เส้นทางเทรคกิ้ง: Kuari Pass (คัว-ริ-พาส)
พิกัด: รัฐอุตตราขัณฑ์ อินเดีย
วิธีเดินทาง (ปรับได้ตามความยืดหยุ่นและเวลาของแต่ละคน):
- นั่งเครื่องไปลง New Delhi >> พักในนิวเดลี 1 คืน
- ต่อรถบัสหรือรถไฟจากนิวเดลี ไปลงที่สถานีรถไฟเมือง Haridwar (ใช้เวลา 1 คืน เหมือนนั่งรถทัวร์จากกรุงเทพฯ ลงใต้) >> ให้รถของแคมป์มารับที่นั่นตอนเช้ามืดของอีกวัน ไปยัง เมือง Joshimath ซึ่งเป็นเบสแคมป์
- วิธีกลับ: กลับย้อนเส้นทางเดิม Joshimath >> Haridwar >> New Delhi
- (หากใครอยากไปล่องแก่งต่อ แนะนำให้ลงที่เมืองริชิเกช ซึ่งดังเรื่อง rafting เสร็จแล้วค่อยนั่งรถมา Haridwar ก็ได้นะคะ สองเมืองนี้อยู่ห่างกันแค่ 1 ชม.)
- แนะนำให้เที่ยวเมือง Haridwar ด้วย ถ้ามีเวลาเหลือสัก 2 วัน
Budget: (รวมตั๋วเครื่องบินและค่าเทรคแล้ว) 25,000-26,000 THB
ช่วงเวลาที่ไป: ธันวาคม (8 วัน)
ฤดูที่ไป: ฤดูหนาว
อุณหภูมิที่แคมป์: กลางวันเลขตัวเดียว/ กลางคืน -10 องศา
Trek Provider: เนื่องจากเคทไปคนเดียว เลยหาบริษัทที่รับคนร่วมจอยทีม โดยทาง Indiahikes เขาจะมีสล็อตวันที่จะออกเดินทางอยู่แล้ว เหมือนดังภาพด้านล่าง กรุ๊ปนึงมี 25 คน ซึ่งตอนแพลนการเดินทาง แนะนำให้จองของ India Hikes ให้เรียบร้อยก่อนที่จะจองตั๋วเครื่องบินหรืออย่างอื่นค่ะ
วิธีการจองทริปเทรคกิ้งกับ India Hikes
- เข้าไปที่ลิงค์นี้
- จะเห็นรายละเอียดของเส้นทาง และราคา 8,950 รูปีตัวโตๆ = ประมาณ 4,500 บาทไทย
- คลิ๊กเลือกกรุ๊ป (batch) ตามช่วงเวลาที่อยากไป สังเกตได้ว่าบางกรุ๊ปเต็มแล้ว (บางเส้นทางยอดฮิตต้องจองล่วงหน้าหลายเดือนเลยทีเดียว)
- ลงทะเบียน
- บนเว็บไม่สามารถชำระเงินด้วยบัตรเครดิตได้ อย่าเพิ่งตกใจ เพราะจะมีเจ้าหน้าที่ติดต่อกลับมาทางอีเมลภายในวันนั้น ให้เราขอวิธีชำระเงินแบบ international credit card เขาจะส่งลิงค์มาให้ชำระเงินออนไลน์
หลังจากจองทริปก็ให้จองตั๋วเครื่องบิน ตั๋วรถทัวร์ข้ามเมือง และที่พักในนิวเดลี เพื่อนำไปใช้ขอวีซ่า
>> รายละเอียดการขอวีซ่าอินเดีย มีคนเคยเขียนไว้ อ่านได้ที่ลิงค์นี้นะคะ
>> ตั๋วรถไฟ ไม่สามารถซื้อได้ เพราะมีกฏไม่รับการชำระเงินจาก international credit card เคทเลยหาบริษัทจองตั๋วรถทัวร์ที่รับบัตรเครดิตต่างประเทศแทน
รถทัวร์ข้ามเมือง: เคทนั่งจากสถานีรถบัสในนิวเดลี (อารมณ์เหมือนหมอชิตหรือสายใต้บ้านเรา) ไปเมือง Haridwar ซึ่งรถจะไปจอดสุดสายที่สถานีรถไฟเมือง Haridwar ในเช้ามืดของอีกวัน ประมาณ 04.30 น. อันเป็นจุดนัดพบที่ทาง India Hikes จะมารอรับเรา เวลา 06.30 น. (จุดๆ นี้ต้องไปนั่งหนาวรอในสถานีรถไฟนะ T^T)
จองตั๋วรถทัวร์ได้ที่ลิงค์นี้
แผนการเดินทาง (ของเคทมีเวลาน้อยหน่อย เพื่อนๆ เอาไปปรับได้นะคะ)
Day 1: เดินทางจาก Bangkok-Delhi (บินตรง 4hrs.) ถึงนิวเดลี เข้าพักในโฮสเทล
ตรงช่วงนี้จะมีเวลาให้เที่ยวนิวเดลี แต่เคทมาเดลีเป็นรอบที่ 3 แล้วเลยไม่ได้ออกไปไหน นอกจากไปเดินตลาดใกล้ๆ ที่พัก
ตกกลางคืนต่อรถบัสข้ามเมืองไป Haridwar
Day 2: 06.30 น. นั่งรถของ India Hikes จาก Haridwar (ฮาริดวาร์) ไปเมือง Joshimath (โจชิมาช) (10-12hrs.)
