เคทเริ่มแบกเป้เดินทางไปต่างประเทศคนเดียวครั้งแรกเมื่อ 5 ปีก่อน ตอนนั้นมีภารกิจทางการศึกษา แต่มีจุดมุ่งหมายเพื่อไปเที่ยวมากกว่าการไปนำเสนอผลงานวิจัย 555+ หลังจากนั้นมาจึงรู้สึกว่า เฮ้ย การออกเดินทางคนเดียวต่างประเทศนี่มันไม่ใช่เรื่องยากเลยนะ เพียงแต่ต้องทำการบ้านเยอะหน่อย อาจจะมีหลงบ้าง ผจญภัยบ้าง ลุ้นบ้าง
แต่โคตรสนุกอ่ะ
ถึงแม้จะชอบเดินทาง แต่ก็ใช้ว่าจะมีเงินถุงเงินถังนาจา เคทก็ต้องเก็บออมเงินส่วนหนึ่งไปเที่ยวเหมือนกัน เลยอยากจะมาแชร์วิธีวางแผนการเดินทางอย่างไรให้สบายกระเป๋า โดยเฉพาะสำหรับขาลุยค่า
1. ที่พักราคาประหยัด
ยิ่งไปอยู่บ้านเมืองคนอื่นนานเท่าไหร่ ยิ่งเสียเงินมากเท่านั้น อันดับแรกเลยก็คงหนีไม่พ้น ‘ที่พัก’ นี่แหละ แต่สำหรับชาวแบ็คแพ็คเกอร์ทั้งหลาย ที่พักก็คือที่ทิ้งสัมภาระดีๆ นี่เอง เพราะเราไม่ค่อยห่วงกันว่าที่พักจะต้องสภาพดีแค่ไหน ห่วงเที่ยวมากกว่า เราจะหายไปข้างนอกทั้งวัน ส่วนที่พักเป็นเพียงที่ซุกหัวนอน ให้ได้เก็บเรี่ยวแรงไว้ตระเวนเที่ยวต่อ 🙂
–> ที่พักราคาประหยัดที่อยากแนะนำเป็นอันดับที่ 1 ก็คือ โฮมสเตย์ของคนพื้นเมืองสำหรับบางจุดหมายปลายทางอาจจะไม่มีระบบจองผ่านเว็บไซต์ ต้องไปจองเอาที่นั่นเลย หรือต้องให้บริษัททัวร์ช่วยจัดการให้ ตัวอย่างเช่น สมมติว่าเราจะไปเดินเขาแถวเนปาล เราก็จองทริปเดินเขา ซึ่งราคารวมที่พักไปเรียบร้อยแล้ว
นอกจากนี้ สำหรับคนที่อยากเดินทางด้วยความอุ่นใจ อยากจองไปล่วงหน้า เคทมีเว็บที่เปรียบเทียบราคาที่พักมานำเสนอล่ะ
– Hostelworld.com
ใครบอกว่า Airbnb ราคาถูก อันนี้ไม่เสมอไปนะ เคทว่าขึ้นอยู่กับจุดหมายปลายทางและจำนวนตัวเลือกด้วย Hostelworld.com เป็นเว็บที่อยากนำเสนอมากๆ เอาไว้เป็นตัวเลือกนะคะ
เดี๋ยวนี้ธุรกิจ Hostel หรือ Youth Hostel กำลังน่าจับตามอง โดยเฉพาะในแถบเอเชียที่ได้ชื่อว่ามีระบบโฮสเทลที่อวดฝรั่งได้เลยนะ การพักโฮสเทล คือระบบที่พักแบบหอพักนักศึกษา ในหนึ่งห้องจะมีหลายเตียง เตียงสองชั้น และใช้ห้องน้ำรวมร่วมกันเหมือนตอนเรียนมหาลัยเลยค่ะ แต่เดี๋ยวนี้บางโฮสเทลก็พัฒนา มีการทำห้องไพรเวทรูม แบบมีเตียงเดี่ยว หรือเตียงคู่ขึ้นมาให้เห็นแล้วบ้างเหมือนกัน
โฮสเทลจึงไม่ได้เหมาะกับวัยรุ่นอย่างเดียวแล้วล่ะ
การพักโฮสเทล นอกจากข้อดีเรื่องราคาแล้ว ยังทำให้เรามีโอกาสพบปะพูดคุยกับเพื่อนชาวต่างชาติ หลายคนได้เพื่อนใหม่จากการพักโฮสเทลนี่แหละ
ภาพจาก: hostelgeeks
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากเป็นการพักกับคนแปลกหน้าล้วนๆ ทางโฮสเทลส่วนใหญ่จะมีล็อคเกอร์ให้เราเก็บสัมภาระและของมีค่าค่ะ อันนี้ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษเพราะเคยได้ยินว่า มีเคสแบบวางของมีค่าไว้บนเตียง แล้วโดนขโมย คนที่ขโมยก็คือคนที่เราพบปะพูดคุยด้วยกันทุกวันนี่แหละจา บรึ๋ยยยย! พวกโน๊ตบุ้ค มือถือและกล้อง ต้องเก็บไว้ให้ดี
