หากใครที่ชอบเที่ยวคนเดียว คงเจอปัญหาถ่ายรูปให้ตัวเองติดในเฟรมภาพลำบาก บางครั้งขอให้คนอื่นที่ไปเจอระหว่างทริปถ่ายให้ อาจสวยไม่ถูกใจเพราะไม่มีสกิลในการถ่ายภาพ
เคทเคยเจอปัญหาแบบนี้บ่อยเหมือนกัน จนล่าสุดไปเจอภาพสาวสวยในกลุ่มดำน้ำ ในภาพเธอกำลังวาดลีลาดำน้ำแบบตัวเปล่าอย่างไร้ที่ติ เคทสังเกตเลยถามเขาไปว่า ถ่ายช้อตนี้มาอย่างไร พอเขาตอบเลยถึงบางอ้อเลยค่ะ
เขาถ่ายด้วยฟังก์ชั่น timelapse ของ GoPro (รู้สึกว่า GoPro จะมีฟังก์ชั่นนี้ในรุ่น Hero 5 เป็นต้นไป) ซึ่งหน้าที่ของมันคือจับภาพเรารัวๆๆ ขึ้นอยู่กับการตั้งค่า
เช่น ตั้งค่าให้จับภาพทุก ๆ 0.5 วินาที
ภาพที่ได้จะออกมาเป็นเซ็ต หลายภาพ เราก็จะคัดเอาภาพที่ดีที่สุดมาใช้ ซึ่งจากที่เคทได้ใช้ในหลายๆ ทริปที่ผ่านมา ทั้งทริปดำน้ำและทริปเดินป่า ปรากฏว่าได้ภาพที่ชอบมาหลายภาพเหมือนกัน
เรียกได้ว่า ‘เอาอยู่!’
ข้อดีของการใช้ Timelapse ในหมู่นักเดินทางที่ชอบเที่ยวคนเดียว
1.คนถือกล้องไม่จำเป็นต้องมีสกิลถ่ายภาพ แค่จับกล้องไว้เฉยๆ หรือตั้งกล้องไว้ก็ถ่ายได้
แล้วค่อยเลือกเอารูปที่ดีที่สุดมาใช้ บางครั้งได้ 5 รูปจาก 50-90 ภาพก็มี ข้อนี้ทำให้เวลาเคทออกเดินทาง แล้วขอให้ไกด์เดินป่าช่วยถ่ายภาพให้ เราก็แค่กดชัตเตอร์ แล้วเดินไปยังจุดที่อยากจะอยู่ในภาพ คุณลุงที่เป็นไกด์ก็แค่ถือกล้องไว้เฉยๆ ได้ภาพมาเกือบร้อยเลยค่ะ คัดภาพที่ดีที่สุดมาได้ตามนี้



ส่วนใครอยากใช้ขาตั้งกล้อง แนะนำขาตั้งกล้องแบบหนวดปลาหมึกค่ะ เพราะปรับมุมกล้องได้ง่าย ใช้งานง่าย ไม่ต้องพับเข้าพับออก แถมเอาไว้ยึดเกี่ยวกับสิ่งของหรือรั้วได้ด้วย
2.ได้มุมภาพแปลกตา สวย ตลก เซอร์ไพร์ส หรืออาร์ตๆ ไม่ซ้ำใคร
บางมุมภาพตลกมาก เช่นตอนไปมัลดีฟส์ เคทเล่น Timelapse ใต้น้ำ เจอแต่ภาพประหลาด ๆ ขำหน้าของตัวเอง แต่ภาพสวยๆ ดูแปลกตาก็มีเหมือนกัน




3.เก็บทุกความเคลื่อนไหว ทำให้เวลาร้อยเรียงภาพออกมาอาจเจอโมเมนต์ประทับใจ เช่น จังหวะที่เรากระโดดข้ามก้อนหิน จังหวะที่เรากวักน้ำในลำธาร จังหวะฮา ๆ ที่เราเดินเซเหมือนจะล้ม เป็นต้น

ใครออกเดินทางคนเดียวบ่อยๆ ลองหากล้องที่มีฟังก์ชั่น Timelapse มาเล่นกันดูนะคะ 😊
อ่านเพิ่มเติมเคล็ดลับอื่นๆ ได้ที่:
เที่ยวคนเดียวยังไงให้ได้ภาพตัวเองสวยๆ กลับบ้าน