ราคารถ – Rs.5,800 /1 คัน (นั่งได้ 5-6 คน) หารค่ารถกันกับเพื่อนร่วมรถคนอื่นๆ
ถึงเบสแคมป์ที่ Joshimath พบเพื่อนร่วมเทรค
ทานอาหาร ตรวจร่างกาย ฟังบรี๊ฟจากหัวหน้าแคมป์ แล้วนอนพัก (เป็นโฮสเทล)
Day 3: ขับจากเบสแคมป์ไปที่จุดเริ่มเดินเทรค เรียกว่า Dhak; ใช้เวลา 45 นาที เริ่มเดินจาก Dhak (6,956 ft) ไปยังแคมป์ 1 Guling (9,832) ft; ใช้เวลา 5-6 ชม.
ถึงแคมป์ 1 Guling นอนเต๊นท์เป็นคืนแรก
Day 4: เช้าออกเดินจาก Guling ( 9,832) ft ไปยังแคมป์ 2 Khullara (10,492 ft); ใช้เวลา 4-5 ชม.
ถึงแคมป์ 2 Khullara แคมป์ที่มีแต่หิมะ และต้องนอนบนพื้นหิมะ 2 คืน
Day 5: วันเดินขึ้นซัมมิท ใส่รองเท้าตะปู เอาไปแต่ Day Pack ทิ้งสัมภาระไว้ที่แคมป์ ออกเดินจากแคมป์ 2 Khullara (10,492 ft) ไปยังซัมมิท Chitrakantha/Tali (11,031 ft) ผ่าน Kuari Pass (12,516 ft); ใช้เวลา 8 ชม.
Day 6: เดินจาก Chitrakantha/Tali (11,031 ft) ไปยัง Auli (8,625 ft); วันนี้ผิดแผน เราใช้เวลาเดินทั้งหมดถึง 11-12 ชม. บวกกับตอนท้ายต้องเดินเลาะผ่านหมู่บ้านที่ทางเดินลำบากมาก
นั่งรถกลับเบสแคมป์ ใช้เวลา 45 minutes
นอนพักที่เบสแคมป์ 1 คืน
Day 7: นั่งรถกลับจากเบสแคมป์ มา Haridwar ถึง Haridwar ราวๆ 6.00 pm
นั่งรถทัวร์ข้ามเมือง กลับนิวเดลี
Day 8: กลับกรุงเทพฯ
อุปกรณ์ที่ต้องเตรียม
- ถุงมือกันหนาวที่ใช้งานได้จริงๆ: สำคัญมาก ถุงมือที่เคทพกไปอุ่นมาก แต่ข้อเสียคือเวลาเดินเทรคจะเริ่มชุ่มเหงื่อ เลยต้องถอด พอถอดก็หนาว พอหนาวก็ใส่ใหม่ T^T แนะนำให้หาถุงมือแบบกันหิมะดีๆ ไปเลย เอาแบบมีห้านิ้ว ใส่แล้วกระชับมือ แต่ไม่รัดมือมากนัก
- หมวก: พกไปทั้งหมวกกันแดดที่มีผ้าปิดคอ+หมวกกันหนาว เลือกแบบที่ปิดมาถึงหูได้
- แว่นตา กันแดดกันลม: บนภูเขาที่มีหิมะขาวโพลนสะท้อนกับแสงอาทิตย์ หากไม่เอาไปจะทรมานสายตามาก น้ำตาไหลเลย (เคทลืมเอาไป เพราะครั้งนี้ใส่แต่แว่นสายตา)
- ไม้เทรคกิ้ง: มีคนถามว่าเอาไปไม้เดียวหรือสองไม้ดี? อันนี้แล้วแต่ความถนัดของแต่ละคนนะ ส่วนตัวเคทใช้ไม้เดียวมาตลอด เพราะสังเกตจังหวะการเดิน+การใช้งานไม้เท้าของตัวเอง แม้ถืออยู่สองไม้ แต่ก็ใช้หลักๆ แค่หนึ่งไม้เสมอมา ครั้งนี้เลยพกไปแค่อันเดียวเลย ไม้เทรคกิ้งจะช่วยทุ่นแรงของข้อเข่าได้ดีถึง 20-30% และช่วยในการประคองตัวในที่ๆ เดินลำบากหรืออันตราย