– Airbnb.com
หลายคนคงรู้จัก Airbnb แล้ว เว็บไซต์นี้ช่วยให้เราได้พักในบ้านของคนท้องถิ่น ทำให้ได้สัมผัสบรรยากาศชีวิตความเป็นอยู่ของคนพื้นเมือง นอกจากที่พักแล้ว เว็บไซต์ยังมีบริการจองทัวร์และกิจกรรมต่างๆ ด้วยนะ
– TripAdvisor.com
แต่ก่อนเป็นเว็บที่เน้นการรวบรวมรีวิวจากผู้ใช้บริการจริง เดี๋ยวนี้ TripAdvisor โดดมาให้บริการจองที่พักผ่านเว็บได้แล้ว
– Wimdu.com
คล้าย Airbnb แต่เหมาะสำหรับหาพวกอพาร์ทเมนต์ให้เช่าแบบระยะยาว
2. ตั๋วเครื่องบินราคาประหยัด
เว็บที่เคทใช้อยู่ตอนนี้และรู้สึกถูกใจมากกกกก ก็คือ
– Traveloka
คิดว่าเพื่อนๆ หลายคนคงรู้จักเว็บไซต์นี้เป็นอย่างดี Traveloka เป็นเว็บไซต์ที่ช่วยเปรียบเทียบราคาตั๋วโดยสารเครื่องบินของสายการบินต่างๆ รวมทั้งที่พัก เพียงแค่พิมพ์ชื่อเมืองต้นทางกับปลายทางที่เราจะไป หรือชื่อสถานที่ พร้อมวันที่ที่ต้องการเดินทาง แค่นี้เว็บไซต์ก็จะรวบรวมราคา พร้อมรายละเอียดมาให้
ความดีงามของ Traveloka ก็คือ
1) สามารถกดเลือกประเภทชั้นโดยสารได้ ไม่ว่าจะอยากบินแบบ Economy, Premium Economy, หรือ Business ซึ่งยังไม่มีฟีเจอร์นี้ในเว็บอื่นๆ ทำให้เอื้อต่อการเลือกบินชั้นบินแบบประหยัด
2) ใครที่จองโดยใช้บัตรเครดิตอยู่แล้วคงมีเฮ เพราะ Traveloka มักจัดโปรโมชั่นร่วมกับบัตรเครดิตลอด แถมยังมีโค้ดส่วนลดแจกด้วยนะ!
3) ใครไม่มีบัตรเครดิตก็ไม่ต้องวุ่นวายไปยืมบัตรคนอื่นมาจองตั๋วแล้ว เพราะ Traveloka เปิดให้จองได้โดยวิธีโอนเงิน (ATM, Internet Banking, โอนผ่านธนาคาร) รวมทั้งเคาน์เตอร์เซอร์วิส วิ่งไปจ่ายเซเว่นก็ยังได้
ซึ่งอันนี้เราว่าดีตรงที่เราไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมแพงๆ จากการจ่ายผ่านบัตรเครดิตด้วยนะ ทำให้เราได้ราคาตั๋วที่ถูกจริงๆ
4) ระบบเปรียบเทียบราคาขั้นเทพ: Traveloka มีระบบเปรียบเทียบราคาและแสดงผลลัพธ์การค้นหาของทุกไฟล์ท ทุกสายการบินได้ในครั้งเดียว รวมทั้ง Connecting Flight ที่ต้องเปลี่ยนเครื่องแบบคนละสายการบินด้วยนะจ้ะ ไม่ต้องไปเปิดหาทีละเว็บให้เวียนหัว
5) หายห่วงเรื่องราคาค่าใช้จ่ายแอบแฝง: หากใครเคยเจอประสบการณ์จองตั๋วหน้าแรกๆ แล้วราคาถูก แต่พอกดลึกลงไปทีละด่านๆ ก็เจอแพงขึ้นเรื่อยๆ อันนี้หมดห่วงเมื่อจองผ่าน Traveloka เพราะค่าใช้จ่ายที่ระบบโชว์ในหน้าแรก จะเป็นราคาสุดท้ายที่เราต้องจ่ายจริง เย้ๆๆ
บางทีปิ๊งไอเดียอยากไปเที่ยวไหน ก็เปิด Traveloka ก่อนเลย ขอเช็คก่อนว่าสู้ราคาตั๋วไหวไหม ถ้าไหว
เคทก็ไป! เคยได้ยินไหมว่า
“จองตั๋วก่อน เรื่องอื่นค่อยกังวลทีหลัง ” ฮ่า!
