เคทมีมิวสิควิดีโออยู่ในใจที่ดูทีไรก็อยากจองตั๋วกลับไปอินเดียทุกที (ถ้าไปอีกรอบคือรอบที่ 4 ละนะ!)
จะเก็บไว้ดูไว้ฟังคนเดียวก็เสียดาย บางมิวสิคมีเกร็ดประวัติศาสตร์แฝงอยู่ด้วย เลยหยิบมาเล่า (จริงๆ คือป้ายยา!) ให้เพื่อนๆ ได้อ่านกันค่ะ เผื่ออยากมีใครไปอินเดีย ^_^
1) ‘Hymn for the Weekend’ – Cold Play
มิวสิควิดีโอของวงดังอย่าง Cold Play นี้ใช้สถานที่ถ่ายทำหลายแห่งในอินเดียเลยค่ะ เช่น ในหมู่บ้าน Worli ทางใต้ของมุมไบ, ป้อม Bassein Fort ในมุมไบ และเมืองกัลกัตตา
แต่ฉากเปิดตัวที่ดึงเสน่ห์มนต์ขลังของความเป็นอินเดียออกมาได้ดี คงหนีไม่พ้นฉากที่ถ่ายทำในป้อมปราการ Bassein Fort เป็นภาพที่นักร้องดังบิยอนเซ่ ในผ้าคลุมส่าหรี ปรากฏกายเหมือนสตรีลึกลับให้เห็นอยู่ไกลๆ ใน Bassein Fort หญิงสาวผู้นี้เดินขึ้นป้อมปราการ พร้อมเหลียวหลังมายิ้มมุมปากอย่างน่าค้นหา เสียงกระดิ่งดังขึ้นเป็นระยะๆ ตามมาด้วยภาพนักบวชในชุดสีแสด ผ้าพริ้วปลิวสยาย เดินสาวเท้าเข้ามาในบริเวณป้อมปราการแห่งนี้ ราวกับกำลังมีมนต์พิธีสำคัญรออยู่…
[booking_product_helper shortname=”inspire search box- india”]
Bassein Fort หรือที่รู้จักกันดีในชื่อ Vasai Fort นี้ เป็นป้อมปราการเก่าแก่เกือบพันปี ถูกสร้างขึ้นเมื่อปี 1184 เป็นหลักฐานชิ้นสำคัญที่ยังหลงเหลืออยู่เพื่อบ่งบอกว่า บริเวณแถบนั้นเคยเป็นเมืองใหญ่มาก่อน เผลอๆ ใหญ่กว่ามุมไบเสียอีก เรียกว่าเมือง Vasai เคยอยู่ในมือของราชวงศ์อินเดียมาก่อน ก่อนถูกโปรตุเกสปกครองในปี 1534 สมัยนั้นมุมไบยังเป็นเมืองเกาะเล็กเกาะน้อยอยู่เลยค่ะ
Vasai เลยถูกโปรตุเกสใช้เป็นฐานที่มั่นทางการค้าและการทหาร Vasai Fort เลยถูกใช้เป็นที่พำนักของขุนนางชั้นผู้ใหญ่ชาวโปรตุเกสสมัยนั้นอีกด้วย
ใครไปมุมไบ ลองซื้อทัวร์แวะชม Vasai Fort ดูนะคะ น่าจะเป็นแลนด์มาร์คของสายถ่ายภาพได้ไม่ยาก โดยเฉพาะตอนพระอาทิตย์อัศดง แสงน่าจะสวยดี ลองหามุมเด็ดๆ ดึงเอาเสน่ห์ของสถานที่นี้มาใช้เหมือนในมิวสิควิดีโอ Cold Play ก็เก๋ดีนะ
2) Nainowale Ne
Nainowale Ne (ไน โน วาลี เน) เป็นมิวสิควิดีโอจากภาพยนตร์ที่เกือบโดนแบนไม่ให้ฉายที่อินเดียค่ะ นั่นคือเรื่อง Padmaavat หรือ Padmaavati เป็นเรื่องราวของกษัตร์ย์อินเดียพระองค์หนึ่ง นามว่า Maharawal Ratan Singh หรือ Ratan Sen มีมเหสีอันเป็นที่รัก นามว่าพระนาง Padmaavati
พระนาง Padmaavati นี้เลื่องลือเรื่องพระสิริโฉมงดงามค่ะ ถ้าใช้ภาษาสมัยนี้บรรยายคือ งามระดับมงลง งามกว่าใครทั่วทั้งกาแลคซี่ (อันนี้เคทเว่อร์ไป) แต่ด้วยพระสิริโฉมที่งดงามนี้ วันหนึ่งกลายเป็นดาบสองคม คือมีสุลต่าน นามว่า Alaudin (อะลอดิน) ผู้ทะเยอทะยาน อยากได้พระนางมาครอบครองทั้งๆ ที่ไม่เคยเห็นหน้า ถึงขั้นยกทัพมาตี กลายเป็นศึกชิงนางกันเลยทีเดียว