- รองเท้าเทรคกิ้ง: ซื้อแบบดีๆ ไปเลยนะ กันน้ำ กันหิมะ มีการยึดเกาะที่ดี เพราะจะไม่มีการใส่รองเท้าผ้าใบกีฬาบนเส้นทางสายนี้แน่นอน
- กางเกงเดินป่า: แบบแห้งเร็วและกันเลอะ อันนี้หลายคนน่าจะมีอยู่แล้ว เอาไปสัก 2 ตัว (จริงๆ ตัวเดียวก็เอาอยู่)
- ทิชชู่เปียก: เอาไปใช้บนภูเขาช่วยได้เยอะเวลาเข้าห้องน้ำ แต่ไม่ให้ทิ้งลงหลุมดินที่ทางแคมป์ขุดไว้ ให้ทิ้งในถุงกระสอบที่ทางแคมป์เตรียมไว้ให้แทน
- ยา Diamox: (สำคัญ) เวลาทาน ให้ทาน 2 วันก่อนขึ้นที่สูง (แสดงว่าทานตั้งแต่อยู่กรุงเทพฯ และตอนอยู่ที่นิวเดลี จะเป็นเม็ดที่ 2 แล้ว) เคทซื้อยาตัวนี้กับทางเภสัชกร ที่โอสถศาลา โดยบอกเภสัชกรไปว่าเราจะเดินทางบนที่สูงกี่วัน ยานี้จะช่วยเรื่องโรคแพ้ความสูง (AMS) ได้ดีระดับหนึ่ง
- ยาอื่นๆ เช่น ยาสำหรับโรคประจำตัว พาราเซตามอล เบตาดีน ยาแก้ไข้ ยาธาตุน้ำขาว แก้หวัด วิคเวเปอร์รัป ผ้าพันแผล และยาแก้ท้องเสีย
- แป้งผงโยคี โรยถุงเท้ากันเหม็นอับ
- ผ้าขนหนูแบบแห้งเร็ว
- ไฟฉายคาดศรีษะ และไฟที่ใช้ห้อยในเต้นท์
- แบตสำรอง และที่ชาร์ตพลังงานแสงอาทิตย์ เพราะเราจะไปอยู่ในที่ๆ ไม่มีไฟฟ้าใช้เลย
- Daypack เป้ใบเล็กแบบพับเก็บได้ เอาไว้ใช้วันขึ้นซัมมิท
- ใบรับรองแพทย์ จากในไทย: (เพื่อเอาไปยื่นที่เบสแคมป์) เวลาสมัครกับทาง India Hikes จะมีแบบฟอร์มส่งมาทางเมลให้พริ้นท์ออกมา แล้วเอาไปหาหมอ
- Fitness proof: หลักฐานยืนยันว่าสภาพร่างกายเราแข็งแรงพอสำหรับเส้นทางนี้ เป็นผลการวิ่งของเรา ซึ่งเขาจะตั้งเกณฑ์ไว้ว่า ต้องสามารถวิ่งได้ pace 8 เป็นอย่างต่ำ ในระยะ 5 กม. ให้พริ้นท์ออกมาด้วย (เพื่อเอาไปยื่นที่เบสแคมป์)
เราก็วิ่งบ่อยๆ แล้วเลือกอันที่ดีที่สุดไปให้เขา 2 อัน

- เอกสารยอมรับความเสี่ยงในการเทรค: พริ้นท์ออกมาจากอีเมล กรอกและเอาไปยื่นที่เบสแคมป์
*การเทรคกับ India Hikes จะไม่มีลูกหาบ เราทุกคนต้องแบกเป้เองตลอดการเดินทาง ท่องจำไว้ว่าให้ Pack light = จัดกระเป๋าให้เบาที่สุด ของเคทเป้หนัก 7 กก. เวลาอยู่บนภูเขาจะรู้สึกหนักกว่านี้สามเท่า
7 กก. x3 = ความรู้สึกหนักเท่ากับแบกเป้ 21 กก.ตอนอยู่บนภูเขา
**รองเท้าตะปู และถุงนอน: ไม่จำเป็นต้องเอาไปเองนะคะ เพราะทาง India Hikes จะมีเตรียมไว้ให้ ซึ่งถุงนอนของ India Hikes จะกันได้ -10 องศา ส่วนตัวคิดว่ายังหนาวอยู่ดีเพราะนอนบนพื้นน้ำแข็ง บรึ๋ออออออ! ถุงนอนนั้นเอาไม่อยู่ ถ้าให้ดีควรเป็นถุงนอนที่กันได้ -30 องศาไปเลย
Tips & Tricks รับมือกับความหนาวยังไงดี
