“
When the wind’s from the east and the sun’s from the west
And the sand in the glass is right
Come on down, stop on by
Hop a carpet and fly,
To another Arabian night.
”
– – Aladin, Arabian Night – –
ภาพของเต้นท์ขนแพะสีดำ กลางทะเลทรายที่ดูเวิ้งว้าง ใครจะไปคิดว่านี่จะเป็นที่นอนของฉันหลังจากวันที่รอนแรมขับรถมาไกลจากต่างเมือง
หากให้บรรยายโอมานในหนึ่งคำ ขอบรรยายว่าเป็น “ดินแดนแห่งทะเลทรายเหลืองอร่ามที่โอบล้อมด้วยภูเขา”
แม้ทะเลทรายของที่นี่จะไม่ได้มีทะเลสาบสวยๆ เหมือนที่จีน และแม้ชาวเบดูอินจะไม่ได้อาศัยกันในแคมป์เหมือนสมัยก่อนแล้ว แต่กลิ่นอายของความเป็นอาหรับราตรียังคงมีอบอวลไปทั่ว จุดเด่นของการดั้นด้นมาเยือนทะเลทรายที่นี่คนเดียว คือการได้สัมผัสบรรยากาศตอนนอนนับดาวกลางทะเลทรายอันเคว้งคว้างในยามค่ำคืน ใน Wahiba Sand
อ่านเรื่องราวขับรถลุยเดี่ยวแบบมึนๆ ไปบิดิย่าห์ [Bidiyah] ได้ที่:
1358 กม.ขับรถ Roadtrip ลุยเดี่ยวในโอมาน + แจกแผนการเดินทาง โหลดไฟล์ไปใช้ได้เลย
วิธีเดินทาง:
เคทขับรถจากหมู่บ้านโบราณ Misfat al Abriyyin ในโอมาน รวดเดียวมาที่นี่ ใช้เวลาราว 4-5 ชั่วโมงค่ะ นัดทางแคมป์ไว้ว่าเจอกันที่ Station (ออฟฟิศของทางแคมป์)
ใครเช่ารถมา ให้จอดรถของเราไว้ที่นั่น แล้วเขาจะขับพาเราเข้าทะเลทรายไปกับรถ 4WD ของทางแคมป์ (หรือหากใครเช่ารถ 4WD มาอยู่แล้ว ก็ให้ขับตามเขาเข้าไปในทะเลทรายได้เลย)
พักที่แคมป์ไหนดี:
จริงๆ หาแคมป์หรือที่พักกลางทะเลทรายง่ายมากเลย แถมตัวเลือกเยอะด้วย แค่เสิร์ชหาก็ขึ้นมาให้เลือกเพียบ ส่วนเคทเลือกพักที่ Oman Desert Private Camp ค่ะ เพราะที่นั่นใช้แคมป์แบบเบดูอิน ได้บรรยากาศแบบอาหรับราตรีดี ส่วนเรื่องราคาที่พัก เช็คจากหลายๆ แห่งแล้วราคาไล่เลี่ยกันค่ะ ขึ้นอยู่กับสภาพและความหรูหรา ของ Oman Desert Private Camp ราคาจะอยู่ที่ประมาณ 5000 บาทต่อคืน ต่อแคมป์ 1 หลัง พักได้ 3 คน (มาคนเดียวก็ปาดเหงื่อไปเหมือนกัน แต่ถือว่าซื้อประสบการณ์ค่ะ ตอนไปจริงๆ อยากอยู่ต่ออีกคืนเลยด้วยซ้ำ และถ้าเทียบกับทะเลทรายในจีน ที่นี่ราคาถูกกว่า 3 เท่าเลยค่ะ)