แต่เดี๋ยวก่อน เรื่องนี้เป็นเรื่องจริง อิงประวัติศาสตร์นะจ้ะ ไม่ใช่เรื่องแต่งแต่อย่างใด
Ratan Sen เป็นหนึ่งในกษัตริย์ของเมืองที่เรารู้จักในสมัยนี้ดี คือ ราชาสถาน ค่ะ พระนาง Padmaavati มาจากรานี Rani Padmini มีชีวิตราวช่วงศตวรรษที่ 13-14 ส่วนสุลต่าน Alaudin ที่กลายเป็นตัวร้ายในเรื่อง ก็คือสุลต่านชาวมุสลิมที่ปกครองเมืองนิวเดลีในปัจจุบันนั่นเอง
ฉากที่เห็นในมิวสิควิดีโอ(ที่มีคนเต้น Cover เยอะมาก) และมียอดวิวถึง 52 ล้านวิวบน YouTube นี้ เป็นฉากที่ Ratan Sen ขอให้นาง Padmaavati เดินทางกลับอินเดียกับตนไปอยู่ด้วยกันในฐานะภรรยาค่ะ โดยทั้งคู่เจอกันโดยบังเอิญตอน Ratan Sen พระพาสป่า แล้วดันถูกนาง Padmaavati (สันนิษฐานว่าเป็นเจ้าหญิงแห่งศรีลังกา) ยิงธนูเข้าปักที่อกเพราะนึกว่าเป็นกวาง นาง Padmaavati พา Ratan Sen มารักษาจนมีเวลาปลูกต้นรักด้วยกัน เป็นมิวสิควิดีโอที่โรแมนติกมากมาย
เรื่องราวของพระนาง Padmaavati และ Ratan Sen เป็นโศกนาฏกรรมค่ะ หากใครอยากดูว่าตอนจบเป็นอย่างไร ทำไมจึงยกย่องว่าพระนาง Padmaavati เป็นผู้หญิงที่มีน้ำใจเด็ดเดี่ยวมาก แนะนำให้ไปดูจาก Amazon Prime ได้เลยนะ หลายๆ ฉากจะรู้สึกว่าอยากวาร์ปไปเที่ยวราชาสถานจริงๆ เพราะสถานที่ถ่ายทำสวยเหลือเกินค่ะ
(ลืมบอกไป สาเหตุที่ภาพยนตร์เรื่อง Padmaavat เกือบถูกแบนไม่ให้ฉายในอินเดีย เพราะเคยมีกระแสต่อต้านเชิงศาสนาในอินเดีย รุนแรงถึงขั้นเคยมีการขู่ฆ่านางเอกกันเลยทีเดียว สงสาร Deepika Padukone นางเอกของเรื่องนี้มาก)
3) Goomar Video Song
Goomar เป็นอีกมิวสิควิดีโอหนึ่งจากเรื่อง Padmaavat ค่ะ เป็นฉากที่พระนางเปิดตัวในฐานะมเหสี (อีกคน) ของ Ratan Sen จึงเห็นว่ามีฉากที่พระนาง Padmaavati ยกมือไหว้ผู้หญิงอีกคนก่อนเริ่มการแสดงด้วย ผู้หญิงคนนั้นคือมเหสีคนแรกของ Ratan Sen ค่ะ
สิ่งที่อยากให้สังเกตคือสถานที่ในการถ่ายทำ เป็น Fort อีกเช่นเคย สามารถออกเดินทาง เที่ยวตามรอยได้ โดย Fort ที่ถ่ายทำนี้มีชื่อว่า Chittorgarh Fort เป็นป้อมปราการที่ใหญ่ที่สุดอยู่ในเมืองราชาสถาน ในปัจจุบันก็ยังคงสภาพสมบูรณ์ ได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งใน UNESCO World Heritage Site ตั้งอยู่ 175 กม.ทางตะวันออกของ Udaipur
ป้อมปราการนี้เป็นสัญลักษณ์ของความกล้าหาญแห่งวรรณะกษัตริย์เชื้อสาย Rajput ของราชาสถานค่ะ มีราชวังอยู่ภายในป้อมปราการแห่งนี้หลายวังด้วยกัน เช่น Rana Kumbha Palace, the Fateh Prakash Palace, the Tower of Victory และวังของพระนาง Rani Padmini เองก็อยู่ที่นี่เช่นกัน (วังนี้อาจสร้างขึ้นในภายหลังค่ะ เพราะสถาปัตยกรรมดูน่าจะเป็นของยุคปัจจุบันมากกว่า)
อยากไปราชาสถานแล้วววว!!