ความหนาว มีผลต่อการนอนมากๆ หากเรานอนไม่หลับ พักผ่อนไม่เพียงพอ การเดินไต่เขาในวันรุ่งขึ้นจะยิ่งเลวร้ายกว่าเดิม การเตรียมให้ร่างกายอบอุ่นจึงสำคัญมาก เลยอยากแชร์วิธีเล็กๆ น้อยๆ ซึ่งอาจมีเพื่อนๆ หลายคนทราบดี เช่น
- ไลน์เนอร์ หรือซับในถุงนอน แม้ India Hikes จะมีไว้ให้ แต่เราเตรียมไปเองอีกชั้นนึงก็ดี เพราะไลน์เนอร์ดีๆ จะช่วยให้อุ่นเพิ่มขึ้นอีกตั้ง 5 องศา
- ให้เก็บของที่เราอยากให้อุ่นๆ ไว้ในไลน์เนอร์เวลานอน เช่น แบตเตอรี่กล้อง (แบตจะหมดเร็วเมื่ออยู่ในที่ๆ เย็นจัด) น้ำยาคอนแทคเลนส์, น้ำดื่ม, หรือแม้กระทั่ง ทิชชูเปียก! เคทไม่ได้เก็บทิชชู่เปียกไว้ในไลน์เนอร์ ตื่นเช้ามากลายเป็นน้ำแข็ง เอามาใช้งานตอนเข้าห้องน้ำไม่ได้เลย T^T
- Base layer ทั้งเสื้อและกางเกง เป็นสิ่งที่ควรมี
- เสื้อกันหนาว ใครๆ ก็พกไป แต่กางเกงกันหนาวนี่แหละยิ่งสำคัญ: เสื้อกันหนาวของเคท กันหนาวได้ -30 องศา อุ่นมาก แต่กางเกงเป็นกางเกงเดินป่าธรรมดา ชั้นในเป็นกางเกงไหมพรมแบบสลิม ใส่สองชั้นแล้วก็ไม่ได้ช่วยให้อุ่นอะไร เวลานอนนิ่งๆ จะทรมานมาก เย็นขา จนนอนไม่หลับ
- นอนในถุงนอน อย่าสวมเสื้อกันหนาวหมดทุกชั้น ให้ร่างกายได้มีพื้นที่ปล่อยไออุ่นออกมาในถุงนอนบ้าง (ข้อนี้วิกัส หัวหน้าแคมป์บอกมา)
- ดาวน์แจ็คเก็ตที่ไม่ได้ใส่ ให้ม้วนแขน แบบที่จะพอสอดเท้าลงไปได้ เวลานอนจะได้ไม่เย็นเท้า เพราะแค่ถุงเท้ากันหนาวก็เอาไม่อยู่
แจกแจงค่าใช้จ่าย
วีซ่า 4,358 บาท
ตั๋วเครื่องบินไป-กลับ 12,000 บาท
ค่าที่พักในนิวเดลี 2 คืน 600 บาท (โฮสเทล ชื่อ GoStops มีแมวด้วย อันนี้แนะนำให้จองผ่าน hostelworld.com)
ค่าเทรคกิ้ง 4,500 บาท
ค่าเดินทางระหว่างเมือง 2,000 บาท (ตอนเดินทางไปกลับ Haridwar-Joshimath หารกับเพื่อนชาวอินเดียในกรุ๊ปของ India Hikes ได้)
ค่าใช้จ่ายอื่นๆ เช่น อาหาร เครื่องดื่มในนิวเดลี ทิปส์ ฯลฯ 2,000 บาท (ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล ค่าอาหารเคทจ่ายน้อยมาก เพราะใช้เวลา 6 วันอยู่บนเขา ซึ่งอาหารจะรวมอยู่ในค่าเทรคที่จ่ายให้ India Hikes อยู่แล้ว อิ่มท้องตั้งแต่อยู่เบสแคมป์จนวันกลับเลย)
ประกันการเดินทาง 700 บาท (สำคัญมาก เคททำประกันการเดินทางไว้ตลอด ทุกทริปเลย)
…………………………………
อ่านรีวิวตอนที่ 1 (แคมป์ 1) http://bit.ly/2mTDNFv
อ่านรีวิวตอนที่ 2 (แคมป์ 2/ ไต่ยอดซัมมิท) http://bit.ly/2n093mQ