1.The Polar Hat Trick (เส้นทางข้ามระหว่างขั้วโลกใต้-ขั้วโลกเหนือ ผ่านกรีนแลนด์)
ระยะทาง: ขั้วโลกเหนือ 150 กม. /กรีนแลนด์ 550 กม./ ขั้วโลกใต้ 600 กม.
ระยะเวลา: 3 เดือน (ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล)
ความยากและภยันอันตรายที่ต้องเผชิญ: หมีขั้วโลก/ ตกธารน้ำแข็งลงสู่ทะเลอาร์กติก/ลากสเลดน้ำหนัก 50 กก.ด้วยตัวเอง/ เดินวันละสิบชั่วโมง/ อุณหภูมิ -40 องศาC/ ธารน้ำแข็งหลุดออกนอกฝั่ง (ขณะกางแคมป์หลับ) / พายุหิมะ / ภาวะหิมะกัด (frostbite)
The Polar Hat Trick เป็นชื่อเล่นของเส้นทางการพิชิตขั้วโลก โดยข้ามจากชายฝั่งทางขั้วโลกเหนือ ผ่านกรีนแลนด์ เพื่อเดินไปยังขั้วโลกใต้ ซึ่งคงไม่มีใครรู้จักชื่อนี้ดีนัก ก่อนที่เมื่อไม่นานมานี้ได้มีเด็กหญิงคนหนึ่งพิชิตเส้นทางนี้มาแล้ว ในวัยเพียง 16 ปี! (เริ่มเดินทางตอนอายุ 14 ปี และเดินทางพิชิตขั้วโลกใต้ได้ตอนกำลังอายุ 16 ปี)
เธอคือ Jade Hameister เด็กสาวนักสำรวจชาวออสเตรเลีย ซึ่งการพิชิตเส้นทางนี้ได้สำเร็จ ทำให้เธอกลายเป็นแรงบันดาลใจของผู้ใหญ่หลายๆ คน แถมยังลบคำสบประมาทของคนในโลกออนไลน์ที่เคยคอมเมนต์ใต้คลิปของเธอใน YouTube ว่า “ทำแซนวิชให้ฉันกินหน่อยสิจ้ะ” (เป็นคำดูถูกของฝรั่ง ความหมายประมาณว่า ผู้หญิงอย่างเธอน่ะ ก็ทำได้แค่มีหน้าที่ทำแซนวิชให้ผัวกินเท่านั้นแหละจ้า)
เคทเดาว่า Jade น่าจะได้รับแรงบันดาลใจมาจากครอบครัว เนื่องจากคุณพ่อของเธอ Paul Hameister หนึ่งในทีมพิชิตขั้วโลกนี้ เป็นนักผจญภัยตัวยงที่พิชิต Seven Summits มาได้แล้วนะเออ (Seven Summits คือทริปปีนเขาสุดโหด ที่มุ่งพิชิตยอดเขา 7 ลูกในโลกด้วยกัน หนึ่งในนั้นคือเอเวอร์เรสต์)
แทนที่จะโฟกัสกับรูปร่างและภาพลักษณ์ ทำไมไม่โฟกัสว่าร่างกายของเราสามารถทำอะไรได้บ้าง
—Jade Hameister เด็กหญิงผู้พิชิตขั้วโลกด้วยอายุที่น้อยที่สุดในโลก
Credit คำแปล: catdumb
2.Annapurna Circuit (อันนาปุรณะเซอร์กิต เส้นทางเทรคกิ้งรอบเทือกเขาอันนาปุรณะ เนปาล)
ระยะทาง: 160-250 กม. (ขึ้นอยู่กับว่ารถจะพาเราไปดร็อปเพื่อเริ่มเดินที่ตรงไหน)
ระยะเวลา: 3 สัปดาห์ – 1 เดือน (ครบวง)
ความยากและภยันอันตรายที่ต้องเผชิญ: โรคแพ้ความสูง AMS, HAPE, HACE
Annapurna Circuit คือเส้นทางที่สายบ้าพลังน่าจะรู้จักกันดี และคุ้นหูคุ้นตาในหมู่นักผจญภัยชาวไทย เพราะนอกจากจะเดินไกลราว ๆ 300 กม.แล้ว ยังต้องใช้ความทรหด และเวลานานเป็นแรมเดือนอีกด้วย การเดินรอบเทือกเขาอันนาปุรณะเส้นทางสวยคลาสิกของสายแข็งนี้ จะเดินผ่านจุดสูงสุดที่ 5,416 ม.เหนือระดับน้ำทะเลตรง Thorung La Pass ส่วนใหญ่แล้วจะเดินกันทวนเข็มนาฬิกา เนื่องจากช่วยให้ไต่ระดับความสูงได้ในระดับที่เหมาะสมและปลอดภัยกว่า
วิวที่เห็นจะประกอบไปด้วยเทือกเขาอันนาปุรณะ (อันนาปุรณะลูกที่ 1-5), Dhaulagiri, มัจฉาปูชเร, Manaslu, Tilicho Peak, Pisang Peak , Paungda Danda ว่ากันว่าสวยงามคุ้มค่าราคาเหนื่อย
เส้นทางนี้แนะนำให้เทรคช่วง ต.ค.- ต้น ธ.ค. และ ปลาย ก.พ.-เม.ย.