4) Mohe Rang Do Laal
มิวสิควิดีโอนี้อย่าสับสนกับ Padmavat น้า เพราะดันเป็นนางเอกคนเดียวกัน (Deepika ดังมากในอินเดียค่ะ และน่าจะดังระดับอินเตอร์ด้วย เป็นเจ้าแม่พรีเซนเตอร์ ใครไปอินเดียจะเห็นบิลบอร์ด Deepika เยอะเหมือนกัน)
แม้สถานที่ถ่ายทำส่วนใหญ่จะเป็นการเซ็ตขึ้นมาเองทั้งหมดโดยกองถ่ายในมุมไบ แต่ก็มีความวิจิตรสวยงามมาก บางฉากก็ถ่ายในราชาสถานเช่นกันค่ะ เช่น Amer Fort แถมมีอยู่ฉากนึงของหนังเรื่องนี้ที่มาถ่ายทำในไทยด้วย
มิวสิคนี้มาจากภาพยนตร์เรื่อง Bajirao Mastani เป็นภาพยนตร์อิงประวัติศาสตร์เหมือนกันค่ะ เล่าถึง ความรักต่างศาสนาของยอดแม่ทัพชาวฮินดู Bajirao และเจ้าหญิงชาวฮินดู-มุสลิม Mastani (มัสตานี) เป็นเจ้าหญิงนักรบ ภรรยาคนที่ 2 ของ Bajirao
มัสตานี เป็นลูกสาวของกษัติร์ย์ฮินดู Maharaja Chhatrasal จากแม่ซึ่งเป็นชาวมุสลิมเชื้อสายเปอร์เซีย เรื่องราวความรักของ Bajirao ซึ่งเกิดในครอบครัวฮินดู กับเจ้าหญิงมัสตานี จึงไม่ค่อยราบรื่นนัก
(เกร็ดเล็กเกร็ดน้อย: Bajirao เกิดในตระกูล Peshwa หรือ Bhat Family ค่ะ เป็นตระกูลดังที่ปกครองอินเดียมากว่าร้อยปีในศตวรรษที่ 18 ภายหลังคนจากตระกูลนี้ส่วนใหญ่ได้เป็นนายกรัฐมนตรี และคงนามสกุล Peshwa ไว้ ใครมีหนุ่มอินเดียมาจีบ ถ้าเป็นนามสกุลนี้ก็คือมาจากเชื้อสาย Bajirao เชียวนะ!)
ส่วนตัวแล้วเคทชอบภาพยนตร์เรื่องนี้มากค่ะ ดูครั้งแรกโดยบังเอิญระหว่างนั่งเครื่องบินกลับจากอินเดีย หลงรักนางเอกมาก ใครสนใจลองหาดูได้นะ ฉากแต่ละฉากคืออลังการงานสร้างจริง ๆ ลบภาพหนังอินเดียที่เต้นระบำข้ามภูเขาอย่างสมัยก่อนไปได้เลยค่ะ อินเดียเขาล้ำหน้าเรื่องภาพยนตร์มาก ๆ
5) Deewani Mastani
Deewani Mastani เป็นมิวสิคจากเรื่อง Bajirao Mastani ที่สะท้อนความเป็นลูกครึ่งเปอร์เซีย-อินเดีย ของตัวละครมัสตานีออกมาได้ดีมาก แถมสกิลการร้องการเต้นของนางเอกคือชวนให้หลง สวยแบบฟาด สวยแบบไม่เกรงใจใคร
ฉากในเรื่องนี้คือตอนที่มัสตานี ถูกแม่สามีกลั่นแกล้ง ให้ไปเต้นโชว์กลางโถงในวัง ซึ่งโดยศักดิ์แล้ว มัสตานีเป็นราชนิกูลค่ะ ไม่ควรลดตัวมาเต้นเหมือนนางระบำแบบนั้น นับเป็นการดูถูกอย่างหนึ่ง โดยแม่ยายตั้งใจจะให้มัสตานีได้รับความอับอาย แต่กลับกลายเป็นว่ามัสตานีพลิกวิกฤติให้เป็นโอกาส โชว์ลีลาการร้องและเต้นได้น่าประทับใจเอามาก ๆ ขนาดภรรยาคนแรกของ Bajirao ยังชื่นชมเลย
สถานที่จริงในประวัติศาสตร์ที่เป็นวังของ Bajirao-Mastani คือ Shaniwar Wada ในเมือง Pune, รัฐมหาราษฏระ ใครไปแถบๆ มุมไบก็ลองไปเยี่ยมชมกันได้นะ

อ่านมาถึงตอนนี้แล้ว อยากไปอินเดียกันบ้างหรือยังคะ ^^
ขอบคุณข้อมูลจาก:
tripsavvy.com/ wikipedia/ culturalindia.net
ฝากเพื่อนๆ ติดตามเรื่องเล่าจากการเดินทาง+ทริปแบบมันส์ๆ ได้ที่ 🥰🐯
Facebook: https://web.facebook.com/katewandermore
IG : https://www.instagram.com/kate_wandermore/
Twitter: https://twitter.com/kate_wandermore