Traveloka มีแอปรองรับ สำหรับ iOs และ Android โหลดมาใช้ได้เลย
3. ทริปทัวร์ราคาประหยัด
สำหรับคนที่ชอบเข้าป่า เดินเขา ทำกิจกรรมต่างๆ นอกจาก Airbnb Experiences แล้ว อยากแนะนำอีกเว็บนึงที่เคทใช้ประจำ คือ
–Bookmundi
อ่านว่าอะไรไม่รู้ เคทอ่านว่า ‘บุ้คมันดิ’ แปลเอาเองมั่วๆ ว่า ‘จองเลยดิ’ ฮ่าๆๆ
เป็นเว็บใช้เปรียบเทียบราคาทริปกิจกรรมต่างๆ แต่จุดหมายปลายทางอาจจะจำกัดหน่อย บางทีเสิร์ชไม่ค่อยเจอ
ตัวอย่าง: ลองเสิร์ชว่าจะไปเทรคกิ้งเส้นทาง Langtang Valley Trek ที่เนปาล จะขึ้นเปรียบเทียบราคาของบริษัททัวร์ต่างๆ มาให้ พร้อมรายละเอียดว่า ราคานี้เท่ากับการเดินเขากี่วัน และตารางการเดินทางของบริษัททัวร์
4. ลดความเสี่ยงค่าใช้จ่ายในอนาคต ด้วยประกันภัยการเดินทาง
ไม่ว่าทริปนั้นจะลุย จะเสี่ยงแค่ไหน หรือไม่เสี่ยงเลย แต่อันตรายและอุบัติเหตุก็เกิดขึ้นได้ทุกเมื่อตั้งแต่เท้ายังไม่เหยียบสนามบินด้วยซ้ำ การซื้อประกันการเดินทางจะช่วยลดค่าใช้จ่ายที่อาจเกิดขึ้นจากเรื่องที่ไม่คาดฝันระหว่างเดินทาง ประกันภัยที่เคทใช้เจ้าเดียว ใช้ประจำ และไม่แพงนัก คือ
– WorldNomads
ถ้าไปในบางจุดหมายปลายทางที่เสี่ยงมากๆ และการกู้ภัยไปไม่ถึง ให้ซื้อประกันที่ครอบคลุมแบบมีเฮลิคอปเตอร์มารับเลยนะ อันนี้พูดจริง ><
ที่รวบรวมมา เป็นเพียงองค์ประกอบหลักที่จะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในการเดินทางมากที่สุด แต่นอกจาก 4 ข้อนี้แล้ว เคทว่า..
5. การเตรียมตัวหาข้อมูลและวางแผนการเดินทางที่ดี
ก็ช่วยให้เราประหยัดได้อีกทางหนึ่งด้วย เช่น การวางแผนการเดินทางจากสนามบินไปที่พัก ไปยังไง มีรถ shuttle bus ของสนามบินหรือเปล่า หรือทางที่พักมีบริการมารับไหม หรือต้องเช่ารถขับตลอดทริปจึงจะคุ้มกว่า? ฯลฯ ซึ่งก็มีอีกเว็บไซต์นึงที่ช่วยได้
Rome2rio
เป็นผู้ช่วยของคนที่กำลังวางแผนการเดินทาง เพียงแค่กรอกชื่อเมืองต้นทาง-เมืองปลายทาง เว็บจะโชว์รายละเอียดขึ้นมาว่าไปยังไงได้บ้าง ราคาค่าโดยสารเท่าไหร่ และใช้เวลานานแค่ไหน เก๋กู้ดอย่าบอกใคร แม้จะมีจุดบอดอยู่บ้างในบางเส้นทางที่ระบบคำนวณไปไม่ถึง เช่น ทะเลทราย หรือถิ่นทุรกันดารต่างๆ
เห็นไหมว่า กว่าเรื่องเที่ยวจะกลายเป็นเรื่องง่ายๆ เราต้องมีคลังแสงเว็บไซต์ต่างๆ มาเป็นตัวช่วยในการวางแผนการเดินทางด้วยนะ เท่านี้ก็ได้เวลาแบกเป้ไปท่องโลกกันแล้ว!