3.The Ruta De Las Lagunas (ปั่นจักรยาน บนเส้นทางสุดโหดในโบลิเวีย)
ระยะทาง: 418 กม.
ระยะเวลา: 10 วันขึ้นไป
ความยากและภยันอันตรายที่ต้องเผชิญ: บางเส้นทางที่ผ่าน ปั่นจักรยานยาก เพราะ 80% เต็มไปด้วยทรายและหิน
The Ruta De Las Lagunas หรือ ‘Lagunas Route’ ในโบลิเวีย ได้รับฉายาว่าเป็นเส้นทางสุดโหดของสายปั่น แลกด้วยวิวที่สวยงามเหลือเชื่อ บนระยะทางกว่า 418 กม. เส้นทางส่วนใหญ่จะชัน เต็มไปด้วยทรายและหิน แต่นักเดินทางสามารถแพลนเส้นทางปั่นได้เองว่าจะหลบเข้าเส้นทางไหนดีกว่าเพื่อให้ทริปง่ายขึ้น
4.Pacific Crest Trail (เส้นทางเดินป่าจากเม็กซิโก ถึงแคนาดา)
ระยะทาง: 4,265 กม.
ระยะเวลา: 5 เดือน (ขึ้นอยู่กับตารางการเดินทางและการหยุดพักของแต่ละบุคคล)
ความยากและภยันอันตรายที่ต้องเผชิญ: อากาศที่ร้อนสุดขีด และหนาวสุดขั้ว
เส้นทาง Pacific Crest Trail หรือ PCT เป็นเส้นทางเดินเท้าระยะไกลถึงสี่พันกว่ากิโลเมตรที่อยู่ในใจของนักผจญภัยหลายคน เริ่มจากชายแดนเม็กซิโก-สหรัฐ ไปสิ้นสุดที่ชายแดนแคนาดา-สหรัฐ ผ่านอุทยานแห่งชาติกว่า 25 แห่ง และผ่านเส้นทางที่มีความสูงจากระดับน้ำทะเลแตกต่างกันออกไป จุดสูงสุดอยู่ที่ 4,009 ม.เหนือระดับน้ำทะเล
เนื่องจากเส้นทางกินความยาวถึง 4265 กม. ผู้เดินเส้นทางนี้จึงต้องเผชิญกับความยากลำบากของสภาพอากาศที่บ้างก็ร้อนจัด บ้างก็หนาวสุดหนาว แต่จะได้เห็นวิวทะเลทราย เทือกเขา ความงามที่ซ่อนอยู่ในป่าลึกและมิตรภาพระหว่างทางของผู้คนท้องถิ่น เป็นสิ่งตอบแทน
ในบรรดา 4 เส้นทางนี้ มีเส้นทางไหนที่อ่านแล้วรู้สึกเหมือนโดนป้ายยา อยากเก็บตังค์เสียแต่ตอนนี้หรือยังคะ ส่วนเคทนั้น หาข้อมูลไป เขียนไป หาภาพไป ได้เจอเรื่องราวของนักผจญภัยสุดแกร่งที่บางคนอายุน้อยมากๆ ตอนนี้ก็เลยโดนป้ายยาไปแล้วเรียบร้อย
แต่หากใครยังรู้สึกว่า ‘ยังไม่สุด’ ไว้จะมาเล่าให้ฟังถึงเรื่องราวของ Mike Horn มนุษย์เหล็กสุดแกร่งที่เคท (และโลก) ยกให้เป็นไอดอลกันครั้งหน้านะคะ (เป็นคนที่เคทอยากเขียนถึงมากที่สุด) ^^
/เคท Wander More.
ขอบคุณข้อมูลจาก
catdumb/icetrek.com/theage.com.au/ Wikipedia/mike horn/theadventurejunkies/pcta.org
ฝากเพื่อนๆ ติดตามเรื่องเล่าจากการเดินทาง+ทริปแบบมันส์ๆ ได้ที่ 🥰🐯
Facebook: https://web.facebook.com/katewandermore
IG : https://www.instagram.com/kate_wandermore/
Twitter: https://twitter.com/kate_wandermore
Wander More 
น่าไปมากๆเลยค่ะ
ถูกใจถูกใจ