลจากแหล่งท่องเที่ยวสำคัญอย่าง Wadi Shab อีกด้วยค่ะ

9. Jebel Shams วิวตระการตา ของแกรนด์แคนยอนแห่ง Arabia
ใครที่มา พักที่หมู่บ้าน Misfat al Abriyyin เลยขึ้นไปหน่อยก็จะถึงแกรนด์แคนยอนของโอมานละค่า แต่แนะนำว่ารถที่จะเอาขึ้นไปแกรนด์แคนยอนควรเป็น 4WD น้า เพราะเป็นภูเขาสูง (มีคนเคยบอกว่ารถเก๋งปกติก็ขึ้นไปได้ค่ะ แต่ถ้าให้ดีควรเป็น 4WD มากกว่า) บางคนก็ไปกางเต้นท์นอนที่แกรนด์แคนยอนเลย เพื่อตื่นเช้ามาดูพระอาทิตย์ขึ้นที่นี่ หรือจะอยากไปพักที่หมู่บ้าน Misfat al Abriyyin ก็จะสะดวกสบายกว่า แถมยังได้นอนเต็มอิ่ม ก่อนออกเดินทางไปเมืองต่อไปด้วยนะ

10. Riyam Park Monument
เป็นแลนมาร์คนึงของมัสกัต โอมานเลยก็ว่าได้ค่ะ Riyam Park Monument เป็นที่เผากำยานขนาดยักษ์ สำหรับคนที่ไปเที่ยว Mutrah Corniche ให้แวะมาที่นี่ด้วยนะคะ แต่จุดถ่ายภาพบางจุดเป็นจุดที่ต้อง Hiking จึงจะเห็นวิวสวยๆ ค่า
10.1 Riyam มีจุดให้ Hiking ที่สามารถถ่ายภาพในมุมสูงได้ ซึ่งสามารถติดต่อทัวร์ท้องถิ่นได้สำหรับเส้นทาง Hike ค่า ตัวอย่างเช่น ทัวร์ไกด์
https://www.tripadvisor.com/…/maz…/mediabatch/3318131…
ถ้าจะไป Hiking ในมัสกัต ควรเผื่อวันไว้อีก 0.5 – 1 วันน้า
10.2 การใช้โดรน: เรื่องการใช้โดรน โอมานมีกฏที่ต้องขออนุญาตก่อนค่า โดยนักท่องเที่ยวต้องได้รับอนุญาตก่อนล่วงหน้าอย่างน้อย 15 วันก่อนออกเดินทาง ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ทางนี้เลยค่า https://drone-laws.com/drone-laws-in-the-sultanate-of-oman/

11.พักในบ้านดินโบราณบนภูเขา หมู่บ้าน Misfat al Abriyyin
สูง 1,000 ม. เหนือระดับน้ำทะเลค่ะ เป็นหมู่บ้านที่เคทชอบมาก ตอนขับขึ้นเขามาก็มีหวาดเสียวบ้างนิดหน่อย แต่จะมีจุดพักรถอยู่ (หากเพิ่งเคยมาครั้งแรกให้ขับด้วยความระมัดระวัง บีบแตรตรงทางโค้ง เพราะเป็น one way อาจมีรถด้านบนวิ่งสวนลงมาค่ะ พยายามขับช้าๆ นะคะ)
ที่นี่เป็นหมู่บ้านโบราณ ของชาวบ้านซึ่งเป็นเผ่า Al Abri tribe บ้านในหมู่บ้านแห่งนี้ถูกสร้างด้วยดินเหนียว บนฐานหินอันแข็งแรง มุงหลังคาด้วยใบปาล์ม ชาวบ้านทำอาชีพเกษตรกรรม และจะเห็นต้นปาล์มเยอะมาก ใช้ระบบชลประทานแบบดั้งเดิมที่เรียกว่า Aflaj ซึ่งเป็นระบบโบราณที่มีมาตั้งแต่ปีคริสต์ศักราชที่ 500
จนที่นี่ได้อีกชื่อนึงว่าเป็นโอเอซิสที่อยู่บนภูเขาค่ะ
(ระบบชลประทานแบบดั้งเดิมที่เรียกว่า Aflaj จะสร้างบ่อจ่ายน้ำไว้ที่สูงสักหน่อย แล้วให้น้ำไหลไปตามแต่ละบ้าน แต่ละแปลงอย่างทั่วถึง บ่อจ่ายน้ำจึงมีความสำคัญมาก ในสมัยก่อนจะมีคนเฝ้าบนหอคอยด้วยค่ะ)
อ่านเรื่องราว Misfat al Abriyyin เพิ่มเติมได้ที่: พักในหมู่บ้านเก่าแก่ บนภูเขาในโอมาน – Misfat al Abriyyin


12. Bahla Fort
เป็นป้อมปราการที่สร้างตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 12-15 ให้กลิ่นอายของยุคกลาง แนว Games of Throne เลยค่ะ และยังเป็นปราการเพียงแห่งเดียวในโอมานที่อยู่ใน UNESCO’s list ด้วย เคยมีการบูรณะในปี 1995 แต่ขาดการสำรวจในเชิงโบราณคดี ทำให้ดูเหมือนการบูรณะในครั้งนั้น เป็นการสร้างใหม่ขึ้นมามากกว่าการพยายามคงเค้าโครงของเดิม เพราะได้มีการเทหินและปูนซีเมนต์ลงทับจนแทบไม่เห็นโครงสร้างกำแพงเดิมเลยค่ะ
อย่างไรก็ตาม Bahla Fort เป็นปราการที่เคทชอบที่สุด รองจาก As Sulaif Fort หากใครมาโอมาน อย่าลืมมาเที่ยวชม Bahla Fort นะคะ
อ่านเรื่องราว Bahla Fort เพิ่มเติมได้ที่: Bahla ปราการในยุคกลางของ Oman กับบรรยากาศแบบ Game of Thrones

13. Nizwa Fort
เป็นปราการที่สร้างขึ้นโดยสุลต่านองค์ที่ 2 ของราชวงศ์ยารูบี สุลต่านบิล ซาอีฟ อัล ยารูบี นับเป็นป้อมปราการที่ผ่านร้อนผ่านหนาวมาตั้งแต่ปี 1650 เพราะเมือง Nizwa ต่างเคยมีข้าศึกมารุกรานอยู่บ่อยครั้ง เพราะเป็นเมืองที่มีทรัพยากรทางธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ และเป็นพื้นที่ทางยุทธศาสตร์สำคัญของเส้นทางการค้าหลายเส้นทางอีกด้วยค่ะ
ตัวป้อมปราการจึงสะท้อนถึงสถาปัตยกรรมสมัยราชวงศ์ยารูบีตอนต้นเลยค่ะ (มีคนบอกว่าโครงสร้างเดิมเก่าแก่กว่านั้น คือสร้างโดยอิหม่ามตั้งแต่ศตวรรษที่ 7 แล้วสุลต่านมาบูรณะในปี 1650)
Nizwa Fort เปิด 08.00-20.00 น.ทุกวันค่ะ อยู่ไม่ไกลจาก Misfat al Abriyyin และ Nizwa Souq