ความน่ารักของที่นี่คือ เขาสร้างแคมป์เบดูอินยกระดับขึ้นจากพื้นทราย เพื่อไม่ให้ทรายเข้าเต้นท์ แถมยังมีห้องน้ำส่วนตัวของแต่ละเต้นท์ด้วย ทั้งใช้อาบ ล้างหน้า และทำธุระส่วนตัวได้สบายๆ (แต่จะหวิวๆ หน่อยนะ เพราะมองจากพื้นห้องน้ำลงไปจะเห็นทรายเลย >-< )
ที่เคทชอบคือ มีลานดูดาวกว้างๆ ที่หน้าเต้นท์ให้ด้วย ไว้นอนดูดาวได้ แถมมีที่นอนและที่นั่งไว้ปูที่ลานดูดาวด้วย ใครเป็นสายถ่ายดาวอาจผิดหวังนิดนึงหากมาในคืนเดือนแจ้งค่ะ เพราะแสงจันทร์สว่างจ้ามาก กลบแสงดาวไปเยอะเลย แต่ลานดูดาวแข็งแรง ใช้ขาตั้งกล้องถ่ายภาพได้มั่นคงดี
มีเรือนรับประทานอาหาร ซึ่งทางแคมป์จัดเลี้ยงไว้อย่างดี อิ่มทุกมื้อเลยค่ะ อาหารโอมานเคทมองว่าคล้ายๆ อาหารอินเดียนะ (ราคาที่พัก ไม่รวมอาหารเย็นและอาหารค่ำ ต้องจ่ายอีก 15 OMR หรือราว 1200 บาท T^T)
สภาพอากาศ:
เคทไปเดือนตุลาคม ซึ่งเป็นช่วงที่อากาศถือว่าร้อนน้อยสุดของโอมานค่ะ ส่วนในทะเลทรายลมจะแรงมาก ลมแรงช่วงเย็นไปจนถึงหัวค่ำ (ทรายจะเข้าเต้นท์ ต้องปัดออกจากที่นอนก่อนนอน) แต่พอดึกๆ แล้วจะลมหายไปเอง
ตอนค่ำๆ อากาศจะเย็นค่ะ เลยนอนได้โดยไม่ต้องเปิดพัดลม
การแต่งกาย:
โอมานเป็นประเทศมุสลิม ควรเคารพเรื่องการแต่งกายของที่นี่ โดยควรแต่งกายมิดชิดและไม่รัดรูป ในทะเลทรายลมแรง ไม่แนะนำให้ใส่กระโปรงค่ะ หรือหากอยากใส่เพื่อถ่ายรูปพริ้วๆ สวยๆ ก็ให้ใส่กางเกงเลกกิ้งไว้ข้างในอีกชั้น
ส่วนรองเท้า ให้ใส่แบบทะมัดทะแมง หากเป็นรองเท้าผ้าใบธรรมดา ทรายจะเข้าเยอะหน่อย (กลับมาจากทริป ทรายยังติดอยู่ในรองเท้าอยู่นาน ต้องเอาไปซัก -_- )
บรรยากาศกลางคืนบอกเลยว่าโรแมนติกมาก เหมาะแก่การวางแผนขอแฟนแต่งงาน หรือฮันนีมูน เคทไปเจอแขกที่มาพักคู่หนึ่งชาวอเมริกัน เป็นคู่รักนักเดินทาง ผู้หญิงเป็นทนาย ผู้ชายเป็นมังสวิรัติ ทั้งคู่ลาออกจากงานมาเดินทางรอบโลกด้วยกันสองคนกะหนุงกะหนิงดีค่ะ
ส่วนใครที่ไปคนเดียว ก็นอนดูดาวไปเนอะ (ไม่ร้องนะ โอ๋ๆ 555+)
ฝากเพื่อนๆ ติดตามเรื่องเล่าจากการเดินทาง+ทริปแบบมันส์ๆ ได้ที่ 🥰🐯
Facebook: https://web.facebook.com/katewandermore
IG : https://www.instagram.com/kate_wandermore/
Twitter: https://twitter.com/kate_wandermore
2 thoughts on “Wahiba Sand: นอนแคมป์ เบดูอิน ถิ่นอาหรับราตรี Omani Desert”